“มิค บรมวุฒิ” ปวดใจ ลูกชายมีอาการแพ้ซ้ำรอยพี่สาว รอครบ 4 เดือนจะตรวจให้ชัด รับสงสารเมีย ต้องงดทุกอย่างที่ลูกแพ้ พักมีลูกคนที่ 4 แต่ยังไม่ปิดอู่ ไม่ทำหมัน ฟุ้งลูกๆ รักกันมากเพราะปลูกฝังตั้งแต่ในท้อง
ว้าวุ่นกับอาการแพ้อาหารประเภทไข่ไก่และนมวัวของลูกสาวคนที่สองมาครั้งหนึ่งแล้ว สำหรับครอบครัวของ “มิค บรมวุฒิ หิรัญยัษฐิติ” และ “เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา” แต่ล่าสุดอาการดังกล่าว ก็ยังมาเกิดขึ้นกับลูกชายคนเล็กอย่าง น้องเปรมในวัย 2 เดือนอีก งานนี้ก็ทำเอาหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ทรมานสุดๆ วันนี้ได้เจอคุณพ่อมิค ก็เลยขออัปเดตถึงเรื่องนี้กันหน่อย ว่าหลังจากพาลูกไปหาคุณหมอมาแล้ว อาการเป็นอย่างไรบ้าง
“ลูกชายแพ้อีกแล้วครับ แต่ยังไม่รู้ว่าอาการจะเท่าของปรางไหม แต่ว่าก่อน 2 เดือน ปกติเด็กเบบี๋มันจะมีผิวลอกๆ นิดหน่อย ซึ่งเราก็เข้าใจว่าอย่างนั้น แต่มันกลายเป็นว่ามันเริ่มเป็นผื่น ผื่นเหมือนของน้องปราง คือมาขึ้นที่ตัวด้วย เพราะส่วนใหญ่ถ้าเป็นผื่นปกติจะมีแค่หัวกับหน้า แต่ทีนี้มันเริ่มมาที่ตัว ข้อศอกก็มี เราก็เอ๊ะ...ทำไมหนอ
แล้วมีอยู่วันหนึ่งชัดมาก คือเบนซ์เขาไปงานเบบี้ชาวเวอร์ของวิกกี้ (สุนิสา เจทท์) กับพี่ชาย (ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) แล้วเขาดันกินช็อกโกแลต คืนนั้นให้นมก็ผื่นขึ้นเลย เราก็แบบเอาแล้วแม่เอ๋ย น่าจะใช่แล้ว ก็เลยไปหาคุณหมอที่เดิม แต่วันนั้นผื่นเขาเต็มตัว เวลาสกินเทสต์ ตัวคอนโทรลมันขึ้น แต่ว่าตัวไข่ไก่ นมวัวมันขึ้นไม่ชัด มันก็น่าจะเป็นประมาณนั้นแหละ
ซึ่งพอหลังจากนั้นเบนซ์ก็ต้องงด ก็โอเคแล้วทุกวันนี้ แต่บางวันก็มีผื่นอีกหน่อย เลยคิดว่าหรือเขาแพ้อย่างอื่นเพิ่มเติมอีก แต่ว่ามันจะตรวจเลือดได้ประมาณเดือนที่ 4 เพราะตอนนี้น้องเปรมเพิ่ง 2 เดือนกว่าๆ ครับ ถามว่าต้องระวังเป็นพิเศษไหม จริงๆ ไม่ต้องระวังนะ ก็แค่งดในสิ่งที่เขาแพ้ (หัวเราะ) แต่มันเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตเบนซ์เขา ว่าขนม เค้ก ฉันกินไม่ได้”
บอกภรรยาน่าสงสารที่สุด เพราะต้องงดทุกอย่างที่ลูกแพ้
“เบนซ์คือคนที่น่าสงสารที่สุด เพราะต้องงดทุกอย่าง แต่มันง่ายสำหรับบ้านเราระดับหนึ่ง เพราะว่าปริมรู้แล้วว่าเขาต้องวางตัวยังไง เพราะเขาเคยแล้วที่กินข้าวไข่เจียวแล้วไปจุ๊บแก้มน้องปรางแล้วผื่นขึ้นหมด ดังนั้นเขาก็จะรู้ตัว ก็จะแบบพ่อพาปริมไปล้างปาก ปริมจะจุ๊บน้อง
แต่ถ้าจะระวังอะไรเกี่ยวกับเปรม ก็น่าจะระวังพี่ๆ นี่แหละ เพราะสนุกสนานมากกับน้อง พอเขาสนุกอยากเล่นด้วยก็จะเหมือนหมั่นเขี้ยว แต่การที่แสดงออกบางทีมันก็ดูรุนแรง ไปหยิกแก้มน้อง แล้วก็บอกเจ้าอ้วนๆ ซาลาเปาของพี่ เราก็จะแบบเบาๆ น้องเพิ่ง 2 เดือน”
บอกสบายลูกชายคนนี้เลี้ยงง่ายมาก
“คนนี้เลี้ยงง่ายมาก กลายเป็นผู้ชายเลี้ยงง่ายมาก ร้องมาแอ้หนึ่งก็คือหิว กินเสร็จหลับ ถ้าไม่หลับก็ตาแป๋วนั่งยิ้มทั้งวันเป็นแป๊ะยิ้มอยู่อย่างนั้น เลี้ยงง่ายมากผิดกันเลย คนกลางก็เลี้ยงง่ายแหละ แต่ตอนนั้นเราเข้าใจว่าเลี้ยงยาก เพราะเราดันไม่รู้ว่าเขาแพ้ พอเขาแพ้ตอนนั้นก็เป็นมือใหม่ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เพิ่งรู้ว่าลูกตัวเองแพ้ มันก็เลยดูเหมือนเป็นเรื่องยาก กับเปรมก็คงต้องดูเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ยากแล้ว เพราะเราผ่านมาแล้ว”
การเป็นคุณพ่อลูก 3 ต่างกับคุณพ่อลูก 2 ตรงที่ปวดหลังมาก
“ปวดหลัง คือปรางอยู่ข้างหนึ่ง เปรมอยู่ข้างหนึ่ง ปริมอยู่หลัง แล้วบางทีพี่ปริมพี่ปรางเขาก็สลับกัน แลกกันว่าใครจะขี่หลัง ลำบากมากพูดเลย”
สมใจมากในที่สุดก็ได้ลูกชายแล้ว
“สมใจ ในที่สุดก็ได้ผู้ชาย คือโชคดีมากที่คุณหมอเตือนเราไว้ตั้งแต่แรก ว่าอยากมีลูกหลายคนไหม ถ้าอยากมีหลายคนเนี่ย ลองเก็บไข่ไว้ก่อนไหม ซึ่งเราก็โอเค เพราะตอนท้องปริม เราสองคนอายุ 35 คลอด 36 แต่เปรมเราเก็บไข่ไว้ตั้งแต่อายุ 35 แล้วเราก็ผลิตเองตามธรรมชาติจนได้ปริมมา แล้วพออายุ 37 จะ 38 ก็คือมีปราง
เสร็จแล้วพอจะ 40 เราก็อยากมีอีก แต่ไม่รู้ว่าเบนซ์แข็งแรงไหมแล้ว ณ ตอนนั้น แล้วหมอก็บอกว่าเก็บไข่ไว้แล้วนี่ คือเราก็ลืมก็เราเก็บไข่ไว้ ซึ่งจริงๆ ตามหลักแล้วเปรมเป็นพี่ทุกคนนะ พอเอาไข่ออกมาก็โชคดีไปอีก คือไข่ที่แข็งแรงที่สุดคือผู้ชาย ก็แบบอู้ว แสดงว่าต้องมาแล้วแหละลูก (หัวเราะ)”
จะมีเพิ่มอีกสักคนไหม ในตอนนี้ต้องพอก่อน แต่อนาคตยังไม่แน่ เพราะตอนนี้ก็ยังไม่มีใครทำหมัน
“พอก่อน ที่ใช้คำว่าพอก่อนเพราะว่ายังไม่แน่ ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครทำหมัน คือก่อนหน้านี้เราเถียงกัน เบนซ์ก็จะให้เราทำหมัน เราก็บอกว่าอ้าว...ในเมื่อหนูจะต้องผ่าอยู่แล้ว ก็ทำหมันไปสิ เขาบอกไม่ได้ พี่เป็นผู้ชายพี่ต้องทำ แต่เราก็บอกว่าเราไม่เคยได้ใช้งานมัน จะไปทำหมันทำไม นอกจากเบนซ์จะร่างสนธิสัญญาความสวีตของเราขึ้นมาใหม่ แล้วมิคจะยอมทำหมันทันที เพราะตอนนี้ไม่ได้เข้าใกล้กันเลย แล้วจะทำหมันเพื่อ ไม่มีทาง
แต่วันที่จะคลอดมันน่ารักมาก คือคุณหมอเขาก็ถามอีกทีว่าจะให้ทำหมันเลยไหม ในใจมันพูดทำไปเลยครับ แต่สิ่งที่เห็นคือพอเรามองหน้ากัน ตามองตา แล้วหันมาพูดพร้อมกันเลย ว่ายังค่ะ ก็เลยอุ้ย...คิดเหมือนกัน (หัวเราะ) เผื่อสนุก เผื่ออยากเป็นหนี้เพิ่ม”
การมีลูก 3 เหนื่อยต้องเพิ่มหลายคูณ แต่พอกลับบ้านแล้วลูกมากอดความเหนื่อยมันก็หายไปหมด เรียกว่าวุ่นวายมากกว่า
“เหนื่อยเพิ่มหลายคูณเลย เพราะเลขมันไม่ลงตัว คือถ้าเกิน 1 พ่อแม่ช่วยกันดูแลได้ 2 ก็พ่อคนแม่คน แต่พอ 3 มันเหนื่อย แต่ก็ไม่อยากใช้คำว่าเหนื่อย เรียกว่านอนน้อยดีกว่า มันไม่เหนื่อยเลย เพราะตอนกลับถึงบ้านแค่เขาวิ่งเข้ามากอด มันหายเหนื่อยจริงๆ ดังนั้นมันไม่เหนื่อยแต่แค่มันวุ่นวายมาก (หัวเราะ)”
เผยวิธีสอนลูก
“พูดง่ายๆ เลยว่าตั้งแต่จะมีปรางมีเปรมเนี่ย เราเอาพี่ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องตลอด คือเวลาจะถ่ายรูปว่าท้องเบนซ์ใหญ่ขึ้นทุกเดือน ก็จะบอกปริมมายืนด้วยลูก เนี่ยน้องอยู่ในนี้นะ แล้วก็พาเขาไปอัลตร้าซาวด์ด้วยทุกครั้ง เขาก็จะบอกว่านี่น้องหนูเหรอๆ ปริมถึงได้ตั้งชื่อปรางว่าเป็ด น้องเป็ดๆ จนต้องบอกว่าพ่อขอร้องอย่าชื่อเป็ด พอมาตั้งท้องน้องเปรม เราก็พาทั้งปริมและปรางไป ปริมก็ตั้งชื่อน้องอีก ว่าคนนี้ชื่อปุ้ย ปุ้ยมาจากไหนวะ (หัวเราะ) เขาเรียกปุ้ยจนวันคลอด เราต้องมานั่งหลอกว่าชื่อเปรมกับชื่อปริม แค่ตัดสระเอ แล้วใส่สระอิ ก็ชื่อเหมือนหนูเลยนะ เขาถึงบอกโอเคก็ได้ (หัวเราะ)
ก็คือต้องเอาลูกเข้ามาเกี่ยวข้องให้ได้เยอะครับ ให้เขาก็จะรู้สึกว่าเขาก็เฝ้ารอ นี่คืออีกเหตุผลหนึ่ง ที่เวลาปริมอยากจะอุ้มน้อง แล้วปู่ย่าตายายจะบอกระวังๆ แล้วเราต้องบอกว่าปล่อยเขาครับ เพราะเขาก็เฝ้ารอมาเท่ากับเราเหมือนกัน ปล่อยเขาเหอะ แค่ก็ต้องตกลงกับเขาว่าอยู่บนฟูกนะลูก อยู่ในโซฟาอย่าเดินเยอะ (หัวเราะ) ตอนนี้ก็กลายเป็นว่าเราเลี้ยงทั้งแม่มัน แล้วลูกทั้ง 3 ครับผม”
