“ซาร่า”เผยสาเหตุไกล่เกลี่ยยืดเยื้อเพราะตนได้ยื่นขอเสนอใหม่ ให้ “ไมค์ พิรัชต์” ได้สิทธิ์เลี้ยงดูและปกครอง “แม็กซ์เวลล์” แต่เพียงผู้เดียว เล่าที่ผ่านมาเกิดปมขัดแย้งเพราะฮอร์โมนหลังคลอด ตอนนี้ทุกอย่างเข้าที่ วางทิฐิได้แล้ว มองประโยชน์ของลูกสำคัญที่สุด ส่วน “วาดิม” ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว
เป็นประเด็นดรามายืดเยื้อกับกรณี “ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” ยื่นร้องต่อศาลเพื่อขอสิทธิ์ความเป็นพ่อโดยชอบธรรมและสิทธิ์ปกครองบุตรชาย น้อง “แม็กซ์เวลล์” วัย 6 ขวบ ร่วมกับ “ซาร่า คาซิงกินี” ซึ่งเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมาศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมีการนัดไกล่เกลี่ยไปแต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน
ล่าสุด ซาร่า ได้เปิดใจกับทางรายการไนน์เอนเตอร์เทนถึงสาเหตุที่เรื่องราวยังคงยืดเยื้อไม่ได้ข้อสรุปนั้นเป็นเพราะตนได้ยื่นข้อเสนอใหม่ นั้นก็คือตอนนี้ตนยินดียกสิทธิ์การเลี้ยงดูและปกครองแม็กซ์เวลล์ ให้กับ ไมค์ พิรัชต์ แต่เพียงผู้เดียวแล้ว
“วันนั้น 8 ชั่วโมง วันนั้นปัญหาที่มันจบลงมันไม่ได้เป็นปัญหาของทางเรา เพราะเราไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เราไม่ติดอะไรเลย ที่ให้ทางฝั่งทนายสัมภาษณ์ว่าจบเรื่องเดิมๆ คือมันไม่ใช่เรื่องเดิม เพราะเรื่องเดิม คนจะมองว่าเป็นเรื่องของเงิน แต่ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องเงิน ซาร่าไม่ได้ติดปัญหาอะไรเรื่องเงินเลย ฝั่งซาร่าไม่ได้พูดถึงเงื่อนไขเรื่อองของเงินนะ จะมีเป็นฝั่งเขาพูดขึ้นมา แต่ปัญหาตอนจบที่มันจบก็คือติดที่ฝั่งเขามากกว่า”
เผยข้อเสนอใหม่ ที่ทำให้การไกล่เกลี่ยยังไม่ลงตัวก็คือตนยกสิทธิ์การเลี้ยงลูกและการปกครองให้กับ “ไมค์ พิรัชต์” แต่เพียงผู้เดียว
“เราอยากให้ลูกไปอยู่กับเขาบ้าง เราเลยยื่นข้อเสนอไปว่า ให้ทางเขาเลี้ยงลูกดีไหม เพราะเห็นว่าเขามีเจตนาอยากให้ลูกอยู่กับเขาบ้าง เราเลยเสนอไป คือการให้เขาได้ปกครองลูกเลย เพราะเขาก็เป็นพ่อ มันก็ไม่ผิด การที่น้องจะอยู่กับพ่อหรือกับแม่ มันก็ไม่ผิดอะไร รอบแรกที่ไปศาล เขาไม่ได้มาแล้วให้ทนายมา เขาก็มีเจตนาที่อยากให้ลูกไปอยู่กับเขาที่จีน เราก็กลับมาคิดไตร่ตรอง และปรึกษาที่บ้านว่ามันก็ดี ก็ได้นะ เพื่ออนาคตของลูก
ถามว่าเรารับได้ไหมที่เขาจะได้สิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว เอาเป็นว่าตอนนั้นคนมันโกรธด้วย สติของคุณแม่หลังคลอด ด้วยภาวะต่างๆ มันทำให้เราไม่ได้ไตร่ตรองไม่ได้คิด แต่พอเรามาคิดไตร่ตรอง ว่าการไกล่เกลี่ย เงื่อนไขมันเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าเสนอมาแบบนี้แล้วต้องเป็นแบบนี้ มันอยู่ที่การตกลงของทั้งสองฝ่ายว่าฉันโอเค เธอโอเค มันก็จะจบ”
คาด “ไมค์ พิรัชต์” กำลังทำการบ้านข้อเสนอที่ตนให้สิทธิ์การเลี้ยงดูและปกครองลูกแต่เพียงผู้เดียวอยู่ จึงทำให้การไกล่เกลี่ยยืดเวลาออกไปอีก
“พอเรายื่นขอเสนอไป ทางฝั่งนั้นเขาก็ขอไปคิดก่อน ไปตรองก่อน เพราะว่าการให้ของเราคือการให้สิทธิเลี้ยงดูและอำนาจปกครองทั้งหมดกับทางเขา ศาลท่านก็มีข้อเสนอมาเยอะ ก็เหมือนเราก็ต้องไปลองทบทวนและทำการบ้านกันมาดู ณ วันนี้มันเหมือนกลับไปที่จุดเริ่มต้นว่า คุณพ่อน้องต้องการตั้งแต่แรก ทางเราก็ตกลง จะได้จบ แต่ว่ามันไม่จบ
แต่เราก็เข้าใจ เพราะว่าลูกอยู่กับเรามาตลอด 6 ปี เขาไม่เคยได้เลี้ยงดูลูกจริงๆ เพราะฉะนั้นการที่อยู่ดีๆ เขาจะต้องรับภาระดูแลรับผิดชอบหลังจากนี้ยาวๆ ไป มันก็เป็นเรื่องใหญ่ ด้วยเรื่องเวลาที่เขาอาจจะไม่ได้มีมาก การเดินทางไปจีนอาจจะไม่ได้สะดวก เขาก็ต้องกลับไปทำการบ้าน”
ตอบไม่ได้ว่าที่ศาลนัดในวันที่ 4 มี.ค.2564 จะจบไหม
“เราก็ตอบไม่ได้ แต่อย่างที่บอกว่าปัญหาเรามันจบไปแล้ว เราไม่ได้ติดอะไร รอบหน้าก็อยู่ที่เขาแล้ว ว่าเขาจะมีทางออกกับเรื่องนี้ยังไง เขาจะโอเค จัดสรรเวลาได้หรือเปล่า ตอนนี้เราไม่มีเงื่อนไขอะไรนะ จากที่คุยล่าสุด เพราะว่าวันนั้นเราไม่ได้ยื่น หรือไม่ได้คุยอะไรเลย”
เชื่อแม้ตนจะไม่ได้ปกครอง “แม็กซ์เวลล์”ตามกฎหมายแล้วแต่การเป็นพ่อแม่จะคงอยู่กับลูกตลอดไป
“ความเป็นพ่อเป็นแม่ยังไงมันก็อยู่ไปตลอด มันแค่กระดาษแผ่นหนึ่งที่ร่างกฎหมายขึ้นมา มันเป็นเรื่องของกฎหมายเสียมากกว่า เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะยังไง เขาจะอยู่กับใคร เขาก็ต้องเจอทั้งพ่อและแม่ตลอดชีวิตของเขาอยู่แล้ว (เราจะยกสิทธิ์ให้ไมค์ไปเลยหรือจะใช้สิทธิ์ร่วมกัน?) ลูกอยู่กับใครก็ทางนั้นเลย (แม็กซ์เวลล์ต้องไปอยู่จีน?) น่าจะยากนะเรื่องจีน เหมือนที่คุยกันเขาว่าตารางมันไม่น่าได้ เราไม่ได้คิดไม่ได้ซีเรียสว่าเราจะเจอลูกน้อยลง เราหันมาคิดถึงอนาคตของแม็กซ์เวลล์มากกว่า”
บอกตอนนี้ตนวางความขัดแย้งทุกอย่างกับ “ไมค์ พิรัชต์” ลงแล้ว คิดถึงผลประโยชน์ของลูกเป็นหลัก
“ไม่วางมันก็ต้องวาง ความเป็นพ่อเป็นแม่ เราควรจะหันหน้าคุยกัน เพราะสุดท้ายคนที่รับผลกระทบที่สุดมันก็คือลูกของเรา สุดท้ายเราต้องวางมันลงจริงๆ ความเป็นพ่อเป็นแม่ ความเสียสละ เรื่องลูกมันคือเรื่องใหญ่ ทิฐิต่างๆของพ่อแม่ เราควรต้องวางมันลงจริงๆ
ซาร่าก็คุยกับไมค์นะว่าเราวางความรู้สึกทุกอย่างแล้วนะ แต่เขาไม่คุย ซึ่งมันก็ค่อนข้างยาก เราถามเขาตลอด ล่าสุดเจอที่ศาลก็ถามโกรธอะไร เป็นอะไรหรือเปล่า แต่เราก็ไม่ได้คำตอบ เราก็ไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิด ถ้าจะเหตุผลว่ากีดกันซาร่าก็ยืนยันจริงๆ ว่ามันไม่มีการกีดกัน มันแค่คนว่างไม่ตรงกัน ฉะนั้นการที่คนว่างไม่ตรงกันจะแปลว่ากีดกัน คือชีวิตไม่ต้องทำอะไรแล้ว มันก็ไม่ใช่ เราก็พยายามจะถามเขาว่าเป็นอะไร เราควรคุยกันนะ เราคุยแต่เขาไม่คุยเราก็ไม่รู้จะยังไง มันคงต้องใช้เวลา เราก็ต้องให้เวลาเขาด้วย”
ไม่ขอพูดถึง “วาดิม” พ่อของลูกสาว “เอมิลี่” ลงรูปกับสาวใหม่ในอินสตาแกรม
“เอาเป็นว่าซาร่าไม่ขอเอ่ยถึงเขาแล้วกัน เพราะเขาไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงไทย และไม่อยากให้เป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ การที่เอ่ยถึงหรือกล่าวถึง เขาไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย มันก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรด้วย (แต่อะไรที่เขาลงในโซเชียลมันตีกลับมาที่เราหมดเลย?) เราเลยมองว่าการที่ไม่พูดถึงเขามันจะได้จบ
มันเป็นเรื่องของบุคคลภายนอก สุดท้ายแล้ว...บางเรื่องเราไม่จำเป็นต้องประกาศทุกอย่างให้โลกต้องรับรู้ บางทีมันเป็นเรื่องเซนซีทีฟ ถ้ามันอยู่แค่ภายในครอบครัวเราก็จะสามารถรับมือและจัดการให้มันผ่านไปได้ (เขาได้ดูแลลูกไหม?) เขาอยู่ต่างประเทศ ฉะนั้นก็ตามนั้น เราก็ดูแลลูก โฟกัสที่งานและลูก เอาเป็นว่าลูกทั้งสองคนตอนนี้อยู่ที่ซาร่าแล้วกันที่ซาร่าจะต้องดูแลรับผิดชอบ ณ ตอนนี้ ลูกก็อ้วนอยู่นะคะ ก็เฮฮา อ้วนท้วมสมบูรณ์ พัฒนาการดีอยู่นะคะ (การไม่พูดถึงเขาก็เหมือนเป็นนัยยะว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว?) ก็คงจะอย่างนั้น”
