จีนสั่งแบนนางเอกดัง “เจิ้งส่วง” หลังแอบอุ้มบุญที่อเมริกา ก่อนสั่งทำแท้งอย่างไร้ศีลธรรม

เป็นเรื่องราวที่อื้อฉาวมากที่เดียวสำหรับนักแสดงดัง “เจิ้งส่วง” ที่โดนอดีตคนรักออกมาแฉเรื่องราวปูมหลังที่ทำเอาชาวเน็ตถึงกับช็อก กับการอุ้มบุญที่ต่างประเทศ ก่อนสั่งทำแท้งตอนอายุครรภ์ 7 เดือน ซึ่งการอุ้มบุญถือเป็นเรื่องต้องห้ามในจีน

เรื่องราวของ เจิ้งส่วง นางเอกสาวชื่อดัง ที่โดน จางเหิง โปรดิวเซอร์ที่เป็นอดีตคนรักออกมาแฉ เกิดขึ้นเนื่องจากทั้งคู่หาข้อยุติกันไม่ได้ หลังจากที่ต่างเลิกรากันไปเมื่อปี 2018 – 2019 โดยฝ่ายชายเคยยืมเงินฝ่ายหญิงเป็นเงิน 20 ล้านหยวน ร่วมลงทุนธุรกิจด้วยกันแต่ก็แตกหักกันถึงขั้นฟ้องร้องกันจนฝ่ายชายเดือดร้อนหนัก

จนกระทั่งวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา จางเหิง ได้โพสต์ข้อความลงใน Weibo เปิดเผยว่าเขาและครอบครัวติดอยู่ที่สหรัฐอเมริกามานานนับปีแล้ว พร้อมกับบอกว่ามีลูก 2 คนที่ต้องดูแล ซึ่งเด็กเป็นลูกของเขากับ เจิ้งส่วง ที่เกิดจากการอุ้มบุญขณะคบหากัน และที่กลับจีนไม่ได้ เพราะ เจิ้งส่วง ไม่ยอมให้ความร่วมมือทางด้านกฏหมาย

เพื่อนของ จางเหิง ก็ได้โชว์สูติบัตรของเด็กทั้ง 2 ผ่านทาง NetEase Entertainment ซึ่งระบุว่า เด็กชายเกิดวันที่ 19 ธ.ค. 2019 และเด็กผู้หญิงเกิดวันที่ 4 ม.ค. 2020 ทั้งคู่เกิดในสหรัฐอเมริกา โดยมีชื่อของ จางเหิง เป็นพ่อ และ เจิ้งส่วง เป็นแม่

นอกจากนั้นเพื่อนของ จางเหิง ยังได้เผยคลิปเสียงที่คาดว่าเป็นช่วงเวลาที่ พ่อแม่ของทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยหารือกัน รวมถึงมี จางเหิง และ เจิ้งส่วง รวมอยู่ด้วย โดยเวลานั้นทั้ง 2 ฝ่ายได้เลิกรากันแล้วขณะที่เด็กยังไม่ลืมตาดูโลก และมีอายุครรภ์ได้ 7 เดือน จึงทำให้ทาง เจิ้งส่วง ไม่ต้องการเด็กอีกต่อไป

การเจรจาครั้งนั้น พ่อของ เจิ้งส่วง ได้แนะนำว่าให้ทิ้งเด็กไว้ที่โรงพยาบาล ขณะที่พ่อของ จางเหิง ระบุว่าไม่สามารถทำได้เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายในอเมริกา ก่อนที่ครอบครัวของ เจิ้งส่วง จะเสนอแนะให้หาคนมาอุปการะเด็ก และขณะเดียวกัน เจิ้งส่วง อยากให้ทำแท้ง และแสดงออกถึงความไม่พอใจเมื่อทราบว่าไม่สามารถทำแท้งได้ เพราะอายุครรภ์ปาไป 7 เดือนแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังจากการแฉดังกล่าว ทาง เจิ้งส่วง ก็ได้ออกมาชี้แจงเมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า “มันเป็นเรื่องเศร้าและเป็นเรื่องที่ส่วนตัวมากๆสำหรับฉัน” พร้อมกับกล่าวหา จางเหิง ว่า หลังจากตกลงกันไม่ได้จึงพยายามทำลายชื่อเสียงของเธอ ด้วยการแฉเรื่องราวดังกล่าว ซึ่งเธอได้ส่งทนายความไปพูดคุยกับครอบครัวของฝ่ายชายเพื่อปกป้องสิทธิของเธอแล้ว

โดยฝ่ายพ่อของ เจิ้งส่วง ก็ออกมาทวงความเป็นธรรมได้ระบุว่าคลิปเสียงที่ถูกปล่อยออกมาเป็นเพียงการตัดทอนส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะคลิปจริงมีความยาวถึง 6 ชม. และเกิดขึ้นตอนที่พ่อแม่ฝ่ายชาย มาขอโทษพ่อแม่ฝ่ายหญิง ทั้งเรื่องที่ จางเหิง นอกใจ และเรื่องการยืมเงิน แต่การมาขอโทษครั้งนี้ก็แอบอัดคลิปเสียงไว้ ซึ่งฝั่ง เจิ้งส่วง มองว่าเป็นการแบล็คเมลกัน และจ้องทำลายชื่อเสียงกัน เนื่องจาก เจิ้งส่วง ไม่ยอมความเรื่องที่เขายืมเงินเธอไปลงทุน ก่อนจะถูกฝ่ายชายนำคลิปมาตัดต่อช่วงที่ทุกคนฝั่งบ้านนางเอกสาวหลุดปากพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา แล้วนำมาเผยแพร่ลงโซเชียลมีเดีย

ส่วนทาง จางเหิง ได้ปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องนอกใจ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับคดี และยืนยันว่าการออกมาโพสต์ไม่ได้แบล็คเมล แต่เคยพยายามเจรจาแล้ว แต่เจิ้งส่วงไม่เจรจาด้วย

เจิ้งส่วง ที่มีแฟนๆติดตามใน Weibo มากถึง 11 ล้านคน เคยโด่งดังในข้ามคืนจากการรับบทนางเอกในซีรีส์ Meteor Shower หรือ F4 เวอร์ชันจีน เมื่อปี 2009 ก่อนจะมีภาคต่อในปี 2010 และ 2016 ถึงขั้นได้รับยกย่องเป็น 1 ใน 4 นักแสดงหญิงชาวจีนที่เกิดในยุค 90 ที่โด่งดังที่สุด จากการคัดเลือกโดย Southern Metropolis Entertainment Weekly

ซึ่งประเด็น การอุ้มบุญครั้งนี้ถือเป็นที่ถกเถียงกันในวงกว้าง เพราะในจีนไม่ได้ผิดกฎหมายอย่างชัดเจนแต่รัฐบาลไม่อนุญาตให้เกิดการอุ้มบุญในจีนเท่านั้น จึงทำให้เกิดธุรกิจสีเทาในจีน กับการจัดสรรพาคนไปทำเรื่องอุ้มบุญที่ต่างประเทศ และจัดทำวีซ่าให้กับลูกค้า

ส่วนที่อเมริกา การอุ้มบุญสามารถทำได้ในบางรัฐ ซึ่งการอุ้มบุญต้องมีระบบที่รัดกุมทั้งเรื่องของสุขภาพที่ดีและการตรวจเช็คร่างกายอย่างถูกต้อง

อย่างไรก็ตามแม้เบื้องต้น เจิ้งส่วง จะทำทุกอย่างโดยเคารพกฎหมาย เพราะการอุ้มบุญที่ต่างประเทศไม่ถือว่าผิด แต่สำนักงานบริหารวิทยุและโทรทัศน์ของจีน ก็ได้ลงดาบการกระทำของ เจิ้งส่วง โดยสั่งแบนผลงานทุกอย่างของเธอทันที เพราะไม่พอใจเรื่องการอุ้มบุญ รวมถึงการสั่งทำแท้งเมื่อไม่ต้องการเด็ก และยังมีความประสงค์จะทิ้งเด็กอย่างไร้ศีลธรรมด้วย นอกจากนั้นแบรนด์ดังอย่าง Prada ก็ปลด เจิ้งส่วง ออกจากการเป็นมิวส์ของแบรนด์เช่นกัน