xs
xsm
sm
md
lg

“โอบ” ตอกหน้าชาวเน็ต “มะปราง” อกเล็กจะหนักอะไร ทำไมต้องบูลลี่ ไม่ห้ามเสริมอึ๋ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“โอบ” เผย “มะปราง” ไม่นอยด์ถูกบูลลี่อกเล็ก ลั่นถึงเล็กก็ไม่ได้หนักหนาอะไร ทำไมต้องบูลลี่ ไม่ห้ามหากอีกฝ่ายอยากยัดอึ๋ม แอบหึงอวดเนื้่อหนังมังสา ฟุ้งคบ 4 ปี ถึงยังทะเลาะแต่ดีกว่าเดิม

เพิ่งฉลองครบรอบ 4 ปีรักหวานกับนางเอกสาว “มะปราง อลิสา ขุนแขวง” ไปหมาดๆ สำหรับหนุ่ม “โอบ โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์” ซึ่งหนุ่มโอบเผยว่าครั้งนี้ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แค่ไปทานข้าวและตบท้ายด้วยหมูกระทะ บอกความสัมพันธ์ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีทะเลาะกันบ้างตามประสา

“โอเคครับผม เป็นอีก 1 ปี ที่ถือว่าเดินทางมาด้วยกัน ตอนนี้ก็ 4 ปีครับผม เวลาผ่านไปไวมาก จริงๆ ตอนแรกที่คุยกันเหมือนนิสัยไม่เข้ากันเลยครับ เพราะต้องปรับอะไรหลายๆ อย่างจนรอดมาถึงทุกวันนี้ก็โอเคแล้วครับ แต่ก็ยังตีกันอยู่ครับ (หัวเราะ)

วันนั้นก็ไปกินข้าวด้วยกันครับ ปิดท้ายด้วยพาไปเลี้ยงหมูกระทะ ไม่ได้มีของขวัญพิเศษขนาดนั้นครับ ก็นี่แหละครับของพิเศษคือหมูกระทะ (หัวเราะ) ต้องบอกก่อนว่าปกติเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยกินของอะไรพวกนี้เลย ชาบู พวกหมูกระทะ แต่หลังๆ จะเห็นได้ตามไอจีสตอรี่ว่าเขาไปกินเยอะขึ้น ส่วนตัวผมเป็นคนกินไง ก็เลยชวนกันกินจนเขาชอบ สุดท้ายแล้วก็อยากกินมาสักพักแล้วไม่ได้กิน ก็เลยไปกิน ไม่ได้แกล้ง คือไปกินด้วยกันเป็นปกติอยู่แล้วครับ ส่วนอาหารญี่ปุ่นก็เป็นวันนั้น แต่อีกวันนึงถือเป็นมื้อพิเศษ เหมือนกับว่า อยากกินมานานแล้ว”

บอกเรื่องที่ “มะปราง” โดนบลูลี่เรื่องหน้าอก ไม่ได้เป็นปัญหา แต่ยอมรับว่าตนก็แอบหึงเหมือนกัน
“จริงๆ แล้ว ผมรู้สึกว่าร่างกายมันเป็นของใครของมันเนอะ ถ้าสมมติตัวเขาโอเค ผมก็รู้สึกว่าโอเคกับเขา คือ แต่ละคนมีสรีระร่างกายที่ไม่เหมือนกัน ไม่ควรเอาส่วนนั้นมาบลูลี่กัน ก็เข้าใจเขา ให้กำลังใจเขา คนมาคอมเมนต์อะไรไม่เป็นไรหรอก คือสุดท้ายแล้วมันเป็นร่างกายของเรา คือเขาไม่ได้มาเข้าใจว่าเราเกิดมาเป็นแบบนี้ๆ

คือ จริงๆ เขาก็ควรต้องรู้ตัวเองแหละว่าเขาไม่ควรไปบลูลี่ใคร เขาก็ไม่ได้นอยด์ครับ คือ เขารู้ตัวเองครับ หมายถึงเขารู้ว่าเขาเป็นแบบนี้ มันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ผมก็บอกว่าช่างมันเถอะ มันไม่ได้หนักหนาอะไร เธอยังยอมรับในสิ่งๆ นี้ได้เลย ทำไมเขาต้องมาเดือดร้อนแทนเธอด้วย ถ้าเขาต้องอัปไซส์เหรอ (หัวเราะ) เป็นเรื่องของเขาครับ สมมติว่าเขาจะตัดสินใจทำมันก็เป็นเรื่องของเขา ผมไม่ได้มีสิทธิ์ว่าห้ามทำ มันเป็นร่างกายของเขา

ถามว่าผมรู้สึกยังไงกับชุดที่เขาใส่เดินแฟชั่นวันนั้น ผมตกใจอยู่เหมือนกัน (หัวเราะ) ผมไปเห็นหลังเวที ผมตกใจอยู่ว่าเบอร์นี้เลยเหรอ แต่สุดท้ายแล้วก็คือเขาบอกว่าอย่าไปคิดมากมันเป็นงาน มันคือแฟชั่นโชว์ นางแบบต่างประเทศเขาใส่มากกว่านี้อีก

จริงๆ ลึกแล้วก็ต้องมีหึงบ้างแหละครับ แต่ว่ามันมีคำว่างานก็เลยไม่เป็นไร ปกติเขาคงไม่ได้ใส่แบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว อันนี้เป็นโอกาสของเขา เขาอยากลองทำอะไรแบบนี้ดู อยากได้งานเดินแบบ อยากลองใส่เสื้อผ้าแบบนี้ก็โอเค จริงๆ ก็บอกว่าวันหลังขอดูก่อนนิดนึงนะจะได้ไม่มาเจอของจริงแล้วช็อกอีก

เขาก็โอเค เขาก็บอกว่าจะบอกก่อน เหมือนวันนั้นมันปุ๊บปั๊บๆ ผมก็ทำงาน เขาก็ไปฟิตติ้งด้วยความเร่งรีบ ส่วนผมไม่ค่อยได้โชว์ครับ ผมกินเยอะไปหน่อย ผมเลยไม่ได้กล้าโชว์ (ยิ้ม) แต่ถ้าเขาจะเซ็กซี่จริงๆ เขารู้ว่าตัวเขามีลิมิตแค่ที่ไหนครับ ผมรู้สึกว่าเขาทำอะไรในสิ่งนี้ผมก็ให้เกียรติเขาในการที่เขาอยากจะเป็นตัวเองมากกว่า ไม่ได้ห้ามขนาดนั้น แต่แค่เห็นคนชอบไปบอกว่าผมไปแซว ผมก็แซวเล่นๆ บางที แต่ว่าลึกๆ เขาน่าจะรู้ตัวเองแล้วว่าเขาจะต้องรู้ตัวเองเราควรจะได้แค่ไหน”








กำลังโหลดความคิดเห็น