xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) นาทีคืนสู่อิสรภาพ! “แพท พาวเวอร์แพท” ร่ำไห้ออกจากเรือนจำ กราบเท้าพ่อแม่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แพท พาวเวอร์แพท” ออกจากเรือนจำแล้ว เผยซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างหาที่สุดมิได้ เพราะถือเป็นครั้งแรกที่มีการพระราชทานอภัยโทษถี่ขนาดนี้ บอกจริงๆ คิดว่าต้องอยู่อีก 2 ปีด้วยซ้ำ เผยปฏิญาณหน้าพระบรมฉายาลักษณ์แล้วว่าต่อไปจะเป็นคนดี ตอบแทนสังคม ดีใจที่ครอบครัวและเพื่อนๆ ยังอ้าแขนรับตน บอกสิ่งแรกที่อยากทำคือบวชให้แม่ และเตรียมทำวงพาวเวอร์แพทกับเพื่อนๆ อีกครั้ง

วันนี้ (4 ม.ค.) เวลา 11.20 น. อดีตนักร้องหนุ่ม “แพท พาวเวอร์แพท” หรือ “วรยศ บุญทองนุ่ม” ได้รับอิสรภาพพ้นโทษออกมาจากเรือนจำกลางบางขวาง จังหวัดนนทบุรี หลังโดนจับในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และเสพ (ยาอี) และถูกจองจำในคุกมานาน 16 ปี 6 เดือนเป็นที่เรียบร้อย โดยมีพ่อแม่และครอบครัว รวมถึง “เทดดี้ ณัฐฎ์ณัฐ หิรัญสมบูรณ์” อดีตผู้จัดการวงพาวเวอร์แพท และเพื่อนๆ ในวงการก็มารอรับด้วยความยินดีเช่นกัน

โดยเมื่อออกมาพ้นประตูเรือนจำ แพทก้มกราบเท้าพ่อกับแม่ และกอดกัน พ่อแม่ลูกร่ำไห้ด้วยความตื้นตัน จากนั้นเจ้าตัวก็ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อกองทัพสื่อที่มารอทำข่าวว่า ตนซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นล้นพ้น วันนี้เป็นวันที่ตนรอคอยมาตลอด เหมือนได้เกิดใหม่

“ผมต้องบอกก่อนว่าผมรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ และรู้สึกสำนึกในพระเมตตาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างมากเลยนะครับ ที่พระองค์ท่านได้พระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ในครั้งนี้ซึ่งท่านทรงเห็นความสำคัญของผู้ต้องราชทัณฑ์ว่าเป็นพสกนิกรของพระองค์ท่านไม่แพ้กับประชาชนทั่วๆ ไป ตรงนี้ทำให้ผมซาบซึ้งใจมากที่ท่านทรงให้โอกาสให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ได้กลับตัวเป็นคนดี ให้โอกาสได้กลับไปดูแลครอบครัว ให้โอกาสได้ไปพัฒนาประเทศ พัฒนาสังคม สร้างคุณประโยชน์ให้สังคมต่อไป”

ลั่นจะรักษาโอกาสนี้เทียบเท่าชีวิต สัญญาจะมุ่งมั่นทำแต่ความดี ปฏิญาณตนหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และผู้แทนพระองค์ จะไม่ทำผิดกฎหมายอีก
ผมรู้สึกซาบซึ้งมาก และผมจะรักษาโอกาสที่ได้รับครั้งนี้ไว้เทียบเท่าชีวิตโอกาสไม่ได้มีบ่อยๆ เพราะฉะนั้น ผมจะมุ่งมั่นทำแต่ความดีนะครับ และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จะทำแต่สิ่งที่ดี รวมถึงจะช่วยป้องกันรณรงค์เรื่องยาเสพติดด้วย และจะไม่ทำผิดกฎหมายเพราะผมเองได้ทำการปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และผู้แทนพระองค์ในวันนี้ก่อนออกมาแล้ว (ยกมือไหว้) ว่าผมจะไม่ทำผิดกฎหมายอีกต่อไป”

ต่อจากนี้จะขอทำดีชดใช้คืนให้แก่สังคม
“เป็นคำมั่นสัญญาที่ให้กับตัวเองกับพระองค์ท่านกับสังคม ผมอาจจะเคยมีส่วนที่ทำร้ายสังคมเมื่อในอดีต แต่ถึงเวลาที่ผมได้โอกาสต่อไปผมจะชดใช้ให้กับสังคม มันเป็นช่วงโอกาสที่ผมจะชดใช้ให้กับสังคมและครอบครัวด้วยครับ กลับไปดูแลครอบครัว ก็ไม่คิดว่าจะได้กลับมาเร็วแบบนี้ เพราะจากที่ผมคำนวณช่วงที่อยู่ข้างในเนี่ยผมคิดว่าอย่างน้อยก็ต้องมีอีก 2 ปี คือไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ผมอยู่ในเรือนจำมาว่าจะมีพระราชทานอภัยโทษติดกันถี่ๆ ขนาดนี้ เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนครับ ถือว่าพระองค์ทรงมีความเมตตาให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์อย่างสูงเลยครับ”

เหมือนฝันได้เจอหน้าครอบครัว จะเป็นวินาทีจดจำไปจนวันตาย
วินาทีแรกที่ได้เจอครอบครัว มันก็พูดยากนะ มันมีหลายความรู้สึกมาก มันเหมือนวันที่เราฝันมาตลอดเกือบ 17 ปี เราฝันถึงวันนี้ตลอด แต่สิ่งที่เราฝันมันอาจจะไม่ได้ตรงกับภาพที่เราเห็น 100% นะ แต่ความรู้สึกมันใกล้เคียงอย่างมากครับ ก็ดีใจที่หลายๆ คนมารอรับ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คุณพ่อคุณแม่เอง หรือแม้กระทั่งพี่เทดดี้ และพี่ๆ เพื่อนๆ ยังรู้สึกว่าทุกคนอ้าแขนรับเรา อบอุ่นมากวันนี้ และตื้นตันใจอย่างหาที่สุดมิได้นะครับ น่าจะเป็นวันที่ผมจะจดจำไปจวบจนวันตายเลยก็ว่าได้

ถามว่าเมื่อคืนผมนอนหลับไหม จริงๆ ผมหลับๆ ตื่นๆ มาตั้งแต่รู้ว่ามีพระราชทานอภัยโทษแล้วแต่ช่วง 14-15 วันหลังๆ มานี้ผมได้เข้าอบรมโครงการโคกหนองนาซึ่งเป็นโครงการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ท่านได้พระราชทานให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์เป็นการอบรมผู้ต้องขังก่อนปล่อยพ้นโทษ ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ได้มีการนำหลักสูตรโคกหนองนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้แก่ผู้ต้องขังเกี่ยวกับเรื่องการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เกี่ยวกับการดำรงชีวิตอยู่ด้วยตนเองกับการเกษตรในพื้นที่ขนาดเล็ก ซึ่งได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติและได้ลงพื้นที่จริง ตั้งแต่การขุดโคกการทำโคกขุดหนองทำนา ทุกอย่างได้ลงมือเองหมดกับเพื่อนพี่น้องที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษอีกประมาณ 200 กว่าคนในรุ่นนี้ครับ”

ร้องไห้ตอนก้มกราบเท้าขอโทษพ่อกับแม่
“ตอนที่ก้มกราบคุณพ่อคุณแม่ ตอนนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรครับ พูดไม่ออกจริงๆ คือก่อนหน้านี้ผมตั้งใจว่าจะกราบเท้าขอโทษท่าน แต่ตอนที่อยู่ข้างในผมไม่เคยทำเลยนะ ในชีวิตผมไม่เคยทำ แล้วผมจะกล้าทำไหม ผมก็คิดในใจนะ แล้วยิ่งมีสื่อมาจับจ้อง ผมจะกล้าทำไหม แต่พอถึงเวลาจริงๆ ผมไม่ต้องคิดเลย ผมไม่คิดเลย มันเป็นสิ่งที่ผมอยากจะทำมาตลอด อยากจะขอโทษท่านด้วยที่ผมทำให้ครอบครัวลำบากในช่วงเวลา 16-17 ปีที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่รู้นะว่าทุกคนในครอบครัวเขาไม่ได้รู้สึกลำบากกับการที่จะมาดูแลเราในนี้เลย แต่เราลูกผู้ชาย และเป็นลูกชายคนเดียว มันใช่เรื่องเหรอที่โตอายุขนาดนี้แล้วยังให้ท่านมาดูแลอยู่

คุณพ่อคุณแม่ก็บอกว่าไม่ต้องร้องไห้ (เสียงสั่น) กลับมาอยู่ด้วยกัน คุณแม่ก็มีร้องไห้จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่เซนสิทีฟกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เมื่อตอนผมเข้าไปในเรือนจำมีเรื่องใหม่ๆ ช่วง 1-2 ปีแรกแกก็ไม่สามารถที่จะกลั้นน้ำตาได้เลยสักครั้งเดียว จนพ่อต้องคอยเบรกว่าเดี๋ยวแพทเขาจะไม่สบายใจนะ เวลามาเยี่ยมเนี่ยเขาก็พยายามไม่ร้อง ซึ่งเขาก็ทำได้ดีนะช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาก็ยิ้มแย้มแจ่มใส เวลามาเยี่ยมก็คุยแต่เรื่องดีๆ กัน (น้ำตาไหล) ปกติผมก็ไม่ใช่คนแบบนี้นะ

วันที่รอคอย เหมือนได้เกิดใหม่
วันนี้คือวันที่ผมรอคอยมาตลอด มันเป็นโอกาสเหมือนได้เกิดใหม่ และยิ่งได้รู้ว่าสังคมเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนพร้อมที่จะอ้าแขนรับ มันรู้สึกเกินคาดที่เราคิดไว้ครับ หลังจากนี้ผมต้องวางแผนชีวิตอีกเยอะมากๆ เลยเพราะว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันแรกที่ผมเข้ามาจนถึงวันนี้เกือบ 17 ปี ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด

ผมจะต้องเก็บเกี่ยวข้อมูลและต้องค่อยๆ ศึกษาการใช้ชีวิตในปัจจุบันไป แต่ผมไม่ค่อยกังวลเรื่องการปรับตัวนะเพราะผมเชื่อว่าทางคุณพ่อหรือพี่ๆ น้องๆ เราจะคอยเป็นพี่เลี้ยงให้ผมแน่นอน ถ้ามีอะไรผมก็จะต้องปรึกษา เพราะเท่าที่ทราบมาจากพี่สาวว่าการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันต้องระวังหลายอย่างมากผมก็ต้องระมัดระวังตรงนี้อย่างมาก ต้องเชื่อฟังเขาหลังจากเป็นเด็กดื้อมานาน”

เผยหากตนไม่เข้าไปอยู่ในเรือนจำ อาจเสียชีวิตไปแล้ว
“เสียดายช่วงชีวิตที่หายไปไหม ผมว่าทุกอย่างมันมีสองด้านนะ ถ้าผมไม่เข้าไปอยู่ในเรือนจำ ผมอาจจะเสียชีวิตไปแล้วก็ได้มั้ง เพราะผมใช้ชีวิตเสี่ยงมากเลยนะครับเมื่อตอนช่วงวัยรุ่น 20 กว่าๆ คือใช้ชีวิตที่เรียกว่าไม่ต้องคิดถึงวันพรุ่งนี้เลย อีกหนึ่งคือความโชคดีในความโชคร้ายผมว่ามันมีคุณค่าต่อชีวิตผมมาก”

บอกเตรียมรวมตัวเพื่อนๆ วงพาวเวอร์แพทอีกครั้ง
ส่วนเรื่องเพลง มันเป็นชีวิตของผมอยู่แล้ว ผมอยู่ข้างในก็เขียนเพลงไว้เยอะมาก แล้วผมก็รอโอกาสที่จะมาพรีเซ็นต์ให้ทุกๆ คนฟังด้วย มันเป็นเรื่องที่ทั้งเกิดขึ้นจริงกับตัวเองและเกิดขึ้นกับคนรอบข้าง และเรื่องการพัฒนาตนเองในด้านดนตรี ผมก็ทำอยู่ตลอดเวลา มีการวางแผนทำอยู่ตลอดเวลา ซึ่งงานเพลงได้ฟังแน่นอน และมีการคุยกับเปรม มือเบสของพาวเวอร์แพท ว่ามีโอกาสอย่างมากที่จะกลับมารวมตัวกันและทำเพลงใหม่ครับ”

เผยเป้าหมายอยากบวชให้แม่
“ถามว่าเป็นเป้าหมายแรกหลังจากที่ออกไปเลยไหมก็ยังครับ คือผมต้องคิดและต้องวางแผนก่อนครับ เพราะเป้าหมายแรกจริงๆ ที่ผมตั้งใจไว้ผมอยากจะบวชให้แม่แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยว่ากันอีกทีครับ
































กำลังโหลดความคิดเห็น