“จุ๋ย” แฮปปี้เป็นผู้จัดเรื่องแรกฉลุย เงินเหลือ พร้อมวางพล็อตเรื่องต่อไป

“จุ๋ย” เผยเป็นผู้จัดเรื่องแรกแฮปปี้มาก ปัญหาใหญ่ๆ แทบไม่มี และที่ผ่านมาก็แก้ไขได้หมด แถมได้ทำงานกับ “พุฒ” สามีที่คอยซัพพอร์ตทุกอย่าง แต่ครั้งแรกนี้ก็ทำให้เป็นโรคเครียดแบบไม่รู้ตัวเหมือนกัน บอกโชคดีที่เรื่องนี้ได้ทุกคนในกองและแฟนคลับคอยช่วยซัพพอร์ต ทำให้เงินยังทุนยังเหลือไม่บานปลาย และตอนนี้เตรียมเขียนพล็อตเรื่องใหม่ไว้บ้างแล้ว รอนำเสนอช่องต่างๆ ต่อไป

ก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดหน้าใหม่ก็ดูทุกอย่างจะราบรื่นไปด้วยดี สำหรับนางเอกสาว “จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา” กับละครเรื่อง "จังหวะหัวใจนายสะอาด" ซึ่งจะออกอากาศทางช่องพีพีทีวี และได้พระเอกคนคุ้นเคยอย่างสามีสุดหล่อ “พุฒ พุฒิชัย เกษตรสิน” และนางเอกสุดสวยอย่าง “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่” มาประเดิมเรื่องแรกให้ สาวจุ๋ยก็เผยว่าทุกอย่างแฮปปี้มาก การทำถ่ายรวดเร็ว เพราะได้ฝึกฝนวิชาความรู้มาจากการทำงานที่สั่งสมมา และผู้จัดหลายๆ ท่านที่คอยบอกกล่าว

“เอาจริงๆ เรื่องนี้สนุกมาก คือด้วยความที่นักแสดงในเรื่องเราผ่านการทำงานกันมาแล้วทุกคน เราก็จิ้มว่าคนนี้เคยทำงานด้วยแล้วนิสัยดี รวมถึงการแสดงดี คาแรคเตอร์เขาเหมาะกับเรื่อง เมื่อนักแสดงน่ารัก ทีมงานน่ารัก ผู้กำกับน่ารัก ทำงานดี ก็เลยทำให้การทำงานในเรื่องนี้มันค่อนข้างที่จะสมู๊ท คือมันมีปัญหาระหว่างทางแหละ แต่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องคน เป็นปัญหาเรื่องอื่นๆ ที่เราก็พอแก้ไขได้ ถ้าเกิดสมมติว่าคนที่ทำงานร่วมกันแล้วมันมีความสุข แฮปปี้ มันก็จะไปด้วยดีค่ะ ดังนั้นเราก็ไม่ค่อยมีความล่าช้าของงาน”

“ซึ่งถามว่าจุ๋ยศึกษางานจากใคร ต้องบอกว่าจุ๋ยโชคดีมากเลย จุ๋ยได้มาจากช่อง 7 ช่อง 3 เอ็กซ์แซ็กท์สมัยก่อน ช่องวัน เวิร์คพ้อยท์ คือทุกๆ ที่ที่จุ๋ยเคยไปทำงานร่วมด้วยเขามีวิชาความรู้มาให้จุ๋ยแบบเต็มพิกัดจริงๆ แล้วจุ๋ยก็หยิบอันที่จุ๋ยคิดว่าจุ๋ยชอบ พอหยิบมารวมกันมันก็สามารถทำงานได้ และผู้จัดหลายๆ คนที่จุ๋ยเคยไปทำงานด้วย ทั้งพี่หน่อง พี่แอน พี่เจี๊ยบ และละครอีกหลายๆ เรื่องที่เราได้ร่วมงาน เขาก็ให้วิชาความรู้เรามาทั้งนั้น สมัยช่อง 7 ก็จะอยู่ตั้งแต่กันตนา ดาราวีดีโอ ก็มีพระคุณกับจุ๋ยมากจริงๆ ที่ทำให้เราได้เติบโตมาทุกวันนี้ค่ะ”

“พอได้มาทำกับพีพีทีวี ซึ่งเป็นอีกช่องที่ยังไม่เคยร่วมงาน ก็ได้มาทำร่วมด้วย และที่ท้าทายเลยก็คือการทำงานร่วมกับทางประเทศจีน คือบริษัทอินไซด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จุ๋ยจะต้องทำงาน 3 พาร์ท คือมีบริษัทจุ๋ย มีช่อง และอินไซด์ด้วย และทำงานเพื่อส่งไปที่เท็นเซ็นวีดีโอที่ประเทศจีน และยังต้องมาฉายที่บ้านเรา เรื่องนี้สำหรับจุ๋ยมันเลยเป็นเรื่องที่รวมหลายๆ อย่าง เป็นการทดสอบวิชาความรู้ในการทำงานของจุ๋ยในวงการทำงานของจุ๋ยมากเลยค่ะ แต่ก็ถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับจุ๋ย และปัญหาโควิทรอบโลกด้วยค่ะ มันเลยทำให้บางอย่างมันล้าช้าไป แต่ระยะเวลาในการถ่ายทำกลับไม่ช้าเลย เพราะทุกคนให้ความร่วมมือ นักแสดงทุกคนให้คิว มันเลยเสร็จเร็วกว่าที่คิด”

บอกเจอว่าเป็นโรคเครียดสะสมแบบไม่รู้ตัว
“หมอเพิ่งบอกว่าจุ๋ยน่าจะเป็นโรคทำงานแบบเพอร์เฟคชั่นนิส คือจุ๋ยไม่เคยรู้เลย เพราะจุ๋ยเป็นคนชิลมาตลอด มากองหน้าก็ไม่ได้แต่ง แต่งตัวอะไรก็ได้ แต่ความเพอร์เฟคชั่นนิสของแต่ละคนมันอาจจะไม่ใช่เรื่องการแต่งตัว แต่มันคือเรื่องงานที่อยากให้มันดี อยากให้ทุกคนแฮปปี้ หนูอาจจะเป็นเพอร์เฟคชั่นนิสเรื่องของความรู้สึกของคนในกองหรือเปล่า หมอก็บอกว่านี่แหละค่ะ มันจะเป็นลักษณะอย่างนี้ (ยิ้ม) มันก็จะเป็นลักษณะของคนที่จะเครียดง่าย ถามว่าตอนทำงานกังวลมั้ง จุ๋ยไม่ได้กังวลเรื่องการแสดงของนักแสดงเลยนะ แต่มันจะกังวลว่าเรามีนักแสดงมาแล้ว เราดีลสถานที่แล้ว และสถานที่นั้นเขาให้เข้าได้แค่นี้นะ จะทันซีนที่เราต้องถ่ายมั้ย จะเป็นแบบนี้มากกว่าค่ะ”

“ปัญหาใหญ่ๆ ที่เจอ อาจจะมีปัญหาเรื่องคิวบ้าง อย่างวันที่นักแสดงมากันเยอะ และโลเกชั่นนี้ก็สามารถรวมนักแสดงได้ประมาณนี้ และต้องมารวมกันในวันเดียว ดังนั้นการที่จะเอาคิวนักแสดงทุกคนมารวมกันในวันเดียวมันจะยาก ซึ่งท้ายๆ จะเหลือแต่วันที่นักแสดงจะต้องมารวมกันเยอะๆ มันเลยทำให้บางวันไม่ได้ถ่าย ก็เลยต้องถ่ายไป แต่ถึงจะไม่ได้ถ่ายบางคิว แต่ก็ยังอยู่ใน 6 เดือนนิดๆ ซึ่งจุ๋ยก็รู้สึกแฮปปี้แล้ว”

บอกทำงานกับ “พุฒ” ไม่มีปัญหาเลย แต่ถ้าทำเรื่องต่อไปก็คงจะต้องเปลี่ยนพระเอกบ้าง
“กับพุฒไม่มีปัญหาเลย เพราะว่าพุฒซัพพอร์ตจุ๋ยทุกอย่าง พุฒแชร์ความรู้สึกตอนที่จุ๋ยเหนื่อย จุ๋ยล้าได้เป็นอย่างดี แต่จุ๋ยเองนี่แหละที่คุยกับที่นาย (สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร) ผู้กำกับว่าจุ๋ยไม่อยากให้พุฒมารู้งานเบื้องหลังมากนัก เพราะจุ๋ยไม่อยากให้เอาเรื่องหนักใจไปให้เขาพะวง เพราะเขาต้องอยู่หน้าจอแล้วต้องมาพะวงกับจุ๋ยด้วย ดังนั้นจุ๋ยก็ทำหน้าที่ของจุ๋ย เขาก็ทำหน้าที่ของเขา แต่พอจบเรื่องทุกอย่างคลี่คลายหมดแล้วค่อยเล่าให้กันฟังตอนกลางคืน”

“แต่เรื่องหน้าจุ๋ยก็คิดว่าถ้าตัวเองเป็นผู้จัดอีกก็คงไม่เอาพุฒเป็นพระเอก จุ๋ยอยากได้คนใหม่ๆ จุ๋ยชอบการจับคู่ใหม่ๆ ชอบอะไรแปลกใหม่ แต่เรื่องนี้โจทย์มันมาจากพุฒเป็นคนแรก ก็เลยต้องเป็นเขา ซึ่งก็ดีแล้ว เพราะเหมือนเป็นของในตู้เย็นของจุ๋ย เป็นของที่เรามีอยู่แล้ว พอทำงานกับเขามันก็ค่อนข้างดีในการทำงานเรื่องแรกของเราด้วยค่ะ”

บอกโชคดีคุมงบอยู่ ไม่บานปลาย แถมยังเหลือ
“เรื่องงบคุมอยู่นะ คือทุกคนก็จะเกรงใจจุ๋ยว่ามีขนมมาเยอะ แต่จริงๆ บางทีพวกฟู้ดซัพพอร์ตพวกนี้มันมาจากแฟนคลับพุฒ แฟนคลับแจ็คกี้ (จักริน กังวานเกียรติชัย) แฟนคลับน้องบลู (พงศ์ทิวัตถ์ ตั้งวันเจริญ) และคนที่รู้จักจุ๋ย เขาก็ต้องการส่งมาให้กิน คนก็นึกว่าเราสายเปย์ คือในส่วนที่จุ๋ยเปย์ก็มี แต่ในส่วนที่ฟรีก็มี ก็ต้องยกให้เป็นอานิสงฆ์แฟนคลับด้วยค่ะ ต้องให้เครดิตเขาจริงๆ ว่าเขาทำให้กองอิ่มหนำสำราญ และทำให้ภาพกองเราดูดี แต่เรื่องค่าโลเกชั่นมันก็แพงจริงๆ แต่เราก็สามารถที่จะไปประหยัดในส่วนอื่นได้ เช่นเราถ่ายได้เร็ว ดังนั้นจำนวนการออกกอง การจ่ายค่าไฟ ค่ากล้องมันก็ประหยัดลง คือทุกคนร่วมมือกันเพื่อให้จุ๋ยเหลือ ต้องเหลือนะ จุ๋ยก็ต้องได้เงินบ้างแหละ (หัวเราะ)”

“จริงๆ อยากทำเรื่องต่อไป คือชอบการทำงานในกองถ่ายแบบนี้ แต่ยังหาเรื่องที่จะนำเสนอไม่ได้ ตอนนี้อยากเขียนพล็อพ ไม่อยากใช้นิยาย ยังไม่อยากรีเมค แต่ไม่รู้ว่าพล็อตที่ตัวเองจะทำมากับทีมน่ะมันจะเป็นยังไง ถามว่าอยากมั้ย อยากนะ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีผู้ใหญ่ช่องไหนจะให้โอกาสเราอีกมั้ย อันนี้เพิ่งเรื่องแรกจุ๋ยก็ต้องพิสูจน์ฝีมือด้วยเรื่องนี้ก่อน แต่ตอนนี้ก็เริ่มๆ คิดพล็อตไว้บ้างแล้ว เพราะทีมงานบอกว่าต่อเลยได้มั้ย คือตั้งแต่ทำกลางเรื่องก็บอกให้จุ๋ยคิดเอาไปเสนอได้แล้ว แต่จนปัจจุบันก็ยังไม่ได้เสนอ (หัวเราะ)”

งดรับเล่นละคร ขอมีลูกก่อนค่อยว่ากัน
“ถ้าเล่นละครเองคงไม่แล้วค่ะ ก็คงหายไปนานพอสมควรเลยล่ะค่ะ จนกว่าจะมีลูกเลย กว่าจะเลี้ยงลูกอีก แต่ ณ วันนี้ก็ยัง 50-50 ว่าจุ๋ยจะมีลูกได้หรือเปล่า จะมีลูกยากมั้ย ใจมันก็เริ่มโหวงๆ เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะมา แต่ใจก็ยังเชื่อว่าเขาจะมานะคะ ก็ขอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน และในอนาคตมีอายุกว่านี้แล้วจะมารับบทอะไรก็เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน (ยิ้ม) แต่จุ๋ยรักการแสดงละครมาก จุ๋ยมานั่งโค้ชน้องบางทีอยากเข้าไปเล่นเองเลย แต่ถ้าจุ๋ยจะต้องมารับผิดชอบหน้ากล้องด้วย จุ๋ยจะท้องไม่ได้เลย ก็เลยต้องเลือกครอบครัวก่อนค่ะ”