เปิดใจ “ไผ่หลิว อาภานุช” ทายาท “ลอร์ด สยม สังวริบุตร” เจ้าพ่อผลิตละครรุ่นเก๋าของวงการบันเทิงไทย หลังเจ้าตัวโดดมาช่วยงานผู้เป็นพ่อเต็มตัว ยอมรับเครียด กดดัน และท้าทาย แต่จะทำให้ดีที่สุด พร้อมแง้มโปรเจ็กต์ละครปีหน้าของค่ายดีด้าฯ 3 เรื่องจุกๆ
หากพูดถึงเจ้าพ่อด้านการผลิตละครรุ่นเก๋าอันดับต้นๆ ของวงการบันเทิงไทย และของช่อง 7 เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก “ลอร์ด สยม สังวริบุตร” บิ๊กบอสค่ายดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด ล่าสุดบิ๊กลอร์ดได้ดึงลูกสาวคนเก่ง “ไผ่หลิว อาภานุช สังวริบุตร” มาช่วยสานต่องานการผลิตละครอย่างเต็มตัว เพื่อเตรียมให้รับช่วงต่อในอนาคตหากต้องวางมือ งานนี้ทำเอาทายาทสายเลือดใหม่อย่าง “ไผ่หลิว อาภานุช” ออกปากทั้งกดดันและท้าทายที่ต้องถูกเปรียบเทียบ และทำงานบนความคาดหวังของคนดูที่โตมากับละครภายใต้ฝีมือการผลิตของครอบครัว “สังวริบุตร” เจ้าตัวลั่นแม้จะยาก แต่จะทำให้ดีที่สุดเพื่อแฟนละครที่รัก
“ละครของค่ายดีด้าฯที่จะออกอากาศปีหน้า(ปี 2564) มี 3 เรื่อง ล็อตนี้เป็นละครรีเมกหมดเลยค่ะ ก็จะมีเรื่อง ตุ๊กตา และ ธิดาวานร ที่ถ่ายทำเกือบเสร็จแล้วน่าจะได้ดูก่อน ส่วนเรื่อง ปางเสน่หา เพิ่งเริ่มถ่ายได้ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ค่ะ ก็ยอมรับว่าลุ้นเหมือนกัน เราก็อยากได้ผลตอบรับที่ดีโดยเฉพาะเรื่องของเรตติ้ง ทั้ง 3 เรื่องถึงจะเป็นละครรีเมกแต่ก็มีความแปลกใหม่ที่เราใส่เพิ่มเข้าไป ไม่ได้เป็นแบบเดิมที่เคยดูมาแล้ว จริงๆ เรายังไม่อยากสปอยล์ค่ะ แต่บอกได้แค่ว่าทั้ง 3 เรื่องเราเพิ่มบทใหม่เข้าไปหลายตอนเลยค่ะ”
“สำหรับละครล็อตต่อไปกำลังอยู่ในขั้นตอนเลือกเรื่องค่ะ คุณแม่(นุช นุสรา สังวริบุตร)กำลังอ่านเรื่องใหม่เพื่อเลือกเรื่องที่จะทำ ปกติด่านแรกคือคุณแม่ ท่านเป็นคนอ่านหนังสือเยอะมาก พอเลือกเรื่องแล้วก็จะมาคุยกันในขั้นตอนการทำงานสเต็ปต่อไป ล็อตหน้าคงไม่ใช่ละครรีเมกค่ะเพราะล็อตนี้เรารีเมกไปแล้ว 3 เรื่อง เพื่อความแปลกใหม่ก็คงทำเรื่องใหม่ไปเลย”
ส่วนปัญหาพระเอก-นางเอกชื่อดังของช่อง7 แห่ไม่เซ็นสัญญา ชิ่งไปอยู่ช่องอื่น อาจจะมีผลกระทบบ้าง แต่เชื่อว่าข้อดีของการปั้นนักแสดงหน้าใหม่มาทดแทนทำให้ตัวละครสดใหม่ คนดูอินได้ง่ายขึ้น
“ก็อาจจะมีผลในบางส่วนค่ะ แต่ก็คิดว่าไม่ได้กระทบมาก ในแง่ของการทำละครคิดว่าไม่ได้มีผลมากเท่าไหร่ค่ะ เพราะว่าดาราของช่องที่มีอยู่ตอนนี้ก็ค่อนข้างหลายคน สำหรับนักแสดงที่มีอยู่ เรามองว่าถ้าเลือกเรื่องที่เหมาะสมกับเขา มันก็สามารถส่งให้เขาสามารถเล่นให้สมกับบทบาทนั้นได้ค่ะ ข้อดีของการดึงนักแสดงหน้าใหม่มาเล่นก็คือคนอาจจะอินได้มากกว่า เพราะยังไม่เคยเห็นเขาเล่นละครแบบนี้ๆ มาก่อน เหมือนสดกว่า ซึ่งก็ทำให้น่าสนใจได้เหมือนกันค่ะ”
โอดทำละครยุคนี้ยากกว่ายุคคุณพ่อ ต้องปรับตัวตลอดเวลา
“ด้วยความที่ยุคนี้คนชอบอะไรไม่เหมือนกัน มีตัวเลือกในการดูเยอะมากขึ้น มีโซเชียลให้ดูย้อนหลัง มีช่องทางให้คนได้เลือกดูได้มากขึ้นตามไลฟ์สไตล์ของเขา ก็เลยยากขึ้นสำหรับคนทำละครที่จะทำยังไงให้คนดูติดทีวี หรือรอดูสดในทีวีเหมือนสมัยก่อน บางคนทำงานกลับบ้านมาก็ดึกแล้ว หรือเหนื่อยแล้วอยากพักผ่อนก็เลยเลือกที่จะดูออนไลน์ย้อนหลังแทน สิ่งเหล่านี้ส่งผลกับเรตติ้งละครโดยตรงเลยค่ะ”
“พอพฤติกรรมของคนดูเปลี่ยนไป เราจึงต้องปรับตัวตาม ตอนนี้ที่แพลนไว้คือไผ่หลิวเข้ามาทำเรื่องดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ดูการตลาดทางด้านสื่อออนไลน์ โซเชียลต่างๆ ค่ะ อย่างกิจกรรมโปรโมตหรืออะไรต่างๆ เราจะรุกโซเชียลมากขึ้น เรื่องนี้คุณพ่อปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของเราค่ะ คุณพ่อไม่เคยปิดกั้น ไม่เคยเข้ามาสั่งว่าอันนี้ไม่ดี อันนี้ไม่ต้องทำ คุณพ่อจะเป็นแบบอยากทำอะไรก็ลุยเลย”
การสานต่องานพ่อทั้งเครียด และท้าทาย แต่จะทำให้ดีที่สุด
“พอเรามาทำงานตรงนี้ช่วยคุณพ่อ ในยุคสมัยที่อะไรหลายๆ อย่างเปลี่ยนไปทำให้ต้องปรับตัวตลอดเวลาค่ะ ไผ่หลิวคิดว่ายุคนี้ยากกว่ายุคที่คุณพ่อคุณแม่เคยทำเยอะมากค่ะ ทั้งท้าทาย เครียด และกดดันค่ะ (หัวเราะ) เพราะยุคก่อนคุณพ่อคุณแม่ทำละครได้เรตติ้งสูงมาก พอเราต้องมาทำเองก็ค่อนข้างยากค่ะ”
“คุณพ่อไม่เคยให้โจทย์ในการทำงานค่ะ แต่เวลาเรามีไอเดียอะไรเราก็จะบอกเขา (คุณพ่อกดดันเรื่องเรตติ้งมั้ยว่าห้ามต่ำกว่านี้ๆ ไม่อย่างนั้นเสียชื่อพ่อ?) คุณพ่อไม่ได้ระบุว่าเรตติ้งต้องเท่านี้ๆ แต่ว่าเราก็พยายามทำในทุกส่วนออกมาให้ดีที่สุด ตอนนี้ก็เรียนรู้งานจากคุณพ่อแล้วก็เอามาอะแดปต์ใช้กับตัวเอง แต่คุณพ่อยังไม่ได้จะวางมือเร็วๆ นี้ค่ะ (ปกติค่ายดีด้าฯทำละครปีละกี่เรื่อง?) เราไม่ได้มีแพลนแบบนั้นนะคะว่าปีนึงต้องทำกี่เรื่อง เราจะเน้นทำทุกเรื่องให้ออกมาดีที่สุดมากกว่า”
“หลังจากมีทีวีดิจิทัลขึ้นมา ช่องก็มีเพิ่มขึ้น คนดูก็มีทางเลือกมากขึ้นทั้งในด้านทีวีดิจิทัล และคู่แข่งทางด้านออนไลน์ ที่ไม่ใช่แค่คู่แข่งในช่องทีวี ตอนนี้คู่แข่งในการช่วงชิงเรตติ้งหรือช่วงชิงคนดูในช่วงเวลาที่ออนแอร์ก็เยอะขึ้นค่ะ ทำให้เราต้องรุกการตลาดในโซเชียลเพื่อเข้าถึงคนดูให้มากขึ้น รวมถึงการเลือกเรื่องด้วย ต้องทำละครให้ถูกใจคนดูมากที่สุด ก็ฝากติดตามละครของดีด้าฯล็อตที่จะออนแอร์ในปีหน้าด้วยนะคะ เป็นละครรีเมกที่เคยอยู่ในใจของแฟนละครหลายๆ คน รับรองว่าจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาให้ละครสนุกไม่แพ้เวอร์ชั่นเก่าอย่างแน่นอน”