“ไมค์-ซาร่า” เครียด ไกล่เกลี่ยนาน 8 ชม. แต่ไม่ลงตัว ไมค์ลั่นเบื่อ อยากรีบจบให้เร็วที่สุด ทนายซาร่าบอกมีรายละเอียดหลายจุดที่ไม่ตรงกัน ลั่นยึดผลประโยชน์ “แม็กซ์เวลล์” จะซัปพอร์ตแค่ไหน อยากให้มีชีวิตแบบไหน “ทนายเจมส์” เปิดใจมีเงื่อนไขบางอย่างโผล่ ต้องศึกษาให้ละเอียด ศาลนัดไกล่เกลี่ยอีกครั้ง 12 ม.ค. ปีหน้า
หลังจากไกล่เกลี่ยนานกว่า 8 ชม. แต่ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ศาลจึงได้ทำการนัดไกล่เกลี่ยกันอีกครั้งในวันที่ 12 ม.ค. 63 โดยความคืบหน้าล่าสุด “ซาร่า คาซิงกินี” ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์เนื่องจากต้องรีบบินกลับภูเก็ต จึงมอบหมายให้ “ธากฤช สิทธิประเสริฐ”และ “กิ่ง ศิริญญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช” เป็นคนชี้แจงแทน โดยเผยว่าเบื้องต้นต่างฝ่ายต่างอยากดูแลลูก แต่ยังมีหลายจุดที่ความเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งทนายก็ต้องกลับไปคุยกับซาร่า และนัดกันมาใหม่อีกครั้ง โดยแนวโน้มในวันนี้คิดว่าดีเพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยคุยกันมาก่อน ส่วน 4 ข้อเสนอที่เคยให้สัมภาษณ์ไปเป็นเพียงแค่ความเห็น แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องเซนซิทิฟ แต่ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยอมถอยคนละก้าวแล้ว ส่วนวันนี้ยังไม่ได้มีการเซ็นรับรองบุตรเกิดขึ้นและยังหาข้อสรุปไม่ได้ ต่างคนต่างค่อนข้างเครียดเหมือนกัน
จากนั้น “ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล”พร้อม “ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต”ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจ และ “ทนายต้อม สนิท ปัจจายา”ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกรณีดังกล่าว โดยไมค์เผยว่าอยากให้เรื่องมันรีบจบ ส่วนเรื่องยื่นคำร้องขอถอนสิทธิ์รับรองบุตรที่เคยยื่นไว้ ไม่สามารถพูดได้เพราะอยู่ในกระบวนการในชั้นศาล ตนไม่ได้ซีเรียสว่าต้องได้สิทธิ์ปกครองลูกเพียงแค่อยากเจอลูกเท่านั้น ส่วนตารางงานบินกลับจีนก็ต้องเลื่อนออกไป เพราะต้องมาไกล่เกลี่ยอีกครั้งในวันที่ 12 ม.ค. ต้นปีหน้า
ด้านทนายเจมส์ยอมรับวันนี้ทุกอย่างเป็นไปได้ดี แต่จะติดตรงเรื่องรายละเอียดต่างๆ ไม่ใช่เพียงแค่ค่าใช้จ่ายของ “แม็กซ์เวลล์”แต่ยังมีรายละเอียดอื่นๆ อีก ซึ่งทางศาลแนะนำแค่หลักการ แต่ไม่สามารถลงรายละเอียดได้ เพราะมองผลประโยชน์ของเด็กเป็นหลัก
ทนายธากฤช : “วันนี้ก็มีประเด็นทางคดีแหละเนอะ เรื่องการรับรองบุตร อำนาจปกครองจะเป็นยังไง จริงๆ ทั้งสองฝ่ายก็ยังอยากดูแลลูกอยู่แล้วทั้งสองฝ่าย เพียงแต่ว่าพอต่างฝ่ายยังอยากดูแลอยู่ ก็ต้องมาคุยรายละเอียด อำนาจตัดสินใจจะเป็นยังไง ซึ่งวันนี้มันก็ยังมีรายละเอียดบางจุด หลายจุดอยู่ที่มันยังไม่ค่อยตรงกัน ทนายก็เลยกลับไปคุยกับลูกความแต่ละฝ่าย แล้วเดี๋ยวนัดหน้าจะมาคุย รายละเอียดมันเยอะ เรื่องมันละเอียดอ่อน ลูกต้องอยู่กับอีกฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายหนึ่งจะเงื่อนไขเป็นอย่างไร มันเยอะครับ
ถามว่ามีแนวโน้มจะลงตัวไหม ก็ดีอยู่นะ เพราะว่าก่อนหน้านี่เขาไม่เคยคุยกันตรงๆ มาก่อน คราวนี้เหมือนเป็นเวทีที่ดี เหมือนให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้มาเจอกัน ท่านผู้ประนอม ผู้พิพากษาก็ได้ช่วยเหลือด้วย เรื่องหลักๆ ก็เป็นเรื่องที่ลูกต้องอยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อันนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งประเด็นหลักครับ แล้วก็อีกฝ่ายจะติดต่อกันแบบไหน อะไรยังไง มันก็เยอะ แต่ถามว่าน้องยังต้องอยู่กับซาร่าเหมือนเดิมใช่ไหม ในเบื้องต้นที่คุยกันวันนี้ก็แนวๆ นั้นนะเพราะทางไมค์ก็ไม่ได้ติดใจ แต่ว่าก็ไม่ได้ปิดประเด็นที่ว่าไมค์อยากรับไปดูหรือเปล่า ก็มีการพูดขึ้นบ้าง แต่ประเด็นนี้มันพูดนิดหน่อย”
บอกต่างฝ่ายควรต้องถอยคนละก้าว แต่ประโยชน์สูงสุดต้องอยู่ที่เด็ก
ทนายกิ่ง : “อย่างที่เคยแจ้ง 4 ข้อนั้นมันไม่ใช่ข้อเสนอ มันเป็นข้อความเห็นของเราว่าทำไมน้องควรอยู่กับเรา กระบวนการไกล่เกลี่ยมันไม่ใช่กระบวนการของศาล ความจริงเราต้องถอยคนละก้าว แล้วเราก็หันหน้าเข้าหากัน เพราะฉะนั้นเราไม่ยึดติดกับสิ่งที่เราเคยพูดไปแล้ว หรือไม่ยึดติดกับสิ่งที่มันอยู่บนกระดาษ เราเปิดโอเพ่น สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง”
ทนายธากฤช : “มันไม่มีการยื่นข้อเสนอกันไปเป็นข้อๆ หรอก เหมือนกับว่า ณ วันนี้สถานะของลูกเป็นแบบไหน แล้วเพื่อให้ลูกของเรา ประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นอย่างไร ถ้าเราเอาเรื่องเก่ามาพูด มันไม่จบไม่สิ้น ท่านผู้พิพากษาก็บอกอยู่ว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร แล้ว 2 ฝ่ายในเมื่อได้มาคุยกันแล้ว จะตกลงดูแลบุตรร่วมกันอย่างไรมากกว่า”
ทนายกิ่ง : “ถามว่าความต้องการของซาร่าคืออะไร อันนี้ฝั่งซาร่าต้องถามมากกว่า คือไม่ใช่ว่าเราต้องการ ถามว่าฝั่งโน้นเขาจะซัปพอร์ตให้น้องมากแค่ไหนมากกว่า มันเป็นประเด็นอย่างนั้นมากกว่า ถามว่าเรื่องค่าใช้จ่ายใช่ไหม ก็ทุกอย่างค่ะ ทุกอย่างในคดีครอบครัวมันจะมีหลายๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นการอุปการะเลี้ยงดู น้องจะอยู่กับใคร อำนาจปกครอง การเยี่ยมเยียน คือต้องมานั่งคุยกันทุกอย่าง ถ้าถามว่าซาร่าต้องการอะไร มันคืออะไรเหรอคะ มันก็คือคุณอยากจะให้ลูกของคุณแบบไหน มีชีวิตแบบไหน เรียนที่ไหนมากกว่า
ถามว่าการไกล่เกลี่ยวันนี้อะไรเซนซิทีฟที่สุด ก็ทุกเรื่องค่ะ (หัวเราะ) วันนี้ที่คืบหน้าและที่สามารถสรุปได้คือเรื่องของการรับรองบุตร ที่ไม่ได้ติดใจทั้งสองฝ่ายค่ะ แต่ไมค์ยังไม่ได้เซ็นต์รับรองบุตรนะคะ ยังเซ็นต์กันไม่ได้ ยังเหมือนเดิม คือถ้ากระบวนการมันไปเรื่อยๆสามารถตกลงกันตามรายละเอียดได้ ก็อาจจะมีคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของเด็ก เพื่อจะให้ทางฝ่ายพ่อไปจดทะเบียน เป็นไปได้ ต้องมารอดูสรุปว่าทั้งสองคนจะดูแลลูกอย่างไร คือทั้ง 2 ฝ่ายก็ต้องถอยแหละ แต่ว่าคำถามสูงสุดอย่างที่แจ้ง มันคือผลประโยชน์ของลูก คุณอยากให้ลูกเรียนที่ไหน ชีวิตเป็นแบบไหน ก็ต้องมานั่งคุยกัน อยู่ที่ไหน”
ทนายธากฤช : “เราไม่อยากจะลงรายละเอียดว่าใครเสนออะไร ยังไง มันยังมีคุยกันอีกนัดหนึ่ง มันยังไม่ยุติ ถ้ามันไปได้ดีมันก็จบ ซึ่งมันก็ดีกับครอบครัวเขา แต่ถ้าพูดโดยรวมมันก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นนะ ซึ่งนัดหน้าวันที่ 12 มกราคม 2564 เวลาเดิมครับ ถามว่ายังมีระยะเวลาปรึกษากันอยู่ใช่ไหม ใช่ๆ ต่างฝ่ายก็ต้องไปทำการบ้านกันมา แต่ถามว่ามีการโต้เถียงกันไหม ก็ไม่นะครับ ก็พยายามคุมสถานการณ์ให้มันดี ก็มีเครียดบ้างทั้ง 2 ฝ่ายนะ”
ทนายกิ่ง : “เครียดทั้ง 2 ฝ่าย เครียดค่อนข้างเยอะ เพราะกระทบต่อการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ทั้งสองฝ่ายค่อนข้างเยอะ”
ด้านทนายเจมส์ เผยว่าเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ไม่ลงตัวหลายประเด็น เช่นอำนาจปกครองบุตร ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร ค่าเทอม
ทนายเจมส์ : “บรรยากาศวันนี้ก็ไปในทิศทางที่ดีครับ และรับฟังเหตุผลกันมากขึ้นทั้งสองฝ่ายครับ ที่ยังไม่ลงตัวก็มีอยู่หลายประเด็น ประเด็นหลักๆ คือเรื่องของการรับรองบุตรเนี่ยน้องไมค์ไม่ติด แต่เรื่องที่ยังไม่ลงตัวก็คือเรื่องอำนาจปกครองบุตร เรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร เรื่องค่าเทอมอะไรอย่างนี้ครับ ซึ่งมันเป็นรายละเอียดของเด็กคนนึง ถ้าเกิดมันมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงก็ค่อนข้างที่จะศึกษารายละเอียดเยอะมาก เพราะเด็กคนนึงเนอะอาจจะต้องดูรายละเอียดให้มันชัดเจนนะครับ
ถามว่าทางนั้นเรียกเยอะเกินไปไหม ถ้าเรื่องของตัวเลขมันมีรายละเอียดอยู่ในสำนวนครับ ทางท่านขอเอาไว้ว่าอยากจะให้เกิดความชัดเจนก่อนแล้วค่อยคุยอีกทีนึงครับ แต่ถามว่าเป็นส่วนนึงไหมที่ตกลงไม่ได้ จริงๆ มันมีหลายประเด็นครับ ไม่ใช่แค่เรื่องเงินอย่างเดียว ทางเราไม่มีข้อเรียกร้องเพิ่ม ฝั่งน้องไมค์ไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไรอยู่แล้ว (หัวเราะ)
แต่ถามว่าทางเขามีเรียกร้องอะไรเพิ่มเติมไหม ก็เป็นประเด็นเดิมๆ ที่รู้ๆ กันอยู่ครับ แต่มันก็เกี่ยวข้องกับเด็กนั่นแหละ ก็เข้าใจฝั่งเขาว่าเขาก็ต้องการให้เด็กอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดครับ แต่ทางฝั่งของน้องไมค์ก็ดูตามศักยภาพครับ ทางเราจะต้องกลับไปทำการบ้านเรื่องอะไรบ้าง อันนี้มันลึกแล้วครับ เป็นเรื่องในสำนวน เดี๋ยวมาบอกอีกทีนึง”
ทางด้าน “ไมค์” เผยเบื่อกับเรื่องนี้แล้ว และอยากจบให้เร็วที่สุด
ไมค์ : “สภาพจิตใจตอนนี้ก็โอเคครับ เอาตรงๆ ผมไม่อยากตอบอะไรมากครับ ผมไม่รู้นะว่าใครจะรู้สึกอะไรยังไง แต่เอาตรงๆ ผมเบื่อกับเรื่องนี้แล้ว ไม่รู้ว่าสังคมจะคิดยังไงตอนนี้ แต่อยากให้เรื่องนี้รีบๆ จบแค่นั้นเลยครับที่ผมรู้สึกตอนนี้ ผมมีความคิดจะถอนฟ้อง อย่างที่บอกว่าจะเก็บเงินไว้ให้ลูกทีเดียวไหม อันนี้มันก็เป็นรายละเอียดของสำนวนครับ ผมไม่สามารถพูดได้
จริงๆ ความตั้งใจในวันนี้ก็คาดหวังว่ามันจะจบครับ ตอนแรกคิดว่าไฟลต์บินไปจีนน่าจะ 27 ธ.ค. นี้ แต่ว่าก็ต้องดูกันต่อไปครับว่าจะไปได้เมื่อไหร่ยังไง ตอนนี้มันก็มีโควิดด้วยอะไรด้วย ก็หลายอย่างครับ ทุกวันนี้ยังได้คุยกับลูกครับ ได้คุยผ่านนาฬิกา ถามว่าผมซีเรียสไหมว่าลูกจะต้องมาอยู่ในความปกครองของเรา อยู่กับเราเลย ไม่ได้ซีเรียสนะครับ ผมขอแค่ได้เจอลูกนั่นแหละครับ”
“ทนายเจมส์” เผยยังติดอยู่ตรงที่ค่าเลี้ยงดูและเงื่อนไขอื่นๆ ที่มีเพิ่มขึ้นมา
ทนายเจมส์ : “ถามว่าถ้าจะถอนฟ้องเหมือนที่แจ้งครั้งที่แล้วจะทำได้ไหม มันต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่ายนึงครับ และพูดถึงเคสทั่วไปนะครับ ท่านก็จะมองดูประโยชน์ของเด็กเป็นหลักว่าจะให้ถอนหรือไม่ให้ถอนครับ ซึ่งถามว่าแนวโน้มในรอบหน้าจะเป็นอย่างไร ผมว่าน่าจะจบในรูปแบบที่ดีเพราะว่าท่านก็ค่อนข้างกำชับแล้วว่าให้จบให้เร็วที่สุด แต่พอดีว่ามันมีเงื่อนไขอะไรบางอย่างที่เราไม่ได้เตรียมตัวมา และมันมาโผล่ในรอบนี้ เราก็เลยขอให้ไปศึกษาในรายละเอียดก่อน อย่างที่ผมบอกว่าไปกระทบกับเด็กคือสำคัญ ก็เลยตัดสินใจเลยไม่ได้ในตอนนี้ครับ
เรื่องเงื่อนไขค่าเลี้ยงดูมันก็มีส่วนติดครับ อย่างที่ผมบอกไงมันไปกระทบถึงเด็ก มันค่อนข้างเป็นรายละเอียดที่เป็นพระเอกของงานนี้ครับ ก็เลยยังไม่สามารถที่จะตอบได้ทันทีขอไปศึกษารายละเอียดและวางแผนให้รัดกุมที่สุด เพื่อให้เกิดประโยชน์กับเด็กมากที่สุด เราถึงจะตัดสินใจ
ศาลท่านก็แนะนำได้แค่หลักการครับ แต่ในรายละเอียดท่านลงลึกไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน ที่สำคัญก็คือเป็นเรื่องของเด็กครับ เพราะฉะนั้นท่านอยากให้มองประโยชน์ของเด็กเป็นหลักครับ ทนายทั้ง 2 ฝ่ายมีการนัดไกล่เกลี่ยกันนอกรอบไหมเหรอ ถ้ามีอะไรที่เร่งด่วนก็จะคุยครับ แต่ตอนนี้ยังไม่มี แต่สามารถหารือกันนอกรอบได้อยู่แล้วครับ”
