“ฟ้า ษริกา” รับเฮิร์ตบอกเลิก “เฟิด Slot Machine” มาเดือนกว่าแล้ว เผยสาเหตุมาจากเรื่องของเวลา และเป้าหมายในชีวิตที่ไม่ตรงกัน พ้อได้ทดลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วทำให้รู้ว่าไปต่อคงไม่เวิร์ก แค่เวลาตื่นเวลานอนก็ไม่ตรงกันแล้ว ยันไม่มีมือที่ 3 ถ้ามีคงตัดใจง่ายกว่านี้
หลังจากเพจดังออกมาให้ข่าวนางเอกหนังป้ายแดง ไม่รอดอาถรรพ์ 7 ปีเลิกนักร้องหนุ่ม หลังจากทดลองใช้ชีวิตคู่ด้วยกันแล้ว ฝ่ายหญิงลบรูปเกลี้ยงไอจี ซึ่งคอมเมนต์ต่างก็พุ่งเป้ามาที่คู่ของ นักแสดง-ยูทูปเบอร์สาว “ฟ้า ษริกา สารทศิลป์ศุภา”กับนักร้องหนุ่ม “เฟิด คาริญญ์ยวัฒ ดุรงค์จิรกานต์” หรือ “เฟิด นักร้องนำวง Slot Machine”ซึ่งฟ้าได้เปิดใจกับทางรายการไนน์เอนเตอร์เทน ว่าตนได้เห็นข่าวนั้นแล้ว และยอมรับว่าตนได้เลิกกับเฟิดมาได้เดือนกว่าๆ
“เห็นข่าวแล้วค่ะ ก็ใจสั่นนิดๆ ว่าเรื่องนี้มันเป็นสาธารณะแล้วนะ แต่เราก็โอเค เรารู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้มันจะเกิดขึ้น เราก็เลิกกัน เปลี่ยนสถานะกันแล้ว แต่ก็ยังคุยกันได้นะ ไม่ได้เลิกกันแบบคุยกันไม่ได้ ตอนนี้น่าจะเลิกกันมาได้เดือนกว่าๆ แล้ว ตอนนี้ใจเราโอเคแล้ว”
เผยสาเหตุเป็นเรื่องของเวลา และเป้าหมายในชีวิตที่ไม่ตรงกัน
“เป็นเรื่องของเป้าหมายทั้งในเรื่องส่วนตัวและชีวิตคู่มันไม่ได้ไปในทางเดียวกัน เราคุยกันมาเรื่อยๆ หลายรอบแล้ว แล้วเราก็พยายามปรับ แต่มันก็ไม่เวิร์ก เราก็เลยโอเค เราคงจะไปต่อด้วยกันไม่ได้ เราคุยมาเรื่อยๆ จนช่วงหลังๆ เราเริ่มคุยกันจริงจัง คุยกันมาเป็นปีแล้ว หลังจากกลับมาทำงานหลังจากหยุดโควิด-19 ไปเราก็คุยเรื่องนี้กันจริงจังขึ้น เรามีเวลาโฟกัสกับเรื่องต่างๆ ในชีวิตเยอะขึ้น ก็เลยมาคุยกันอีกรอบนึงว่าเอายังไง
(ทดลองใช้ชีวิตด้วยกันมาแล้ว?) พออยู่บ้านมันก็เห็นกัน 24 ชั่วโมง เราเห็นชีวิตประจำวันกันเยอะขึ้น เราเลยรู้ว่าตรงไหนมันเวิร์กมันไม่เวิร์ก มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆเรื่องของเวลาหรืออะไรต่างๆ มันทำให้เรารู้เราเห็นเอง อย่างเวลาตื่น เวลานอนก็ไม่ตรงกันแล้ว ไม่ใช่ว่าเรามีปัญหากัน แต่เราอ๋อ ตรงนี้เรารู้แล้ว หลักๆเลยคือเวลาเราไม่ไปด้วยกัน รวมกับปัญหาเล็กๆน้อยๆ มันทำให้เราลองมาคิดดูแล้วคิดว่าเราแยกกันใช้ชีวิตมันเวิร์กกว่า”
ตนเป็นคนบอกเลิกเอง ตอนที่คุยกันไม่มีน้ำตา แต่พอเลิกกันแล้วตนกลับร้องไห้ คิดถึงฝ่ายชาย
“จะเรียกอย่างนั้นก็ได้ เราก็คุยกันนานว่าเราจะเอายังไงกันต่อดี ตอนนี้มันถึงเวลาที่เราจะต้องตัดสินใจแล้ว งั้นเรามาคุยกันเรื่องนี้ตรงๆไหม เราก็ตัดสินใจกันสองคน วันนั้นไม่มีน้ำตาเลย แต่ตอนนี้....(น้ำตาคลอ) ความที่เรารู้จักกันมานานมากพอสมควร มันเลยทำให้เรารู้ว่าต่างคนต่างคิดอะไรกันอยู่วันนั้นมันไม่มีคำถามเท่าไหร่ เพราะมันเข้าใจมากๆ ช่วงที่มีน้ำตาคือช่วงที่เลิกกันแล้ว เหมือนคิดถึง เวลาที่เรามานั่งคิดทบทวน ตอนที่คุยเราเข้าใจกันดี เขาบอกก็ไปลองดูแล้วกัน มันเวิร์กไม่เวิร์กยังไงก็ค่อยมาคุยกัน ไปลองใช้ชีวิตดู ไม่ใช่เลิกกันแบบคุยกันไม่ได้”
เสียใจเพราะผูกพันกันไปแล้ว บอกฝ่ายชายไม่มียื้อเพราะเคารพในการตัดสินใจของตน
“ไม่ได้รู้สึกผิดหวังแต่รู้สึกเสียใจมากกว่า เขาก็เป็นคนดีคนนึงที่เข้ามาในชีวิตเรา แค่เสียใจตรงนี้มันผูกพันกันหลายเรื่องที่ไม่ใช่แค่เราสองคน แต่มีครอบครัวเขา หลายๆ เรื่องมันเชื่อมโยง เกี่ยวข้องกันไปหมดแล้ว วันนั้นเขาก็ไม่ได้ยื้อ เขาก็เคารพการตัดสินใจของเรา ให้เกียรติ และเข้าใจเราจริงๆ เราเองก็ดีใจที่เขาเข้าใจ เราไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมีภาพแบบนี้เกิดขึ้น เพราะจากที่เราไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน มันก็โอเคมากๆ
มันเหมือนถึงจุดของมัน ฟ้าก็รู้ว่ามันไม่ได้จริงๆ มันเป็นทุกๆอย่างรวมกัน ฟ้าก็คิดอยู่นานก่อนที่จะคุยกับเขา ไม่มีใครคิดหรอกว่ามันจะเกิดสิ่งนี้ ฟ้าเองก็เต็มที่กับรักครั้งนี้มาก ทุกคนเต็มที่ แต่พอมันถึงเวลามันก็ต้องไป”
ยันไม่มีมือที่ 3 ลั่นถ้ามีคงตัดใจง่ายกว่านี้
“เราปรับกันตลอด อาจจะเป็นด้วยเพราะความเคยชิน เลยไม่ได้โฟกัสมาก พอมันถึงวันที่ต้องคุยกลายเป็นว่ามันไม่ได้ เราไม่มีมือที่ 3 ถ้ามีคงจะตัดใจง่ายกว่านี้ ก็ยังมีคิดถึงบ้าง (น้ำตาคลอ) แต่ใดๆ ฟ้าว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วสำหรับเราทั้งคู่ พอมานั่งพูดแบบนี้มันก็มีคิดถึงบ้าง แต่พอใช้ชีวิตจริงๆแล้วเราก็อยู่ได้
วันที่ตัดสินใจไม่ลังเลนะ เราคิดมาประมาณนึงแล้วด้วย ก่อนแยกกันเขาก็บอกให้เราไปลองดู นะ เขาเข้าใจเรามากๆ เขาไม่อยากให้เรารู้สึกผิดหรือรู้สึกแย่กับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาเข้าใจ เหมือนเป็นการให้กำลังใจกันมากกว่า
รับเฮิร์ต รู้สึกดีแต่ทัศนคติและเป้าหมายไม่ตรงกัน
“ฟ้าเฮิร์ตนะ เรารู้สึกดีกับมัน แต่มันก็มีเรื่องของทัศนคติ มีเรื่องของเป้าหมายมากกว่าที่มันไม่เวิร์ก คือฟ้ามองถึงการใช้ชีวิตร่วมกันว่าเราจะไปใช้ชีวิตร่วมกันได้ตรงไหนบ้าง แล้วเราจะแบ่งเวลายังไง ไปอยู่ที่ไหน มันก็เป็นเรื่องของชีวิตคู่แหละ เรื่องส่วนตัวฟ้าว่าเราแยกแยะได้ ต่างคนต่างมีความฝัน แต่พอมันเป็นเรื่องชีวิตคู่ มันก็มีหลายๆอย่างที่ต้องคุยกัน มันเป็นเรื่องวิธีคิดมากกว่าว่าเราจะใช้ชีวิตอย่างนี้ไปอีกกี่สิบปี”
ครอบครัว คนรอบข้างช็อกแต่ก็เคารพการตัดสินใจของตน
“ทุกคนก็ช็อก เพราะทุกคนก็เห็นว่าทุกอย่างมันดี มันโอเค แต่พอเราบอกเหตุผล เราอธิบายไป ทุกคนก็เข้าใจและเป็นกำลังใจให้เรา ผู้ใหญ่เขาก็เข้าใจอยู่แล้วว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคน เขาไม่ได้ขัด มีแต่บอกว่าคิดดีแล้วใช่ไหม”
ไม่เกี่ยวอาถรรพ์รัก 7 ปี มองเป็นเรื่องสถิติมากกว่า
“ฟ้าว่ามันไม่เกี่ยวหรอก มันอาจจะเป็นช่วงเวลาในตัวเลขที่อาจจะทำให้เกิดความอิ่มตัวหรือความสัมพันธ์อะไร บางอย่างที่พอดี หรืออาจจะเป็นสถิติที่เกิดขึ้นมากกว่า สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องของคนสองคน บางคู่เขาก็ผ่านมันไปได้ตั้งหลายคู่ ย้อนกลับไปเราก็คิดถึงโมเมนต์ดีๆ ที่เราได้เคยใช้เวลาอยู่ด้วยกัน การได้กอดกัน หรือโมเมนต์เวลาที่เรากลับบ้านไปแล้วเราได้เจอใครสักคนนึง”
ไม่ใช่เพราะตนอยากแต่งงานแล้ว
“แต่งงานมันเป็นแค่พิธีเฉยๆ แต่จริงๆ ในชีวิตคู่มันมีหลายอย่างที่ต้องปรับ ต้องเข้าใจกันในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ต่างๆ แล้วก็เป้าหมายด้วย พอมันไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันมันก็ยาก กับรักครั้งต่อๆ ไปฟ้าก็ไม่ปิดนะ ครั้งนี้มันก็คือการเรียนรู้อีกอย่างนึงในชีวิตเรา ความรักมันเป็นเรื่องคาดเดาไม่ได้ แต่ยังไงเราก็คงจะทำมันเต็มที่ในทุกครั้ง แต่อาจจะต้องคิดเยอะนิดนึง ตัดสินใจนานขึ้น แต่ก็ไม่รู้นะว่าพอมีจริงๆ แล้วอาจจะไปเร็วก็ได้นะ มันคงเป็นเรื่องที่เราต้องเตรียมใจรับมือ เราเต็มที่กับทุกครั้งไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร เราก็โอเค เราก็ต้องยอมรับ”
ไม่รู้จะมีโอกาสรีเทิร์นไหม แต่ทุกวันนี้ยังคุยกันได้ ปรึกษากันได้
“ไม่รู้เลย ทุกวันนี้เรายังคุยกันได้ มีเรื่องอะไรก็ปรึกษากัน อย่างที่บอกมันเชื่อมโยงกันหลายเรื่อง มันไม่ได้มีแต่ความรักของเรา ตอนนี้ก็เคลียร์ทุกอย่าง ของอะไรที่เขาก็ไม่มีแล้ว อะไรที่เคยทำด้วยกัน ตอนนี้ก็ให้เวลากับตัวเอง เที่ยว อยู่กับเพื่อน เลี้ยงหมา จัดห้อง กลับไปบ้านก็ดูแลบ้าน พี่เขาก็เป็นคนดีคนนึง เป็นพี่น้อง เป็นคนที่อยู่ในชีวิตเรา เป็นคนที่รู้จักเรามากๆ เลยในหลายๆ มิติ
ซึ่งมันเป็นความสัมพันธ์ที่ดีที่เรายังคุยกันได้ การไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่ได้แต่งงานด้วยกัน ไม่ได้ไปถึงเป้าหมาย มันไม่ใช่จุดจบของทุกอย่าง มันสอนอะไรหลายๆ อย่าง แล้วเราก็ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน มันไม่ใช่เรื่องน่าเสียใจขนาดนั้น อาจจะเสียใจแค่ช่วงนี้ แต่พอเวลาผ่านไปมันก็คือบทเรียนบทนึงของชีวิต และความสัมพันธ์ของเรามันก็ยังอยู่”