นักแสดงชาวฮ่องกง "เกรกอรี หว่อง" ถึงขั้นต้องประกาศขอความช่วยเหลือ และความเห็นใจ หลังเขาไม่มีเงินในการสู้คดี จนล่าสุดโชคดีได้งานพิเศษ เป็นผู้จัดการร้านอาหาร
เมื่อปีก่อนชื่อของ เกรกอรี หว่อง กลายเป็นข่าวใหญ่ หลังเขาได้ถูกดำเนินคดีจากการร่วมบุกเข้าไปทำลายสภานิติบัญญัติของฮ่องกง ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ ระหว่างการร่วมชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งการแสดงจุดยืนทางการเมืองทำให้นักแสดงหนุ่มรายนี้ เสียงานในวงการบันเทิงไปมากมาย และยังถูกดำเนินคดีด้วย
ล่าสุดเขาได้โพสต์ขอความเห็นใจผ่านโซเชียลมีเดีย โดย เกรกอรี หว่อง บอกว่าตอนนี้เขาไม่มีเงินที่จะไปสู้คดี จากเหตุการณ์เมื่อปีก่อน
โดย เกรกอรี หว่อง บอกว่าเขาอยากจะได้งานทำ แต่ยืนยันจะไม่ขอรับเงินบริจาคอย่างเด็ดขาด แม้จะมีคนแนะนำว่าถ้าเขาทำ crowd funding ก็น่าจะได้เงินจากคนที่สนับสนุนไม่น้อย แต่ดาราหนุ่มก็ยืนยันว่าจะไม่ทำ
"การขอรับเงินบริจาคเป็นสิ่งอันตรายอยู่เหมือนกัน ที่ผ่านมามีคนขอบริจาคเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษา, เป็นเงินสำหรับสู้คดี หรือใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับผมเองอยากจะให้เกียรติของตัวเอง ทำเงินเป็นค่าแรงมากกว่า ซึ่งจะเป็นเงินที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ผมอยากจะทำงานเท่าที่ตัวเองทำได้ โดยไม่ต้องพึ่งใคร" ดาราหนุ่มบอก
หลังโพสต์ข้อความดังกล่าวไป ก็มีคนแชร์คำข้องานของ เกรกอรี หว่อง ไปทั่วโลกออนไลน์ของคนฮ่องกง จนสุดท้ายมีอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติของฮ่องกง ที่ติดต่อให้ เกรกอรี หว่อง ไปทำงานเป็นผู้จัดการร้านอาหารในย่านมงก๊กเป็นเวลา 1 วัน
สุดท้ายอดีตดาราหนุ่มก็เลยได้ไปทำงานที่ร้านอาหารแห่งนั้นจริง ๆ และมีคนมาสนับสนุน รวมถึงมาขอถ่ายรูปมากมาย จนได้ค่าจ้างเป็นเงิน 5 หลัก ซึ่งถือว่ามากพอสมควร แต่ทางร้านบอกว่าเขาสมควรได้รับเงินก้อนนี้ และทางร้านก็อยากจะช่วย เกรกอรี หว่อง ด้วย
เกรเกอร์รี หว่อง หรือ หวังจงยิ่ว วัย 42 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยลอนดอน และเรียนหนังสือที่อังกฤษมาตั้งแต่อายุ 14 ปี โดยเขามีผลงานทั้งทางภาพยนตร์ และโทรทัศน์มากมาย เช่น Lan Kwai Fong (2011), The Election (2014) และ The Menu (2015)
หว่อง ยังเป็นหนึ่งในนักแสดงกลุ่มเล็ก ๆ ที่กล้าออกมาแสดงจุดยืนทางการเมือง ในช่วงที่่บรรยากาศการประท้วงในฮ่องกงกำลังดุเดือดมากที่สุด ซึ่งดาราส่วนใหญ่เลือกที่จะอยู่เงียบ ๆ เพราะการแสดงความเห็นใด ๆ อาจสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นชาวฮ่องกง และชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจะกระทบต่อเรื่องงานของพวกเขาโดยตรง
เกรกอรี หว่อง ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในฮ่องกง ว่าเขายังจะยืนยันในความเชื่อทางการเมืองของตัวเอง แม้สุดท้ายมันจะส่งผลต่องานในวงการ แต่ก็จะไม่ตำหนิใครทั้งนั้น