xs
xsm
sm
md
lg

“ศรราม” เผยปมลึกๆ หย่า “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” เลิกทั้งที่ยังรัก เพราะหมดความไว้ใจ!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ศรราม” พูดครั้งแรก ตัดสินใจหย่า “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” เลิกทั้งที่ยังรัก เพราะหมดความไว้ใจ รับไม่ได้ต้องคุยกันแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ ทุกครั้งที่เจอหน้า รับท้อใจแต่ยังไงก็ต้องเลือก “วีจิ” มาเป็นอันดับหนึ่ง ร้องไห้บางครั้งแต่ก็ยังต้องสู้ต่อไป

แม้จะออกมาตอบถึงปมการหย่าอย่างเป็นทางการกับอดีตภรรยาอย่าง “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” ไปแล้ว แต่คำตอบที่ออกสื่อนั้นอาจจะยังไม่ชัดเจนซะทีเดียว ล่าสุด “หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” ได้ไปออกรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 พร้อมเปิดใจแบบหมดเปลือกถึงเหตุผลที่ต้องหย่า พร้อมแจงว่าเรื่องเงินเรื่องหนี้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจเป็น “คุณพ่อเลี้ยงเดียว” พร้อมบอกครั้งหนึ่งเคยเสียน้ำตาให้กับเรื่องนี้

“ต้องเรียนแบบนี้นะครับ ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นผมได้ทำหน้าที่ผมอย่างเต็มกำลังแล้ว แล้วก็ผมคิดว่าพอมาถึงวันนี้ปั๊บสิ่งต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นอาจจะถูกเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีก็ได้แล้วเราก็เลยจะขออนุญาตไม่ไล่ไทม์ไลน์นะครับ คือผมตัดสินใจตั้งแต่ครั้งแรกแล้วครับ (ตั้งแต่พบความผิดปกติ) เพราะผมเรียนไปแล้วว่าปัญหาที่มันเกิดขึ้นมันเป็นปัญหาที่ไม่ถูกต้องนะ

ในเมื่อปัญหาที่ไม่ถูกต้องมันเกิดขึ้นสิ่งที่มันหมดไม่ใช่ความรัก แต่มันหมดความไว้ใจ และในปัญหาที่เราพยายามประคับประคองแล้วแต่มันก็ยังมาเป็นระลอกๆ สิ่งที่ผมเรียนคือว่าถ้ามนุษย์เราอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว ครอบครัวมันควรจะมีความสุข ไม่ควรร้อน บ้านไม่ควรร้อน บ้านควรเป็นที่ที่อบอุ่นหรือเย็นๆ เวลาที่เราเหนื่อยจากที่อื่นมาเวลาที่เราเข้าบ้านเราต้องรู้สึกสบาย”

ด้าน “อั๋น ภูวนาท” หนึ่งในพิธีกรได้ถามต่อว่าถ้าพูดตรงๆ รู้ว่ามีเรื่องเงินนิดๆ หน่อยๆ แต่ไม่รู้ว่าปัญหานี้มาจากสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร
“ใช่ครับ แต่คราวนี้มันก็จะเป็นเรื่องอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ก็คือถ้าเกิดอั๋นพูดแบบนี้ก็จะอธิบายให้เข้าใจมากขึ้น เพราะว่าการสนทนาที่อยู่ในบ้านมันก็จะเป็นเรื่องปัญหานี้ มันจะไม่ใช่ว่าวันนี้จะพาลูกไปเที่ยวไหน วันนี้ป๋าเหนื่อยไหม มันก็จะถูกวนเวียนอยู่กับเรื่องที่อั๋นพูดเมื่อกี้ มันก็จะถูกวนเวียนอยู่แบบนั้น

ซึ่งเราเองก็ไม่เขาใจ ณ วันนั้น เรารู้ว่ามีปัญหา และเราก็พยายามช่วยแก้ปัญหา แต่ในเรื่องของการสนทนาไม่มีเรื่องอื่นเลย มันมีผลกระทบต่อคนคนหนึ่งที่ต้องออกไปยิ้มหน้ากล้อง คือเราต้องออกไปมอบความสุขให้กับทุกคน เพราะฉะนั้นพลังงานที่เราต้องได้รับ คือต้องเป็นพลังงานบวกนะ เพื่อที่เราออกไปปั๊บเราส่งให้คนอีกเป็นหมื่นเป็นแสน

แต่พอมันอยู่แต่เรื่องนี้ ผมก็ต้องยอมรับว่าผมเป็นมนุษย์ปกติธรรมดา ถ้าผมไม่เติมพลังให้กับตัวเอง ผมก็ไม่สามารถที่จะไปเติมพลังให้กับคนอื่นได้ เราก็อ่อนแอเป็นเหมือนกัน แต่พอเราอ่อนแอเราก็จะหาทางทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองกลับมาเข้มแข็งให้เร็วที่สุด คือหนุ่มได้ช่วยแก้ไขปัญหาเลยครับ ในทุกๆ ครั้งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนแต่งงาน อย่างที่เราบอกคือเราพยายามแก้ไข บอกให้ปรับปรุง ประคับประคองทุกสิ่งทุกอย่าง ณ วันนั้นนะครับ แต่พอเรามาคิดถึงวีจิ มันไม่โอเคสำหรับลูกแล้ว

แล้วอีกอย่างเหมือนที่อั๋นบอกคือเราจับต้นชนปลายไม่ถูกเพราะฉะนั้นเราก็ไม่รู้ว่าเราจะไปบอกที่มาที่ไปยังไงที่ต้นเหตุคืออะไร บางทีคนบอกตอบไม่ตรงคำถามก็อึดอัดบางส่วนนะครับ แต่อย่างที่บอกนะครับว่าเงินทองมันเป็นของนอกกาย คือเสียเงินเสียทองเท่าไหร่ไม่เป็นไร แต่ถ้ามันเสียความรู้สึกไปแล้วมันเรียกกลับมายาก”

รับประคับประคองมาเกือบปี แต่สุดท้ายไม่มีอะไรดีขึ้น แถมหมดความไว้ใจเลยขอหย่า
“เพราะผมไม่อยากให้วีจิขาดคนใดคนหนึ่งไปในชีวิต ซึ่งตอนนั้นที่เรายังไม่เลิกเพราะเราไม่ได้แคร์เรื่องว่าเราคือศรรามอะไรมากมาย แคร์ลูกมากกว่าแล้วก็ ณ วันนั้นเรารอให้มีการแก้ไขปรับปรุงด้วยเพราะได้มีการพูดจากันแล้ว

ซึ่งพอผ่านมาระยะเวลาหนึ่งมันก็ไม่ได้ถูกแก้ไขปรับปรุง แล้วเราก็ประคับประคองอย่างดีที่สุดแล้ว ที่ผมบอกว่าผมเสียความรู้สึก ความรู้สึกที่ผมบอกคือความไว้วางใจ เพราะหลังบ้านเราต้องแน่นหน้าบ้านมันถึงจะรบชนะ เพราะเรารอการแก้ไข และปรับปรุงเพราะเราก็ยังรักนะ เราก็ให้โอกาส (แต่มันไม่ใช่โอกาสที่มันกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้?) มันเป็นเหมือนเดิมอยู่แล้ว ณ วันนั้นนะครับ เพราะมันยังไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเรารู้กันแค่ในครอบครัวเรา

ยอมรับ “เลิกทั้งที่ยังรัก” และร้องไห้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
ก็รักนะครับ รัก แล้วก็ ณ ตอนนั้นก็พยายามทำความเข้าใจแต่เราก็ไม่รู้ว่าอะไรคือต้นเหตุจริงๆ เราก็ทำได้แค่จัดการแก้ไขสถานการณ์ที่มันเกิดข้างหน้าให้มันผ่านไปให้ได้ให้มันดีที่สุดในแต่ละเคสๆ ไป สำหรับวีจิก็ไม่ได้บอกอะไร ผมจะพยายามระมัดระวังในสิ่งที่ถึงแม้วีจิ เขาอาจจะยังรู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่องก็ตาม ถ้าเขายังอยู่ในวัยที่เขายังไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องรู้เรื่องเพราะพ่อหรือแม่ ก็ไม่ควรพูดบางสิ่งอย่างให้ลูกฟัง เขาควรจะฟังในสิ่งที่เขาควรจะฟัง

ผู้ชายก็ร้องไห้เป็น ระยะแรกๆ ก็เป็นนะครับ มันเหมือนกับว่าเราก็เคยอยู่กันเป็นครอบครัวก็นอนที่พื้นกันสามคนพ่อแม่ลูก แต่มันก็ต้องเข้มแข็ง เพราะถ้าเราไม่แข็งแรงเพียงพอเราก็ไม่สามารถพาลูกและตัวเราออกจากจุดตรงนั้นได้ และคิดถึงวีจิ เราก็ไม่ร้องแล้วครับ มันไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูก คือร้องแล้วทุกอย่างมันดีขึ้นผมจะร้องแต่ถามว่ารู้สึกซึมๆ ดาวน์ๆ ไหมมีนะครับ แต่พอเราหันไปเจอวีจิ คือก็หายครับ”










กำลังโหลดความคิดเห็น