สามีเก่า "น้ำหวาน" เล่าไทม์ไลน์หย่า สุดทางรักแล้ว เคลียร์ทุกดรามา มีกิ๊ก เที่ยวอาบอบนวด ยืมเงิน 5 ล้าน ไม่ให้เงินสินสอด ปลงถูกด่าหน้าตัวเมีย โพสต์แซะอดีตเมีย รับทำตัวเอง มั่นใจที่ผ่านมาทำหน้าที่สามีได้ดีเกินมาตรฐาน ไม่ตอบน้ำหวานคบซ้อน เพราะผ่านมาแล้ว ไม่มีประโยชน์รื้อฟื้น ขอโทษพลั้งปากด่าไฮโซปลอม สาบานไม่เคยแช่งแม่อีกฝ่ายให้ตาย เหนื่อยแล้ว หลังจากนี้ขอจบ
หลังเปิดศึกฟาดกันไปมา ล่าสุดวันนี้ 18 ธ.ค. "ดร.ณัฐวุฒิ ม้าแก้ว" อดีตสามี "น้ำหวาน เดอะเฟซ" รักษ์ณภัค วงศ์ธนทัศน์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เพื่ออธิบายเรื่องราวฝั่งตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมเปิดใจหลังฝ่ายภรรยาฝากสื่อถามทำนองว่า ว่าคนอื่นเป็นไฮโซปลอม แต่เจ้าตัวยังยืมเงินเพื่อน 5 ล้านเพื่อดาวน์รถซุปเปอร์คาร์ ขณะที่ "ไฮโซแชมป์ จิรัฏฐ์ เพชรนันทวงศ์" แฟนใหม่สาวน้ำหวานก็จัดหนัก ขอรับบริจาคปี๊บและกระโปรง โดยดร.เปิดอกตรงๆ โดนด่าหน้าตัวเมีย ซึ่งก็ยอมรับผลการกระทำของตัวเอง แต่หลังจากนี้จะเลิกแซะแล้ว เพราะเหนื่อย อยากจบเรื่องนี้แล้ว พร้อมเคลียร์อีกหลายประเด็น
“เรื่องที่ผ่านมันจบไปแล้ว จบไปแล้ว 4 เดือน มันจะจบไปแล้วด้วยดี แต่ล่าสุดภรรยาเก่าออกมาแถลง อาจจะเป็นความคิด เป็นสิ่งที่เขาอยากจะพูด แต่ข้อความที่เขาพูดมาอาจจะกระทบผมบ้าง กระทบหน้าที่การงาน กระทบภาพลักษณ์ อาจจะขออนุญาตอธิบายให้ฟัง ไม่ใช่การแฉหรือออกมาโจมตีอะไรแต่ไม่เจาะจงเรื่องอะไร แต่อะไรที่เป็นสิ่งที่พูดแล้วกระทบใคร กระทบแค่เราสอง อยากให้เราสองคนหยุดพูด หยุดทำร้ายกัน และดูจากเวลาที่ผมเคยโพสในสตอรี่ว่าผมจะหยุดโพสต์ถึงเขา ตอนนี้ก็เป็นเวลา 3 เดือนแล้ว
ซึ่งยอมรับว่าโพสต์นั้นอาจจะมีการจิกบ้าง เป็นอารมณ์ที่เราแสดงออกมา ซึ่งมันไม่ดี ซึ่งคนที่ฟังผมอยู่ตอนนี้อาจจะว่าผมหน้าตัวเมีย ไม่แมน ทำไมต้องแฉผู้หญิง แต่เวลานั้นมันด้วยความมีอารมณ์ มันเป็นการแสดงออก มันเป็นความรู้สึกที่คนอื่นไม่เข้าใจ และความจริงบางอย่างเราพูดไม่ได้ พูดไปเขาก็เสีย เราเสีย ไม่มีใครดีขึ้น และหลังจากนั้นโพสต์ไปมีคนเข้าใจผิด อันนั้นไม่เกี่ยวกับเขา ถือว่าคนดูคนอ่านเข้าใจผิดไปเอง”
เล่าไทม์ไลน์หย่า ไม่เคยมีกิ๊ก แต่สุดทาง ไปต่อไม่ได้
“ใจจริงไม่อยากตอบ มันเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว แต่ที่หย่าเดือนสิงหาคม มันสุดทางแล้ว มันมีเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตัวเขาเองก็อยากหย่า คนที่เป็นสามีภรรยากัน มันถึงวันที่มันไปต่อไม่ได้ ก็ต้องหย่า เป็นเรื่องธรรมดา ถามว่าเกี่ยวกับบุคลที่สามไหม คิดว่าเป็นเรื่องจริง แต่ผมยืนยันว่าผมไม่เคยมีกิ๊ก”
รับไปอาบอบนวดจริง แต่ไปคุยงานปกติ ส่วนเรื่องกิ๊กก็ไม่ได้มี ตนโดนด่าฝ่ายเดียว แต่ไม่อยากรื้อฟื้นแล้ว
“อาบอบนวดผมไปจริงครับ ไปคุยงาน รุ่นพี่รู้จักกับเจ้าของก็ไปคุยงานปกติ ไม่ได้ทำอะไร แต่ผมเข้าใจ คนที่ก้าวเดินเข้าไปในห้าง คนก็คิดว่าเราไปซื้อของอยู่แล้วแหละ อันนี้คือผมไม่ได้โกหกใช่ไหม
แล้วก็เรื่องที่มีกิ๊ก ตั้งแต่คราวที่แล้ว ก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่ามี เป็นเรื่องธรรมดาที่ผัว-เมีย มีอะไรให้สงสัย ก็คิดว่ามีกิ๊กหรือเปล่า แต่การตีความก็ได้หลายแบบอีก เพราะฉะนั้นการที่เราจะไปสงสัยว่าแฟนเรามีกิ๊ก ก็ไม่ใช่เรื่องผิดนะ ผัวสงสัยเมีย เมียสงสัยผัว เรื่องธรรมดา ที่นี้ก็อยู่ในเรื่องของการตีความแล้ว
อาชีพที่ภรรยาเก่าทำ มันเป็นอาชีพที่อยู่ในสื่อ เพราะฉะนั้นการพูดหนึ่งคำ มันออกไปอีกเยอะ ออกไปทั่วประเทศได้ แล้วมันก็ส่งผลต่อชีวิตเหมือนกัน ผมโดนด่า แล้วผมรู้สึกว่าไม่ควรโดนตำหนิแบบนั้นแต่มันก็ผ่านมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปรื้อฟื้น”
ยืนยันไม่มีมือที่สาม ส่วนส่งข้อความหาน้องสนิทส่งจริง ให้หาแฟนให้เพราะจะหย่า แค่แซวเล่นก่อนหย่า ไม่ได้ปากเสีย ปากหมา
“ไม่มีครับ อ้อ เมื่อกี้พูดถึงเรื่องน้องที่อยู่ในแชต น้องกิ๊ฟ คือไม่อยากพูดชื่อ เพราะเขาเป็นน้องที่เราสนิททั้งคู่ ทั้งน้ำหวาน และผม แล้วก็ข้อความนั้นส่งไปจริงครับ ส่งไปบอกว่า น้องกิ๊ฟ พี่จะหย่ากับน้ำหวานแล้วนะ หาแฟนให้พี่หน่อยเวลาคุยกับใคร เวลาคุยผมเป็นคนใจเย็นมาก ผมไม่ได้ปากเสียหรือปากหมาเหมือนที่ทุกคนมอง
ตอนนั้นก็มีแซวเล่น เราสนิทกับเขา บุคลิกผมเป็นคนคุยเล่นอยู่แล้ว ไม่แปลกที่ผมจะพูดกับพี่ๆ ว่า สัมภาษณ์เสร็จแล้วหาสาวให้ผมหน่อยนะ เป็นสิ่งธรรมดาที่ออกจากปากผม มันเป็นการคุยเล่นกัน แล้วก็ไม่ได้คาดหวังว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น ถ้าจำไม่ผิดน่าจะวันที่ 27 สิงหาคม หย่าวันที่ 28 สิงหาคม เรื่องนี้ไม่มีทางเป็นชนวนแน่นอนครับ เราไม่สามารถหย่ากันด้วยการตัดสินความผิดในวันเดียวได้
ผมก็ไม่ได้ถามว่าทำไมแชตถึงไปถึงน้ำหวาน เพราะไม่ได้คิดว่าน้องเขามีจุดประสงค์ไม่ดี เราไม่รู้ว่าจุดประสงค์คืออะไร แต่เขาไม่ใช่คนไม่ดี อาจจะมีความไม่สบายใจอะไรเปล่า ที่อยู่ดีๆ แฟนพี่เราทักมาหาเรา ก็เรื่องธรรมดา ผมไม่ได้อึดอัดใจกับเรื่องนี้ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องผิดด้วยซ้ำ สำหรับผมนะ แต่ถ้าคนมองว่าพี่ณัฐมีกิ๊ก เพราะไปส่งหาใครก่อนหย่าวันหนึ่ง จริงๆ มันมีรายละเอียดมากกว่านั้น มากกว่าเรื่องนี้”
ไม่เคยอยากหย่า เพราะไม่ได้คิดว่าตนเองผิด ยื้อหย่าเพราะมีคนกลางอาสาเป็นกาวใจให้
“คนเรา พอวันที่เราจะหย่า มันมีความสลด ผมไม่เคยอยากหย่าเลยครับ และผมไม่ได้คิดว่าผมทำผิดเยอะขนาดที่ผัวเมียต้องหย่ากัน มีน้อง 2 คน ผมไม่ขอเอ่ยชื่อเป็นน้องในวงการคนหนึ่ง แล้วก็นอกวงการคนหนึ่ง บอกกับผมว่าพี่ณัฐ อย่าเพิ่งหย่านะ เดี๋ยวหนูคุยให้ เผื่อว่าเรื่องมันจะดีขึ้น ก็เป็นน้องที่ให้คำแนะนำได้น่ารัก ผัวเมียเขาทะเลาะกันแล้วอยากจะหย่ากัน อยู่ดีๆ มาเป็นคนกลางมาสานสัมพันธ์ให้เรามันเป็นเรื่องที่ดีมาก เป็นสิ่งที่เราควรเอามาเป็นแบบอย่างที่ดี (เขาเป็นกาวใจ) ใช่ครับ”
โต้ไม่เคยซัปพอร์ตอดีตเมีย ส่วนคำว่าไฮโซปลอม ขอโทษทั้งเมียเก่าและแฟนใหม่เขาด้วย พูดเพราะโกรธ น้อยใจ
“อยู่กันมาขนาดนี้ผมไม่ต้องตอบคำถามนี้แล้วครับ ผัวเมียก็ต้องซัปพอร์ตกันอยู่แล้ว ผมก็มีธุรกิจที่บ้าน ธุรกิจที่สร้างขึ้นมาเอง ธุรกิจที่ทำกับเพื่อน วันนึงที่เราแต่งงานกันเราก็ต้องซัปพอร์ตแฟนเรา ส่วนคำว่าไฮโซปลอม ผมขอพูดตรงนี้ว่าผมขอโทษทั้งภรรยาเก่า ทั้งแฟนใหม่ของเขา อาจจะเป็นคำพูดที่มาจากความโกรธมาจากความน้อยใจ มาจากความอึดอัด ถ้าคนที่ฟังการสัมภาษณ์นี้แล้ว อยากให้ฟังผมว่าอะไรที่ทำผิดผมยกมือยอมรับผิด วันนี้ผมขอโทษ ไม่ว่าจะจริงหรือปลอมผมไม่มีสิทธิ์ไปว่าเขา ผมขอโทษครับ"
เผยไม่มีสินสอด เพราะอีกฝ่ายบอกไม่เอาเงิน แต่เตรียมซื้อบ้านให้ ทำเรื่องเอาไว้หมดแล้ว แต่ดันเกิดเรื่องซะก่อน
“วันแรกเราคุยกันกับแม่กับภรรยาเก่า เขาบอกว่าเขาไม่เอาเงิน ผมรู้สึกว่าเราไม่ได้คิดผิดเลยเขาแต่งงานกับผู้ชายคนนึงเขาไม่ได้คาดหวังเงิน ไม่ได้หวังทรัพย์สิน เป็นแม่ลูกที่น่ารักมากๆ เราคิดถูกแล้วที่เราเลือกเขามาเป็นภรรยา แต่ก็มีสิ่งนึงที่คุยกันไว้ถึงความฝันของผู้หญิงคนนึงก็อาจจะอยากได้บ้าน ก็คุยกันมาตลอด ผมก็ใช้ช่วงเวลานึงเพราะแต่งงานกันมา 2 ปี แล้วก็ค่อยๆ เก็บตังค์ ก็มีการคุยกันตลอดว่าเมื่อไหร่จะซื้อ เมื่อไหร่จะทำ จนถึงวันที่ต้องทำก็ทำเรื่องกู้บ้านแล้ว พร้อมทุกอย่าง แต่แค่ไม่ได้ซื้อเพราะว่าเกิดเรื่องก่อน
เขาก็มีทวงถามเรื่องบ้าน แต่เป็นปกติเป็นคนที่ยังคุยกัน แต่ก่อนเรายังสามารถโทร.หากันได้ ก็ต้องถามติดปัญหาอะไรบ้าง พอเราอธิบายถึงปัญหาก็มีเถียงกันบ้าง แต่สรุปคือไม่ได้ซื้อ ส่วนถามว่าการไม่ซื้อบ้านเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจหย่าไหม ไม่ทราบครับ”
สาบานและยืนยันด้วยเกียรติลูกผู้ชาย ไม่เคยด่าแม่น้ำหวาน ไม่เคยแช่งให้ตาย
“ผมยกมือสาบานวันนี้ว่าผมไม่เคยด่าแม่ ผมไม่เคยแช่งให้แม่ตาย ถ้าคำพูดนี้ออกมาจากปากเพื่อนคนไหนที่ผมไม่ทราบให้เขากลับไปเคลียร์กับเพื่อนเขาซะว่าประโยคนี้ออกมาจากผมจริงเท็จขนาดไหนบางทีเราฟังข้อความ 2-3 ครั้งข้อความอาจจะเปลี่ยนก็ได้
จริงๆ เรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่สุดที่ผมอยากออกมาพูดเพราะว่าเราโดนเลี้ยงดูมา เรามีการศึกษาที่โดนสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กตั้งแต่เกิดว่าเราต้องเคารพผู้ใหญ่ บุพการีเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตเรา และผมก็ยังคงติดต่อแม่ภรรยาอยู่ เพราะฉะนั้นไม่เคยแช่ง ยืนยันด้วยเกียรติของลูกผู้ชายไม่เคยแช่ง ไม่เคยด่าครับ ถามว่าได้ติดต่อไปขอโทษไหม ไม่ได้ไปขอโทษ เพราะว่าผมไม่ได้ด่าเขา ไม่มีอะไรต้องขอโทษ
กับแม่เขาเราไม่พูดเรื่องนี้ เพราะเราถือว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างผมกับภรรยา ไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ แต่การที่แม่รับฟังข่าวสารหรืออะไรก็ช่าง มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาต้องได้ข่าวอยู่แล้ว”
ยังเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพตลอดเวลา
“ผมไม่ได้ติดต่อในแบบที่ แม่ครับผมไปหาแม่ทุกวันนะครับ ไม่ใช่ คือมนุษย์เรามันไม่ต้องเลิกกันแล้วต้องเกลียดกัน มนุษยธรรมมันก็ยังมีอยู่ ก็ยังเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่เรายังเคารพอยู่ตลอดเวลา”
เผยโพสต์แซะสะตอถูกด่าหน้าตัวเมีย ลั่นทำตัวเอง แต่ก็แอบสงสารตัวเองเหมือนกัน ลั่นจะเป็นบทเรียน
"ก็ลงอีหรอบเดิม ดร.ณัฐหน้าตัวเมีย ทำไมต้องเอาเรื่องผู้หญิงมาแฉ ทำไมไม่หยุดสักที ผมหยุดตั้งแต่ 3 เดือนที่แล้ว ผมก็สงสารตัวเองเหมือนกัน แต่ในการสงสารตัวเองเราก็คิดเหมือนกันว่า อ้าว ก็เราทำเองนี่หว่า เราโพสต์จริง ผมถึงบอกว่าที่เคยไปว่าใครไม่ดีก็ขอโทษ
ถ้าเคยแซะใครก็ขอโทษ มันไม่ตรงใจใครได้ทั้งหมด แต่อยากจะบอกว่าสิ่งที่จะทำให้ผมสบายใจมากขึ้นเพราะผมอึดอัดมาตลอด เมื่อคืนผมก็นอนตอน 6 โมงเช้า ผมอึดอัดเรื่องนี้เพราะว่าคนก็ยังพูดเรื่องเดิม แต่ไม่แปลกหรอก ก็เราทำเลว รับผลก็แค่นั้น
แต่แค่จะบอกว่า ณ วันนั้นที่หยุดไปแล้ว ไปแซะต่อ จนมาถึงเรื่องสะตอกุ้ง เพราะว่าผมโกรธมาก ตอนแรกนะ แต่หลังจากที่ตั้งสติได้ก็ไม่โกรธ แค่มานั่งคิดว่า เอ้อ...เอาอีกละ บางทีเราก็ทำไปโดยไม่คิดอีก แล้วก็คาดหวังว่านี่มันจะเป็นบทเรียนในอนาคตผมว่าต่อไปเวลาเราจะทำอะไรก็ต้องคิดให้มากขึ้นเพราะมันส่งผลกระทบกับเราจริงๆ แล้วที่โพสต์ไปนั้นมันเป็นการระบายอารมณ์ มาจากความกดดันและอึดอัดมาตลอด 4 เดือนที่เราหยุดแล้ว แต่ทำไมวันนี้เรื่องพวกนี้ตีกลับมาหาผม มันส่งผลกับการดำเนินชีวิต และธุรกิจ”
บังคับปากห้ามไม่ให้พูดไม่ได้ ก่อนชมอดีตเมียเป็นคนน่ารักเหมือนเดิม
“เราไม่มีทางที่จะบอกว่าเราห้ามว่าใคร เพราะเราบังคับใครไม่ได้ เราบังคับปากใครไม่ได้ เราบังคับเหตุการณ์ในอนาคตไม่ได้ ตอนที่ไปหย่า ไม่ได้อยู่ในอารมณ์โกรธทั้งคู่ มีพยานเป็นเพื่อนเรา เป็นเพื่อนเขาไป จริงๆ ก่อนหน้าหย่าก็ยังนัดทานข้าว เขาก็ยังเป็นคนที่น่ารักเหมือนเดิม”
สถานะไม่ได้รักแล้ว จะไม่แซะอีกฝ่ายอีกแล้ว
“ก็เป็นคนที่แยกทางกันครับ ไม่ได้รัก เรื่องตอบโต้ ผมไม่อยากโต้ตอบ วันนี้ถ้ามีอะไรที่คนฟังได้ฟังแล้วไม่เข้าใจ ผมก็ให้เขาไม่เข้าใจต่อไปเพราะว่าผมพูดความจริงแล้ว ผมพูดในฝั่งของผมแล้ว ไม่ว่าเขาแล้ว
ถ้ามันมีการโพสต์ให้ระลึกไว้ว่าผมไม่ได้แซะเขาแล้ว ผมอาจจะแซะเพื่อนผมเอง (ยิ้ม) จะอะไรก็ช่าง คือวิถีชีวิตเราบางทีเราคุยกับเพื่อน การล้อเล่น ทำโน่นทำนี่ ไม่ได้ไปแซะใครตลอดชีวิตหรอก ผมเป็นคนไม่เคยโกรธใครนานอยู่แล้ว”
ยินดีช่วยเหลือหากต้องการ ปัจจุบันยังช่วยเหลือแม่ฝ่ายหญิงอยู่นิดหน่อย
“สถานะเขาก็เป็นภรรยาเก่าที่รู้จักกัน ถ้าวันหนึ่งขอความช่วยเหลือ ถ้าช่วยอะไรได้ก็ช่วย เพราะวันที่ไปหาแม่ของภรรยาเก่าก็ช่วยเหลืออะไรได้ ก็ช่วยเหลือได้ในฐานะคนนอกครับ ในฐานะอดีตลูกเขย (ณ วันนี้เรายังช่วยเหลือแม่เขาอยู่ไหม?) นิดหน่อยครับไม่เยอะ”
ยันทำหน้าที่ได้เกินมาตรฐานสามี
“ไม่กล้าให้คะแนน เพราะเกณฑ์มาตรฐานของแต่ละคนไม่เท่ากัน ผมคิดว่าผมดีกว่ามาตรฐาน ผมให้คะแนนตัวเองน้อยมาก เพราะถ้ามันเยอะกว่านี้อาจจะไม่ต้องมีประเด็นให้มานั่งคิดก็ได้ว่าเขาทำไมต้องทำแบบนี้ ผมพยายามที่จะปลงทุกอย่าง ก็เลยให้คะแนนตัวเองน้อยๆ ไปเลยก็ได้ จะได้ไม่ต้องไปโทษใคร โทษที่ตัวเองเรื่องนี้มันไม่ได้กระทบกับครอบครัว มันกระทบกับตัวเอง ก็คือเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องกระทบธุรกิจ จริงๆ เรื่องสามี-ภรรยาทะเลาะกัน ไม่น่าจะมีผลกับธุรกิจ แต่มันมีข้อความอื่นๆ ที่อาจจะพาดพิงถึงเรา มันก็มีความเกี่ยวข้องอยู่ เพราะเราทำธุรกิจอยู่”
ยืมเงิน 5 แสนดาวน์ซุปเปอร์คาร์ เป็นการดีลธุรกิจร่วมกัน
“มันเป็นดีลของการทำธุรกิจร่วมกัน บางคนอาจจะมองว่าเป็นการยืม บางคนอาจจะมองว่าเป็นการหุ้น แต่สุดท้ายมันมีการแบ่งผลประโยชน์และแบ่งกำไรกันแล้ว ก็จบกัน ก็ไม่น่าจะเป็นประเด็นอะไร (ตกลงกันชัดเจน?) ใช่ครับ เจนชัดครับ”
งดตอบเรื่องคบซ้อน ผ่านมาแล้ว
“เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ไม่น่าจะต้องพูดถึง ไม่พูดถึงดีกว่า (ติดใจไหม?) ตอนนี้ไม่ได้ติดใจครับ เพราะมันผ่านมา 4 เดือนแล้ว เขาบอกไม่ให้คบซ้อนก็ให้เป็นคำยืนยันของเขาครับ เพราะว่าผมจะไม่พูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับเขา”
มั่นใจตนเองใสมาก กล้าพูด
“ผมใสมาก ผมมั่นใจ ผมกล้าพูด แต่เขาก็อาจจะใสในทางของเขา ผมก็ใสในทางของผม มันกำกวมใช่ไหม ผมยืนยันว่าผมพูดความจริง ทำหน้าที่ของสามีได้ดีเท่าที่จะทำได้ ส่วนบางเรื่องที่ไม่อยากพูด พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ พูดไปก็ทำร้ายกันเอง”
ไม่มีความจริงซ่อนอยู่ในไอจี แค่อยากให้เกิดความยุติธรรมกับตนด้วย
“อาจจะไม่มีอะไรมาก ผมแค่ไม่เคยลบรูปในไอจีแม้จะเลิกกันแล้ว คนก็จะบอกว่าผมแซะอีกแล้ว ทิ้งท้ายอีกแล้ว ไปตามหาโน่นนี่ แล้วจะให้ผมพูดอะไร พูดทางซ้าย พูดทางขวา ก็บอกว่าไม่แมน ผมเปิดเผยความจริงก็บอกว่าไม่แมน ผมไม่พูดกลายเป็นผมอึดอัด ผมต้องยอมรับในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำความยุติธรรมอยากให้เกิดกับเขา ความยุติธรรมอยากให้เกิดกับคนของเขา และความยุติธรรมก็อยากให้เกิดกับผมด้วย”
แถลงข่าววันนี้หวังดีกับทุกคน อยากจบ เหนื่อยแล้ว
“ผมมีความหวังให้กับทุกคน ผมถึงพูดได้เต็มปากว่าสิ่งที่ผมเคยพูดไป ผมขอโทษ ส่วนจะจบไหมไม่ทราบครับ แต่ผมจบ ผมเหนื่อย เราไม่โพสต์ว่าถึงเขาอยู่แล้ว ที่ผ่านมาแค่โกรธครับ”
วอนคนเมนต์ด่าอย่าหยาบคาย ให้เกียรติตนและอดีตภรรยา
“ก็มีหลายอารมณ์ บางอารมณ์ก็รู้สึกสนุกดี ก็มีตอบกลับ แต่ผมไม่ได้เป็นคนที่นั่งด่าคน บางทีฟังแล้วก็ เฮ้อ อะไร ทำไมต้องทำแบบนี้ แต่สุดท้ายก็มานั่งคิดว่ามันเป็นผลของการที่เราไปทำเอาไว้ ก็ต้องยอมรับ แต่ก่อนที่จะโพสต์ทุกข้อความ คิดดีแล้ว ทราบถึงผลที่จะตามมาและยอมรับ ถ้าผิดก็คือผิด
อยากจะพูดนิดนึง คนในโซเชียลทั้งพูดถึงผมและภรรยาเก่า ตัวผมเองเป็นคนที่ไม่เคยจะฟ้องใครจากการโดนด่า เพราะมันเป็นการระบายอารมณ์ของคนบางคน เพียงแค่อยากบอกว่าถ้าจะคอมเมนต์ถึงผม ถึงผู้หญิง อยากให้เขาให้เกียรติเราและผู้หญิงด้วยคือไม่ได้ไปทำร้ายใครอะไรขนาดนั้น ดังนั้นต้องให้เกียรติคนที่เราพูดถึงด้วย อย่าหยาบคาย”
อยากให้น้ำหวานมีความสุขในสิ่งที่เลือก วอนคนยังสนับสนุนน้ำหวาน
“(หัวเราะ) ไม่ฝากครั้งสุดท้ายหรอกครับ เพราะว่าเมื่อเวลาผ่านไป คนเราที่เคยโกรธเคืองกันก็ต้องได้วนกลับมาเจอกัน แล้ววันหนึ่งอาจจะได้กลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็ได้ และเราก็เคยมีช่วงเวลา 8 ปีที่คบกัน วันนี้ก็แค่อยากให้เขาใช้ชีวิตให้มีความสุขในสิ่งที่เขาเลือก อยากให้คนที่ดู ที่ไม่ได้ชอบและเห็นด้วยกับทางเขายังคงสนับสนุนเขาอยู่ เรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานคนละเรื่องกัน ถ้าวันนึงเขามีผลงานดีๆ ออกมา มีคุณภาพก็ควรสนับสนุนในฐานะนักแสดงในอาชีพของเขา”
ไม่ได้รักแบบเดิมแล้ว แค่ห่วงใย
“ตอนนั้นเลิกกันทั้งที่ยังรัก แต่ตอนนี้ไม่ได้รักแบบเดิม แต่ยังมีความห่วงใย คนจะบอกว่าผมย้อนแย้ง เราเลิกก็ห่วงได้ เราก็ยังห่วง ถ้าวันนึงเขาเกิดอะไรขึ้นมา ผมก็ยังเป็นคนนึงที่เป็นคนโทร.ไป ผมซัปพอร์ตทุกคนที่ผมรู้จักและสนิท
สภาพจิตใจก็โอเค จนมาไม่โอเคเมื่อไม่กี่วันนี้แหละ ที่เรารู้สึกอึดอัด ผมไม่ได้โกรธ ไม่ได้เคือง ไม่ได้อยากออกมาแฉหรือตีแผ่อะไร อยากจะระบายในฝั่งของตัวเองว่าเราก็อึดอัดและอยากจะหยุดแล้ว”
ไม่เข็ดมีคู่ มูฟออนได้ 2 เดือนแล้ว
“ไม่เข็ดหรอกครับ มนุษย์ก็ต้องมีความรัก เมื่อถึงจุดหนึ่งก็ต้องแต่งงานมีลูกเป็นธรรมดา ทั้งตัวเราก็ตัวเขา จุดจบเหมือนกัน คือเรามีครอบครัวที่มีความสุข ตอนนี้มูฟออนมาได้ 2 เดือนแล้วครับ 2 เดือนแรกจมกองเลือด ถามว่าเริ่มต้นใหม่เลยไหม นี่ไง (หัวเราะ) ก็ถามและพูดคำเดิมว่าพี่มีแนะนำให้ผมไหมครับ ผมก็ถามคำเดิม (หัวเราะ)”
