ภาคต่อของหนังแฟนตาซี L.O.R.D: Legend of Ravaging Dynasties สงคราม 7 จอมเวทย์ มีกำหนดจะเข้าฉายต่อเนื่องจากหนังภาคแรกทันที แต่สุดท้ายผู้สร้างกลับดวงแตก เพราะดารานำในเรื่องอย่าง ฟ่านปิงปิง ไปก่อเรื่องอื้อฉาวเรื่องหนีภาษี จนทำให้หนังถูกเลื่อนโปรแกรมออกไปแบบไม่มีกำหนด
ล่าสุดหนังเรื่องนี้ก็ได้มีโอกาสเข้าโรงฉายอีกครั้งแล้ว โดยผู้สร้างตัดสินใจที่จะตัดใบหน้าตัวละครของ ฟ่านปิงปิง ทิ้งทั้งหมด เพื่อหนีปัญหาที่จะเกิดขึ้น อาจจะดูเป็นทางออกที่แฟน ๆ ของ ฟ่านปิงปิง คงไม่ค่อยแฮปปี้นัก แต่อย่างน้อยก็ยังทำให้หนังได้มีโอกาสฉายในโรงภาพยนตร์ต่อไป
การตัดดาราทิ้งออกจากหนังทั้งเรื่อง เป็นเหตุการณ์ปกติที่เกิดขึ้นกับวงการหนังจีนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะไปก่อคดี ยาเสพติด, หนีภาษี หรือกระทั่งเล่นหนังวาบหวิว ก็มีโอกาสที่จะทำให้ดาราคนนั้นโดนทางการแบนแบบไม่เป็นทางการ หรือหายจากหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่งไปเลยโดยไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบาย
เหมือนอย่าง ทังเว่ย ที่แจ้งเกิดจากหนังอีโรติกดัง Lust, Caution จนได้งานต่อเนื่องทันที แต่กลายเป็นว่าทางการจีนกลับไม่พอใจ และสั่งแบน ทังเว่ย แบบเงียบ ๆ
จนสุดท้ายผู้สร้างหนังต้องตัดฉากของเธอในหนัง The Founding of a Party ไม่เท่านั้น ทังเว่ย ยังโดนแบนอยู่นานหลายปี ต้องหันไปหางานในต่างประเทศทำนานอยู่หลายปี จนสุดท้ายได้เล่นหนังเกาหลี และยังไม่ได้แค่เล่นหนังเฉย ๆ แต่ได้พบรักกับ ผกก. หนังเกาหลีเรื่อง Late Autumn จนแต่งงานเป็นสามีภรรยากันมาจนถึงปัจจุบัน
ความเข้มงวดของรัฐบาลจีนในการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ เป็นเรื่องที่รู้กันดีในวงการหนัง หนังหลาย ๆ เรื่องโดนแบน หนังหลายเรื่องโดนตัดฉากด้วยเหตุผลแปลก ๆ โดยส่วนใหญ่รัฐบาลจีนยังไม่จำเป็นต้องออกมาอธิบายอะไรให้วุ่นวายด้วย
หนังซอมบี้ World War Z โดนแบน โดยได้เกี่ยวอะไรกับเนื้อหา หรือความโหดเหี้ยมอะไรเลย แต่เป็นเพราะรัฐบาลจีนยังเคือง แบรด พิตต์ ที่เคยไปเล่นหนังเกี่ยวกับ ทิเบตเอาไว้
เป็นเหตุผลเดียวกับที่ ริชาร์ด เกียร์ นักแสดงที่ ศรัทธา ดาไล ลามะ มาก จนโดนทุกเรื่องของเขาจะโดนจีนแบน ซึ่ง ริชาร์ด เกียร์ ก็ยอมรับว่าเพราะเหตุนี้ ทำให้อนาคตในวงการหนังของเขา จบเห่โดยทันที เพราะปัจจุบัน หนังที่แสดงไม่ได้ฉายจีน ก็แทบจะไมมีผู้สร้างหนังคนไหนสนใจที่จะจ้างแล้ว
มีดาราอีกหลายคนที่ตอนนี้ก็ยังโดนทางการจีนแบนเพราะออกตัวสนับสนุนการประกาศอิสรภาพของทิเบต ไม่ว่าจะเป็น แฮริสัน ฟอร์ด ที่แสดงความศรัทธาต่อ ดาไลลามะ มานาน นอกจากนั้นก็ยังมีผู้กำกับระดับตำนานอย่าง มาร์ติน สกอร์เซซี ที่เคยสร้างหนัง Kundun เพื่อเล่าเรื่องชีวประวัติของ ดาไลลามะ และนักร้องดังอย่าง เลดี้ กาก้า ด้วย โดยบางคนก็โดนแบนห้ามเข้าจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนบางคนก็โดนหนัก นอกจากจะไม่สามารถไปเหยียบจีนแผนดินใหญ่ได้แล้ว ผลงานก็จะไม่ได้เข้าไปฉายในจีนด้วย
นอกจากจุดยืนทางการเมืองเนื้อหาของหนังก็สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ผลงานเรื่องนั้น ๆ โดนแบนห้ามเข้ามาฉายในจีนด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการเมือง, เรื่องเซ็กส์ หรือความรุนแรง ก็อาจจะเข้าใจได้ง่าย แต่บางทีมันก็ละเอียดอ่อนกว่านั้น
หนังแอ็กชั่น Red Dawn เล่าเรื่องในจักรวาลคู่ขนาน ที่กองทัพจีนบุกมาถึงดินแดนอเมริกา ก็โดนแบนทันที แม้ผู้สร้างจะพยายามใช้ CG เปลี่ยนกองทัพจีนในเรื่องให้กลายเป็นเกาหลีใต้แทนแล้วก็ตาม
แม้แต่หนังเด็ก ๆ อย่าง Christopher Robin ก็โดนแบนในจีนด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุผลที่ต้องบอกว่าเหลือเชื่อสุด ๆ
เพราะประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีนมักจะโดน ล้อเลียน ว่าหน้าตาเหมือน วินนี่ เดอะ พูห์ ทั้งหนัง และการ์ตูนที่หน้าคล้ายผู้นำจีนเรื่องนี้ ก็เลยโดนแบนไปแบบงง ๆ
ส่วนหนังแก็งสเตอร์ไอริช The Departed ที่รีเมกมาจากหนังจีน Infernal Affairs ก็โดนแบนโดไม่ได้เกี่ยวข้องเรื่องความรุนแรงอะไรเลย แต่เป็นเพราะมีตัวละครพูดว่า “รัฐบาลจีนอาจจะเอานิวเคลียร์ไปถล่มไต้หวันเมื่อไหร่ก็ไมรู้”
ซึ่งปัญหาก็คือการแบนส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นโดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ เจ้าหน้าที่จีนจะบอกแค่ว่าหนังเรื่องนั้น ๆ “มีเนื้อหาไม่เหมาะสม” แค่นั้น ส่วนเหตุผลจริง ๆ คืออะไรสื่อ และผู้สร้างก็คงต้องไปเดากันเอง
การตอบโต้ด้วยมาตรการรุนแรงสูงสุด คือ สิ่งที่ทางการจีนใช้เป็นปกติอยู่แล้ว นอกจากในวงการบันเทิง วงการกีฬาอย่างบาสเกตบอล NBA ก็เคยโดนแบนเพียงเพราะ ผู้จัดการทั่วไปของทีม ฮุสตัน ร็อกเก็ต ทวีตข้อความให้กำลังใจผู้ประท้วงชาวฮ่องกง ซึ่งว่ากันว่าทวีตเดียว ที่มีข้อความเพียงไม่กี่ตัวอักษรคราวนั้น ทำให้บาสเก็ตบอล NBA สูญเงินหลักพันล้านเหรียญฯ เลยทีเดียว
ล่าสุดกับหนังฮอลลีวูด Monster Hunter ก็ต้องโดนถอดจากโปรแกรมฉายเพราะมีคำที่มีปัญหาเพียงคำเดียวเท่านั้น จนรัฐบาลจีนอาจจะโดนมองว่าทำอะไรไร้เหตุผล แต่ด้วยเงินหยวนที่หอมหวาน และเย้ายวน คนทำหนังทั่วโลกก็คงต้องทำใจยอมรับกฎกติการที่ไม่ค่อยมีเหตุมีผลของจีนแบบนี้ไปก่อน
ที่น่าเจ็บใจก็คงจะเป็นเรื่องที่ผู้สร้างทำ Monster Hunter ออกมาเพื่อขายตลาดจีนแผ่นดินใหญ่เป็นหลัก ด้วยเนื้อหาที่เป็นสไตล์ที่คนดูหนังจีนน่าจะชื่นชอบได้ไม่ยาก แถมยังเลือกเอาดาราไทยอย่าง จา พนม ที่คนจีนชื่นชอบกันมากมาแสดงอีก หนังจะกล้าที่จะเข้าฉายในปลายปี 2020 ทั้งที่ COVID-19 ยังระบาดหนักในหลาย ๆ ประเทศ ก็เพราะเชื่อว่าสถานการณ์ในจีนทุกอย่างดีขึ้นมากแล้ว
สุดท้ายถ้าไม่ได้ฉายเพราะคำเพียงคำเดียว ก็คงเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวจริง ๆ