สุดปัง! “ป๊อด-ข้าวตัง” เผยซีรีส์วายเปลี่ยนชีวิตจากบท “ชาวบ้านสี่” ก้าวสู่ “นักแสดงนำ” กดดันเมื่อถูกคาดหวัง ไม่คิดมากถ้าถูกเปรียบเทียบกับคู่อื่น ดีใจทุกครั้งหลังมีคนรู้จักมากขึ้น
เรียกได้ว่าเพิ่มดีกรีกระแสความดังขึ้นเรื่อยๆ สำหรับ “ป๊อด ศุภกร ศรีโพธิ์ทอง” ที่รับบทเป็น “ต้นหน” และ “ข้าวตัง ธนวัฒน์ รัตนกิจไพศาล” รับบท “ชลธี” ในซีรีส์วาย อารมณ์ดีส่งท้ายปีของ GMMTV “ต้นหนชลธี” แถมซีรีส์เรื่องนี้ได้เปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่จากไม่เคยมีคนรู้จักหรือมีแฟนคลับนับหัวได้ แต่วันนี้ซีรีส์วายได้เปลี่ยนชีวิตไปในพริบตา ทั้งคู่ยังเผยโมเมนต์ครั้งนึงเคยรับบท “ชาวบ้านสี่” (ตัวประกอบ) แต่พอมาวันนี้รับบท “นักแสดงนำ” ย้ำยังไม่ชินและแอบเขินอยู่บ้าง
ข้าวตัง : "รับบทนำครั้งแรก แน่นอนว่ามีความกดดันครับ เราก็ต้องทำการบ้านมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเรื่องนี้เราเป็นตัวเดินเรื่องแล้ว ความแตกต่างจากเมื่อก่อน คงเป็นเรื่องของมิติตัวละครที่มีมากขึ้น มีการแสดงออกมาหลากหลายมากขึ้น อย่างเมื่อก่อนรับบทเพื่อนตัวแสดงหลัก ก็จะเป็นอารมณ์เดียวเลย ไม่ได้ต้องลงดีเทลอะไรมากมาย และเรื่องนี้ผมก็มีคู่เป็นเรื่องแรกด้วยครับ (หัวเราะ) และก็มีซีนร้องไห้เป็นเรื่องแรกด้วย"
ป๊อด : "ตอนที่ได้บทมาก็กดดันนะครับ แต่พอเปิดกล้องได้แสดงจริงๆ เรารู้สึกว่าเราไม่ได้เล่นกันอยู่สองคน เพื่อนๆ นักแสดงทุกคนก็ช่วยเหลือกัน ตัวผมเองก็ปรับเยอะเหมือนกันนะ ที่ผ่านมาตัวละครที่แสดงจะนิ่งๆ ขรึมๆ เรื่องนี้จะมีความรั่ว ความตลก ความเฮฮา เพิ่มเข้ามาด้วย ก็สนุกดีครับ"
จากรับบท “ชาวบ้านสี่” มาสู่บท “พระเอก-นายเอก” มีความกดดัน แต่ให้กำลังใจกันและกัน
ป๊อด : "ช่วงที่ถ่ายทำมันต้องมีความเครียด ความกดดัน เราทั้งสองต่างก็ให้กำลังใจกันและกันในตอนนั้น เวลาใครท้ออีกคนก็จะคอยส่งกำลังใจให้อีกคนครับ เวลาข้าวตังเหนื่อยหรือพลังหมด อย่างเช่นมีซีนนึงที่ข้าวตังต้องดรามาหนักๆ เดินออกมานอกเซ็ต เขายังน้ำตาไหลอยู่เลย ผ่านไป 15 – 20 นาที ผมถึงกล้าเข้าไปคุยกับเขา"
ข้าวตัง : "จริงๆ ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยจมกับอะไรนะ แต่มันก็มีบางซีนที่เราอาจจะต้องใช้เวลาหน่อย เพราะเราอาจจะรู้สึกกับมันลึกเกินไปหน่อย ผมว่าเราทั้งคู่ช่วยกัน เราจะคอยให้กำลังใจกันตลอด"
ป๊อด : "หรืออย่างเวลาเจอคอมเมนต์ในด้านลบ ก็มีเจอบ้างครับ แต่มันก็ยังมีคอมเมนต์ในด้านดีๆ ไม่ใช่ว่าไม่สนใจคอมเมนต์ด้านลบนะครับ คือเราเอาตรงนั้นมาปรับให้ดีขึ้นมากกว่า"
“ต้นหลชลธี” เป็นซีรีส์แนวคอมเมดี้ ส่วนตัวจริงชอบเล่นมุกแป้ก
ข้าวตัง : "ผมเป็นคนเล่นมุกแป้กครับ แต่ผมก็พยายามเล่นมุกนะ เชื่อว่าตัวเองเป็นคนตลกไว้ก่อน (หัวเราะ) แต่ซีรีส์เรื่องนี้การแสดงที่ออกมาอาจจะมีความเป็นการ์ตูนนิดๆ เราต้องเล่นใหญ่ไว้ก่อน ฟีลประมาณหนึ่งแต่เล่นสิบ ต้องเค้นเอนเนอร์จี้ออกมา แต่เราก็ต้องหาจุดตรงกลาง ซึ่งจริงๆ ผมไม่ใช่คนอะเลิทเท่ากับชลธี ผมเป็นสายเท่ๆคูลๆ (ยิ้ม)"
ป๊อด : "ส่วนผมก็จะนิ่งๆ ไม่ค่อยตลกนะ หรือเปล่า (หัวเราะ) แต่ถ้าถามว่าข้าวตังเป็นคนแนวไหน ผมว่าเขาเป็นคนน่ารัก ยิ้มเก่ง มีคนเสน่ห์ แต่ก็เป็นคนรั่วๆ ด้วยนะ ส่วนมุมนิ่งๆ คูลๆ ของเขาก็มีแหละ แต่จะเห็นในไอจีนะผมว่า (หัวเราะ)"
ข้าวตัง : "พี่ป๊อดเป็นคนอบอุ่น มีเสน่ห์ เขาเป็นคนที่ปกป้องใครก็ได้ และเป็นคนที่จัดการกับความรู้สึกตัวเองได้ดีกว่าผม"
ป๊อด : "ผมเป็นคนเก็บ ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยเอาความเครียดไปให้ใคร จะเก็บไว้คนเดียว เดี๋ยวก็จัดการกับมันได้ (ระบายความเครียดยังไง?) ไปดื่มกาแฟ กินเค้กคนเดียวบ้าง ไปฟิตเนส ไปออกกำลังกาย ผมชอบอยู่กับตัวเองและสามารถไปไหนมาไหนคนเดียวได้"
ดีใจได้เล่นด้วยกัน
ป๊อด : "ผมดีใจนะ ไมได้คิดอะไรเยอะว่าต้องจูนกันยังไง เพราะในพาร์ตชีวิตปกติเราก็รู้จักกันอยู่แล้ว เราเรียนแอ็กติ้งด้วยกัน พอรู้ว่าจะได้มาร่วมงานกันก็สบายใจ โล่งใจด้วย"
ข้าวตัง : "ก็คล้ายๆ กันครับ อย่างที่พี่ป๊อดบอกด้วยความที่เรารู้จักกันอยู่แล้ว เลยคิดว่าคงไม่ต้องจูนอะไรกันมาก"
ไม่กดดันต้องมาแข่งกับคู่วายคู่อื่นๆ
ข้าวตัง : "เราก็ไม่ได้คิดอะไรมากนะครับ ก็ตามปกติเลย กับพี่ป๊อดเรามีนิสัยและไลฟ์สไตล์คล้ายๆ กัน เลยทำให้ทำงานด้วยกันง่าย"
ป๊อด : "ผมไม่กดดันนะ คือผมจะไปกดดันหรือซีเรียสในพาร์ตการแสดง และการทำงานมากกว่า อย่างที่ข้าวตังบอก ว่าด้วยความที่เราสองคนรู้จักกันมาก่อน มันอาจจะจูนกันง่าย ผมว่าช่วงนี้เราก็ตัวติดกันมากขึ้นนะ เพราะเราทำงานด้วยกันด้วย ทำให้มีเรื่องคุยและปรึกษากันมากขึ้น แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน นอกเหนือเวลางานเราก็มีไปเที่ยวกันบ้าง ด้วยความที่เราสายชิลเหมือนกัน อยากไปไหนแค่เกริ่นๆ ก็ไปได้เลย"
ตัดสินใจไม่ยาก ลั่นเป็นโอกาสที่ดี ได้พัฒนาฝีมือการแสดง
ข้าวตัง : "ไม่ยากนะครับ ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดีในแง่ของประสบการณ์การแสดง ที่ผ่านมาผมก็เล่นเป็นเพื่อนนักแสดงนำ ยังไม่ได้รับส่งอารมณ์กันเท่าไหร่ พอมาเล่นเรื่องนี้มีพาร์ตเนอร์ ได้รับส่งอารมณ์มากขึ้น ได้แสดงหลากหลายมากขึ้น"
ป๊อด : "ผมมองว่านี่คือโอกาสที่ดีโอกาสหนึ่งที่ผู้ใหญ่มอบหมายให้เราทำ และเป็นโอกาสของตัวเองที่จะได้พัฒนาตัวเอง ได้เล่นอะไรที่หลากหลายมากขึ้น ได้ลองในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ ซึ่งตอนที่แฟนคลับรู้ว่าผมจะได้เล่นกับข้าวตัง พวกเขาก็รอชมผลงาน ยิ่งทำให้เราต้องทำให้เต็มที่สมกับที่เขารอคอย"
ยิ่งรู้จักลึกซึ้งยิ่งสบายใจ
ข้าวตัง : "เป็นอีกหนึ่งความสบายใจ ป๋าป๊อดเป็นอีกหนึ่งความสบายใจของผม"
ป๊อด : "เราเหมือนพี่น้องกัน เราคุยกันได้ทุกเรื่อง ให้คำปรึกษากันได้ทุกเรื่อง"
เขินชีวิตเปลี่ยนไป คนรู้จักมากขึ้น
ป๊อด : ผมยังเขินทุกครั้งที่มีคนเดินเข้ามาทักนะ ถ้าเจอผมแล้วนิ่งๆ ผมไม่ได้หยิ่งนะ ผมเขิน (หัวเราะ) บางทีผมก็ไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไง ก่อนหน้านี้ผมเดินอยู่ก็ไม่ค่อยมีคนทัก พอตอนนี้คนทักเยอะ ผมก็รู้สึกว่าจะคุยอะไรกับเขา ในใจนี่ตื่นเต้นมากนะ แต่ไม่รู้จะแสดงออกยังไงดีมากกว่า แต่ผมดีใจนะ ทักได้ครับ (หัวเราะ) อีกมุมนึงผมมองว่าการที่มีคนรู้จักเราเพิ่มมากขึ้น จะทำอะไรเราก็ต้องคิดมากขึ้น มีสติมากขึ้น"
ข้าวตัง : "ก็มีคนรู้จักมากขึ้น ไปไหนมาไหนก็เรียกทั้งข้าวตัง หรือบางทีก็เรียก น้องชล (ชลธี) บ้าง ดีใจที่มีคนติดตามซีรีส์เรา ภูมิใจครับ แบบที่พี่ป๊อดบอก เมื่อมีคนรู้จักเราเพิ่มขึ้นหรือคาดหวังในตัวเรามากขึ้น ก็ต้องยิ่งพัฒนาตัวเอง หรือคิดมากขึ้นจากเมื่อก่อนที่เราอาจจะปล่อยปละละเลยไปบ้าง ตอนนี้ก็ไม่ได้แล้ว เราต้องจัดระเบียบให้ตัวเอง เช่น การจัดสรรเวลาให้ลงตัว เพราะผมต้องเรียนไปด้วยทำงานด้วย"