ย้อนกลับไปเมื่อต้นปีที่แล้ว มีภาพยนตร์ที่ชื่อ “777 นะชาลีติ (พระสีวลี)” เข้าฉายในโรงหนังทั่วไปบ้านเรา ก่อนจะกลายเป็นที่ฮือฮา เมื่อหนังทำสถิติด้วยการถูกบันทึกไว้ว่าทำเงินไป 4,900 บาท โดยมียอดผู้ชมทั้งโปรแกรมอยู่ 43 คน
ถือเป็นภาพยนตร์ที่รายได้ต่ำที่สุดของปี 62 หรือบางทีอาจจะต่ำที่สุดตั้งแต่มีการจัดอันดับหนังทำเงินเลยก็ว่าได้
อย่างไรก็ตาม มาปลายปีนี้เจ้าของหนังอย่าง “ป๊อบ โชตณภร บวรมหาบุญบารมี” ก็ได้นำหนังเรื่องดังกล่าวมาตัดต่อใหม่ และเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น “พระสีวลี” พร้อมพกความมั่นใจที่ไม่ยอมแพ้ และความตั้งใจที่อยากจะนำภาพยนตร์เรื่องนี้ไปเผยแพร่ต่อ ด้วยเหตุผลดังกล่าวเราเลยไม่พลาดที่จะไปพูดคุยกับเจ้าตัว
“สาเหตุที่กลับมาฉายอีกครั้ง เพราะเนื้อเรื่องของหนัง เราอยากให้มีความสอดคล้องและมีความกระชับในการรับชม เพราะเดิมทีที่ทำไว้ มันจะสลับซับซ้อนและภาพที่ประกอบ อาจจะสื่อได้ไม่ชัดเจน ผมก็เลยเอามาตัดต่อใหม่แทบทั้งหมด และตัดซีนที่ไม่ใช้ออกไปเยอะครับ และเพิ่มซีนที่ถ่ายใหม่เข้าไปด้วย เพิ่มซีจี เพิ่มนักแสดงและหลักๆ เลย เดิมชื่อภาพยนตร์ ‘777นะชาลีติ’ แล้วเราก็เปลี่ยนเป็น ‘พระสีวลี’ "
"ข้อผิดพลาดที่ผ่านมา ผมยอมรับว่าผมเป็นผู้อำนวยการสร้างก็จริง แต่ประสบการณ์เรื่องการทำภาพยนตร์เราไม่เคยมีมาก่อนเลย ไม่รู้เรื่องของการเขียนบทภาพยนตร์มากนัก การตัดต่อใดๆ เราไม่รู้เรื่องเลย แล้วผมโดนวิจารณ์ว่าหนังรายได้แค่ 4,900 บาท เรียกได้ว่าเป็นสถิติโลกเลยก็ว่าได้ เราก็คิดว่าทำไมหนังเราก็ดี เราปรารถนาดี ทำไมไม่มีคนสนใจ ก็เลยมาพิจารณาจากคำวิจารณ์ของคอหนังบ้าง หรือสื่อต่างๆ เราก็เอาบทเรียนนั้นมาเรียนรู้และทำใหม่ขึ้นมา”
“ซึ่งทางโรงภาพยนตร์เขาก็แนะนำว่าการทำหนัง มันก็พูดตรงๆ ว่าต้องเป็นหนังที่ขายได้ หนังตลาด ของเรามันไม่ใช่หนังตลาด สิ่งที่เราจะได้ก็คือการได้รับการสนับสนุนจากทางภาครัฐฯ เพื่อต่อยอด คือมันต้องมีสปอนเซอร์เพื่อนำไปฉายตามที่ต่างๆ หรือองค์กรต่างๆ หรือการทำการกุศล ซึ่งตรงนี้ผมก็ต้องค้นหาต่อไป และจริงๆ เราก็นำไปฉายให้ดูฟรีในช่วงที่เราไปสร้างพระสีวลีด้วยอยู่แล้ว จริงๆ การทำหนังครั้งนี้เราไม่หวังกำไร แต่ถ้าได้มันก็เป็นผลพลอยได้ จุดมุ่งหวังของเราคือให้คนได้รู้จักและได้เรียนรู้ธรรมจากพระสีวลี
ก่อนเผยประสบการณ์ส่วนตัว ครั้งหนึ่งเคยอยากจะฆ่าตัวตาย!! เพราะธุรกิจมีปัญหา
“โดยผมได้สัมผัสมากับตัวเอง วันนึงผมสะดุดทางธุรกิจ พอเราอธิษฐาน คือเราเคยทำบุญใหญ่กับท่านมาก่อน ก่อนที่จะมีโครงการประดิษฐานพระสีวลี 789 องค์ทั่วไทย เราก็ได้นิมิตเห็นทางที่เราจะเดินต่อไป ซึ่งเราก็คิดว่าเรามโนไปเองหรือเปล่าเพราะตามหลักธรรมเราไม่น่าจะเกิดภาพนิมิตหรือเกิดภาพปรากฎของพระองค์ได้จริง แต่ได้พบท่านแล้ว ก็มีทางออก และเกิดโชคลาภหลักล้านขึ้นมา"
"อย่างตอนที่ล้มนั้นเป็นเรื่องธุรกิจและเกิดจากความมืดบอดของเราเองด้วย ตอนนั้นเหมือนตายไปแล้ว อยากฆ่าตัวตาย รู้สึกว่าชีวิตมันไร้ค่า คือมันกดดันมาก เราไม่รู้ว่านรกหรือสวรรค์มีจริงไหม แต่มันเป็นคำตอบในช่วงเวลานั้นของเรา เราหาทางออกไม่เจอว่าเราจะทำอะไรต่อไป หรือจะหนีไปเลย ทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง แต่หลังจากเราอธิษฐานถึงท่าน เราก็ได้พบทางออก ได้คำตอบว่าให้เราต่อสู้กับความเป็นจริง ยอมรับมัน อย่าไปหนีปัญหา อย่าไปกระทำผิดอีก คนเราทำผิดได้แต่ต้องเข้าใจแล้วไม่ทำผิดอีก และเราก็ได้โชคอย่างที่บอก แต่ตอนนั้นเรายังคิดไม่ได้มากขนาดตอนนี้ คิดแค่ขอท่านว่าเราจะรอดได้ยังไงจากปัญหานี้”
ปาฏิหาริย์ “พระสีวลี” เข้าฝันจนถูกหวย 3.6 ล้านบาท ยันสร้างพระเพราะศรัทธา ไม่ได้เอาศาสนามาหากิน
“ผมก็อธิษฐานว่าวันนี้ชีวิตผมหมดสิ้นแล้ว ผมควรทำยังไงกับชีวิตดี มีหนี้ประมาณ 5-6 ล้าน ผมก็บอกว่าตอนนี้ผมไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่มีเงินผมไม่รอดแน่ ถ้าเราไม่มีเงินเราก็ติดคุกชดใช้กรรมไป และตอนนั้นปี 2554 ท่านก็มาศุภนิมิตให้กับเราว่า ลูกเอ๋ยพ่อหนักกว่าเราอีก พ่อเคยมีวิบากกรมหนักถึง 7 ปี 7เดือน 7วัน เราก็เอามาเสี่ยงโชคเลย"
"งวดนั้นออก 997777 งวดของวันที่ 16 พฤศจิกายน 2554 เสิร์ชดูได้เลยครับ ผมถูก 3 ล้าน 6 แสน แต่เป็นใต้ดินนะ(หัวเราะ) เราก็นำเงินไปใช้หนี้แต่ก็ใช้ไม่หมดทีเดียวยังเหลือส่วนต่างอีก แต่เราก็ยังอยู่ในด้านมืดทั้งเล่นการพนัน รับแทงบอล แต่ก็สร้างพระไปด้วยนะ ซึ่งเราสร้างพระก็จริงแต่เราก็ยังอยู่กับอบายมุขอื่น สร้างไปก็สะดุดไป ไม่ได้ราบรื่น คนบางคนก็มองว่าเราไปแสวงหาผลประโยชน์กับวัดหรือเปล่า สร้างภาพหรือเปล่า แต่เจตนาเราบริสุทธิ์นะ เราก็ทำได้เท่าที่ทำได้”
“ก็หวังว่าคนที่ได้ดูภาพยนตร์จะได้อะไรไปไม่มากก็น้อย และได้นำท่านไปเป็นแบบอย่างในชีวิตด้วย และหลังจากที่เราได้ฉายรอบพิเศษไปแล้ว ถ้าเราได้รับความเมตตาจากโรงภาพยนตร์หรือค่ายหนัง นำหนังไปฉายอีกครั้งก็จะเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าไม่ได้ตรงนั้นก็จะใช้ช่องทางอื่น บ้าน วัด โรงเรียนเนี่ยสำคัญ และต้องขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนที่นำเรื่องราวไปเผยแพร่ต่อ ฝากภาพยนตร์พระสีวลี และช่องทางทางยูทูบ ชาแนล "โครงการประดิษฐาน พระสีวลี 789 องค์ ทั่วไทย" และเพจ ภาพยนตร์พระสีวลี ด้วยนะครับ”