ในวันที่ ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ หรือ ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ เสียชีวิตลงเมื่อ 24 ปีก่อน (23 กันยายน พ.ศ. 2539) ตอนนั้นไม่มีใครรู้เลยว่าอนาคตของการ์ตูนชุด "โดราเอมอน" จะเป็นยังไง เพราะ ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ เป็นเสมือนทุกสิ่งทุกอย่างของการ์ตูนชุดนี้
แต่สุดท้ายทีมงานของ ฮิโรชิ ก็ยังสามารถสานต่อการ์ตูนชุดนี้ได้จนมาถึงปัจจุบัน รวมถึง โดราเอมอน ฉบับภาพยนตร์ที่เข้าฉายเป็นประจำทุกปี ซึ่งทีมงานได้พยายามทำ โดราเอมอน ฉบับหนังโรงให้ออกมาได้จิตวิญญาณเดิมของ โดราเอมอน ด้วยการทั้ง เอาหนัง โดราเอมอน เรื่องเดิม ๆ มารีเมกใหม่ หรือ หยิบตอนสั้นมาขยายเป็นหนังขนาดยาว
และสุดท้ายก็คือการคิดเรื่องขึ้นใหม่เลย ซึ่งยอมรับว่าอย่างสุดท้ายนี้ทีมงานจะพยายามเลี่ยงที่สุด นาน ๆ จะทำกันซักครั้ง ซึ่งหนังประจำปีนี้ เป็นอีกครั้งที่ทีมงานขอคิดเรื่องเองใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง หลังใช้โครงของ ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ มาในหนังถึง 4 ปีติดต่อกัน
แต่จะบอกว่าเป็นเนื้อเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับผลงานเก่าของ ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ ก็คงไม่ได้ เพราะ โดราเอมอน ฉบับหนังปี 2020 ก็คือ ไดโนเสาร์ตัวใหม่ของโนบิตะ แฟน ๆ ของ โดราเอมอน ทุกคนทราบดีว่า ไดโนเสาร์ คือสิ่งที่สำคัญกับเรื่องราวของ โดราเอมอน ขนาดไหน
จุดเริ่มต้น "โดราเอมอน ฉบับภาพยนตร์"
โดยในปี 2020 เป็นวาระครบรอบ 60 ปี โดราเอมอน ซึ่งตรงกับในปีนี้พอดี โดย โดราเอมอน เริ่มเผยโฉมครั้งแรกในปี 1969 กับโฆษณาสุดคลาสสิกตัวนี้ ก่อนจะเริ่มต้นปีพิมพ์ในต้นปี 1970
แต่นอกจากจะเป็นวาระครบรอบ 50 ปีของ โดราเอมอน แล้ว ปีนี้ก็ยังเป็นวาระครบรอบ 40 ปี ของภาพยนตร์การ์ตูน โดราเอมอน ด้วย
จุดเริ่มต้นของภาพยนตร์ชุดอันยาวนานนี้เกิดในปี 1975 (2518) ตอนนั้น โดราเอมอน พิมพ์อยู่ในนิตยสารแนวการศึกษา ความยาวแค่ตอนละ 10 หน้า จนได้โอกาสเปลี่ยนมาพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูนเต็มตัวอย่าง โชเน็นซันเดย์ ที่มีความยาวถึง 30 หน้า ผู้เขียนอย่าง ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ ก็เลยคิดเรื่องที่มีความซับซ้อนขึ้น เกี่ยวกับ โนบิตะ ที่ขุดเจอฟอสซิลไข่ไดโนเสาร์ ก็เลยใช้ผ้าคลุมกาลเวลา ทำให้ไข่ที่กลายเป็นหิน แต่สุดท้ายก็รู้ว่าไม่สามารถเลี้ยงเอาไว้ได้ ก็เลยพาขึ้นไทม์มาชีนไปส่งยุคที่ ไดโนเสาร์ตัวนี้ เหมาะสมที่จะมีชีวิตอยู่แทน ซึ่งเรื่องราวของหนังสือการ์ตูนจบลงตรงนี้เท่านั้น
ซึ่งมีผู้อ่านหลายคนมองว่าเป็นเนื้อหาที่น่าจะเป็นการนำตอน ใต้ฝุ่นของโนบิตะ มาดัดแปลงเปลี่ยนจาก โนบิตะ เลี้ยงใต้ฝุน มาเป็นเลี้ยงไดโนเสาร์แทน
หลังจากนั้นไม่นาน โดราเอมอน ทีฮิตติดลมบนมานานถูกทาบทามทำเป็นภาพยนตร์ ซึ่ง ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ ลังเลมาก ๆ เพราะคิดว่าตัวเองไม่ค่อยถนัดแต่งเรื่องยาวเท่าไหร่ แต่สุดท้ายเขาก็ตอบตกลง จึงเป็นที่มาของการ์ตูนฉายโรงที่มีภาคต่อมากมายที่สุดชุดหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้
สำหรับทีมงานก็มีความน่าสนใจอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะคนเขียนบทที่ชื่อว่า เก็งกิ คาวามูระ ที่ชื่อนี้ถือว่ากำลังมาแรงสุด ๆ ในวงการหนังญี่ปุ่น เขาคือผู้มีส่วนร่วมสร้างหนังดัง ๆ ในยนุคนี้มากมาย ตั้งแต่หนังสุดาร์กอย่าง Confessions, หนังจากการ์ตูนอย่าง Parasyte กับ Space Brothers รวมถึงอนิเมะแห่งยุคอย่าง Your Name ด้วย แถมยังเคยเขียนนิยายที่ดังมาก ๆ และถูกแปลเป็นภาษาต่าง ๆ ทั่วโลกอย่าง If Cats Disappeared From the World (ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว)
นอกจากทีมงานเบื้องหลังแล้ว คนทำเพลงประกอบก็ถือว่าดังสุด ๆ ใครฟังเพลงญี่ปุ่นมา น่าจะต้องเคยได้ยินชื่อ Mr.Children มาบ้าง เพราะนี่คือวงที่มียอดขายผลงานทั้งหมด 58.61 ล้านชุด เป็นอันดับ 2 ตลอดกาลของญี่ปุ่น
ที่สำคัญหนังจะมีโคตรซูเปอร์สตาร์ของญี่ปุ่น ทาคุยะ คิมูระ มาพากย์เสียงด้วย แต่ขออุบเอาไว้ก่อนว่าเขาพากย์เป็นตัวละครอะไรในเรื่อง
ไดโนเสาร์ตัวใหม่ของ โนบิตะ
ในหนังภาคใหม่ โนบิตะ น่าจะใช้ของวิเศษของ โดราเอมอน เพาะไดโนเสาร์ขึ้นมาอีกครั้ง จนได้ไดโนเสาร์พี่น้องมาคู่หนึ่ง
แต่ประเด็นก็คือ ทั้งสองเป็นพันอะไรกันแน่ โดยในหนังตัวอย่าง มีการเปิดเผยว่าทั้งคู่เป็น ไดโนเสาร์ที่ไม่มีการขุดพบมาก่อนด้วย สีแปลกประหลาด แถมยังบินได้ด้วย
ซึ่งการที่ โดเรมอน ภาคนี้ออกแบบไดโนเสาร์แบบนี้ น่าจะอ้างอิงข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่เพิ่งพบกันในช่วงปีหลัง ๆ ว่า ไดโนเสาร์ที่เราเคยคิดว่าหน้าตาน่าจะคล้ายสัตว์เลี้ยยคลาน แต่จริง ๆ แล้วหลาย ๆ พันธุ์จะดูคล้ายกับสัตว์ตระกูลนกมากกว่า
ไม่ต้องดูที่ไหนไกล ไดโนเสาร์ยอดฮิตอย่าง แร็พเตอร์ ที่เรามีภาพจำในหัวมานาน นักวิชาการหลายคนก็เชื่อว่าจริง ๆ แล้วมีขนเต็มตัว มีสีมีสันเพียบ ไม่เหมือนในหนังเลย ซึ่งถ้าดูรูปจากข้อมูลของนักวิชาการแล้ว ก็ต้องบอกว่าไดโนเสาร์สองตัวของ โนบิตะ ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ผจญภัยยุค ครีเทเชียส
สุดท้ายเพื่อหาคำตอบว่าทั้งสองตัวมาจากยุคไหนกันแน่ (และตามเดิม น่าจะต้องพาทั้งสองกลับไปอยู่ในยุคของตัวเองด้วย)
โดราเอมอน, โนบิตะ และชาวแก็งก็เลยตัดสินใจเดินทางย้อนเวลาไปสู่ยุคครีเทเชียสที่เชื่อว่าน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ว่าเป็นยุคของไดโนเสาร์ทั้งสองตัว
ยุคครีเทเชียส คือยุคไหน? จะประมาณ 65.5 ล้านปีก่อนถึง 23.03 ล้านปีก่อน เป็นยุคที่ต่อจากยุคจูแรสซิกพอดี
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ครีเทเชียส คือยุคที่มีสิ่งที่เราเรียกว่าไดโนเสาร์อยุ่มากที่สุด ว่ากันวาถ้าจะเอาให้ถูกหลักวิชาการ จูแรสซิก พาร์ก ก็ควรจะเรียกว่า ครีเทเชียส มากกว่า