“พ่อแกงส้ม” จัดแสดงภาพวาด รายได้ช่วยเหลือวัดพระบาทน้ำพุ

“หนู สุรศักดิ์ ชัยอรรถ” นักแสดงรุ่นใหญ่ คุณพ่อของนักร้อง-นักแสดงหนุ่ม “แกงส้ม ธนทัต ชัยอรรถ” จัดงานแสดงภาพวาด พร้อมจัดจำหน่าย เพื่อนำเงินช่วยเหลือวัดพระบาทน้ำพุ ณ Joyman Gallery หลังจากที่โดนวิกฤตโควิดอย่างหนัก ผู้คนบริจาคเงินช่วยวัดน้อยลง

“งานในวันนี้เหตุเกิดขึ้นในวิกฤติโควิดครับ ช่วงโควิดก็ทำให้ผมไม่ได้ถ่ายละคร ก็คือ ตกงานนั่นเอง (หัวเราะ) ก็เลยใช้วิกฤตนี้สร้างผลงาน Abstract ชุดนี้ขึ้นมา เป็นงานที่สร้างครั้งแรกในชีวิต เพราะก่อนหน้านี้ ผมจะเขียนแต่แนว Realistic คือ ภาพเหมือนครับ ก็คิดว่าถ้าใช้เวลาตรงนั้นมาเขียนภาพเหมือนมันจะใช้เวลามาก แต่ Abstract เป็นงานที่เกิดเดี๋ยวนั้น ทำเดี๋ยวนั้น และมันจินตนาการได้หลายแบบ และที่ตั้งใจจะเขียนรูปเพราะว่าทุกปีผมจะทำบุญใหญ่ครั้งนึง เช่น กฐิน แต่ปีนี้มันทำไม่ได้แล้ว เนื่องจากคนที่จะมาทำบุญกับเราเขาก็เจอวิกฤติเหมือนกัน เพราะฉะนั้นคงจะไม่มีเงินทำบุญสักเท่าไหร่”

“ก็เลยคิดว่าเดี๋ยวเราลองเขียนภาพชุดนี้ ตั้งใจเขียน 100 ภาพเป็นอย่างต่ำ ตั้งใจว่าพอถึงสิ้นปีพอวิกฤติมันหมดปุ๊บก็จะจัดโชว์ ก็พอดีได้จังหวะ พอมันเริ่มซาไป โรคมันเริ่มจางหายไปก็มาติดต่อที่นี่ และที่นี่เป็นที่สุดท้าย เพราะถ้าไม่ได้ที่นี่ก็คงไม่ได้ทำแล้ว เพราะไปหลายที่ก็เต็ม คิวก็ไม่ว่าง บางที่ก็แพงเกิน และเราก็ไม่แน่ใจว่าภาพเราจะขายได้สักกี่ภาพ และเงินที่เราตั้งใจขายภาพเราก็จะเอาไปทำบุญ ถ้าไม่ได้ทำกฐินก็ขอให้ขายภาพให้ได้ ตั้งใจจะมอบให้วัดพระบาทน้ำพุเอาไปดูแลคนเป็นโรคเอดส์ อันนี้เป็นความตั้งใจจริงๆ เลย ก็มาเจอที่นี่ และกลายเป็นว่ามันก็เหมือนบุญจัดสรร พอเขาขอดูภาพเรา ก็เหมือนถูกจริตเขา เขาก็บอกว่าขอร่วมบุญด้วย เขาให้เราจัดฟรีครับ คือ โชคดีมาก เพราะคิดว่าถ้าที่นี่ไม่ได้ก็คงสุดท้ายแล้ว เพราะหาจนเหนื่อยใจแล้ว ก็น่าจะเรียกว่าบุญจัดสรรมากกว่า”

“จบช่างรุ่นเดียวกับ อ.เฉลิมชัย เราก็วาดภาพมาตลอด ถึงแม้จะผันตัวมาอยู่ในวงการละครช่วงหลัง แต่ไม่เคยหยุดวาดรูป วาดให้ญาติ ให้เพื่อน คนนั้น คนนี้จ้างวาดก็รับจ้างไป แต่งาน Abstract ไม่เคยทำเลย นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต แรกๆ ก็ลองผิดลองถูกจริง แต่แค่ไม่กี่ภาพนะ พอจับทางเป็นตัวเราได้ ยิ่งทำมันยิ่งมา พอให้ใครดูเขาก็บอกว่าสวย ยิ่งมาให้ทาง Joyman ดูแล้วเขาแฮปปี้ ตอนนั้นเพิ่งเขียนได้ 60 ภาพ พอเขาตอบรับแล้วให้เราจัดฟรี มันยิ่งผลักให้เราเขียนได้อีกตั้ง 40 กว่ารูป”

“พอเราทำ Abstract มาทาง Joyman แฮปปี้มาก เขาไม่มีบรีฟเราเลยว่าอยากได้อย่างนั้นอย่างนี้ เขาบอกคุณพ่อกลับไปทำภาพเลยให้ครบ 100 คุณพ่อไม่ต้องห่วงตรงนี้เลย เดี๋ยว Joyman จะจัดการให้หมด เป็นความสุขมากครับ ทำให้เรามีพลังที่จะทำภาพที่เหลือ สรุปก็ได้มาทั้งหมด 107 ภาพ อยากให้คนมาร่วมกันชมภาพนี้เยอะๆ ถูกใจภาพไหนก็มาร่วมบุญกัน ถ้ากำลังน้อยเรามีเสื้อที่เราพิมพ์ขายจากลายที่เราวาด ก็เอาเงินทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้วัดพระบาทน้ำพุครับ ตั้งใจมาก”

เลือกวัดพระบาทน้ำพุเพราะเดือดร้อนและเป็นองค์กรน่าเชื่อถือ
“อย่างแรกคือช่วงโควิดคนจะไปโฟกัสโควิดมาก เงินทำบุญจะไปอยู่ที่โรงพยาบาลหมด แต่บางทีลืมไปหรือเปล่าว่าท่านก็ต้องเลี้ยงหรือดูแลคนโรคเอดส์ เพราะผมเห็นเลยว่าคนไปทำบุญน้อยลงมาก เราก็คิดว่าตรงนี้แหละ และอย่างน้อยก็เป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือ ใครๆ ก็รู้จัก และตอนนั้นไม่ต้องคิดเยอะเลยเราทำบุญที่ไหนก็ได้ ถ้าเป็นองค์กรที่ดี”

ตั้งเป้าอาจจะเขียนภาพเป็นอาชีพ
“ทาง Joyman ก็จีบๆ แล้วว่าจะมาเป็นศิลปินของที่นี่ไหม ผมก็บอกว่าให้งานนี้ผ่านไปก่อนไหม แต่ในใจคิดไปแล้วนะว่าเอาสิๆ (หัวเราะ) เราก็บอกเขาว่าทุกครั้งที่เราทำ เราจะเอาเงินส่วนหนึ่งไปทำบุญด้วยนะ ขอแค่นี้แหละแฮปปี้แล้ว ถ้าต่อไปคนไม่จ้างเล่นละครเราก็มาเขียนรูปนี่แหละ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้จัดนิทรรศการของตัวเอง ไม่เคยคิดฝันด้วย ก็ต้องขอบคุณโควิดเหมือนกันนะ ในสิ่งที่เลวร้ายก็ยังมีสิ่งที่ดีแบบนี้ มากันเยอะๆ นะครับ”

แกงส้ม มีส่วนช่วยบ้าง
“มีครับ บางทีส่งรูปไปถามน้องเป็นยังไง โอเคไหม เขาก็บอกว่าป๊าน่าจะอย่างนี้ อย่างนั้น เราก็เห็นด้วยกับเขา แต่บางทีเราก็ไม่เอานะ เพราะเราก็ต้องเชื่อมั่นของเรา (หัวเราะ) แต่ชุดที่ใส่วันนี้เขาก็จัดการให้นะ เขาบอกป๊าต้องใส่ชุดนี้เลยนะ ไม่งั้นงานป๊ามันจะไม่เข้ากัน เขาก็ถามว่ากล้าหรือเปล่า เราก็อ้าวมาสิ (หัวเราะ) มันก็เข้ากับงานเนอะ ผมก็ชอบนะ (ยิ้ม)”

สบายใจลูกๆ มีงานทำหมดแล้ว ส่วน “แกงส้ม” จะมีครอบครัวเมื่อไหร่แล้วแต่จะเลือก
“ไม่ห่วงเลย ลูกๆ ทุกคนเรียนจบหมดแล้ว หน้าที่การงานก็มีทำกันหมดแล้ว แต่ถ้าจะห่วงพวกเขาก็คือเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะแกงส้มนี่ทำหลายอย่างมาก ทำร้านกาแฟ ทำค่ายเพลง เห็นเขาแล้วเหนื่อยแทน เราก็อยากให้เขาดูแลสุขภาพเยอะๆ เรื่องอื่นไม่ห่วงเลย”

“เรื่องหัวใจเราไม่ยุ่ง ฟรี ไฟเขียว เราเชื่อในการตัดสินใจของเขามากกว่า ลูกเห็นว่าดี พ่อก็เห็นว่าดี เท่านั้นจบ ที่มาคุยปรึกษาก็เป็นเรื่องธุรกิจหมดเลย เขาจะต้องมั่นคง เขาจะต้องมีอย่างนั้นอย่างนี้ ผมก็บอกทำไปเลยลูก ถ้าลูกคิดว่ามันดีแล้วก็ทำไป ลองผิดลองถูกไป ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ แต่เชื่อว่าแกงส้มเขาได้กรองอะไรจนเรียบร้อยแล้ว อย่างร้านกาแฟเขาก็ไปรอดแล้ว รอสาขา 2 ของเขาตรงเลียบด่วนรามอินทรา กำลังทำอยู่”

“เรื่องมีครอบครัว ไม่ซีเรียส เอาที่เขาอยากได้ ที่เขาอยากเป็น เราคุมไม่ได้หรอก เรายังไม่อยากให้ใครมาคุมเราเลย ถามว่าผมอยากอุ้มหลานไหม ผมเฉยๆ นะ แต่แม่เขาน่ะอยากมี เพราะเขาอยากเลี้ยงเด็ก แต่ก็ไม่ได้มาพูดบ่นอะไรนะ เพราะเขารู้ว่าแกงส้มยังไม่ถึงเวลา น้องยังไม่ 30 เลย และน้องแกงกำลังคิดเรื่องทำธุรกิจอยู่ ก็ทำไปเลย แม่ก็ผลักไสไล่ส่งเรื่องงานเต็มที่ อะไรที่ซัพพอร์ตได้ ช่วยได้เราช่วยเต็มที่ เขาก็อยากให้ตัวเองมั่นคงก่อน ก็ดูไปเรื่อยๆ ไม่รีบ”

ส่วนความสัมพันธ์ “แกงส้ม” กับ “ดาว ณัฐภัสสร สิมะเสถียร” คุณพ่อบอกลูกชอบใครก็ได้หมด
“ก็เจอกันบ้างนะ เวลาไปทำงานอะไรต่างๆ เราก็ปฏิสัมพันธ์กันตามประสา เราก็รู้แหละ เป็นเรื่องปกติ ใครก็ได้ใช่หมดถ้าแกงส้มชอบ”