xs
xsm
sm
md
lg

“เฌอเบลล์” ผิดเองออกตัวแรงขอ “พีท” แต่งงาน ล่าสุดพัง ถอยห่างกันแล้ว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เฌอเบลล์” ถอยห่าง “พีท” แล้ว โอดโควิดทำชีวิตพัง ต่างฝ่ายต่างไปโฟกัสงานดิ้นรนเอาตัวรอดก่อน เพราะตอนนี้ย่้ำแย่มาก แจงลบรูปคู่เพราะกระทบงาน ผิดเองที่ออกตัวแรงคุกเข่าขอฝ่ายชายแต่งงาน

หลังจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์” ได้สร้างความฮือฮาด้วยการคุกเข่าขอแฟนหนุ่มนอกวงการ “พีท” แต่งงานที่ต่างประเทศ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มวางแพลนสำหรับเตรียมงานวิวาห์ แต่เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จู่ๆ เฌอเบลล์ก็ลบรูปคู่ตนและแฟนหนุ่มออกจนหมดเกลี้ยงอินสตาแกรม

เมื่อมีโอกาสเจอเฌอเบลล์ที่งานบวงสรวงละครเรื่องวันทอง จึงสอบถามถึงสาเหตุ เจ้าตัวเล่าว่าตอนนี้ตนและแฟนหนุ่มอยู่ในสถานะความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน

"จะเริ่มต้นยังไงดี ตอนนี้สถานมันก็จะซับซ้อนนิดหนึ่ง ด้วยโควิดอะไรหลายๆ อย่าง และด้วยงานมันก็มีความเครียดกันทั้งสองฝ่าย ก็เลยคุยๆ กันว่า เราลองถอยกันมาคนละก้าวแล้วโฟกัสงานก่อนไหม คือเราไม่ค่อยมีเวลาให้กัน มันเลยเป็นสาเหตุด้วย แล้วด้วยความเครียดด้วย ช่วงนี้เหมือนว่าเขาทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว แล้ววงการท่องเที่ยวมันก็กระทบหนัก

วงการบันเทิงที่เราไม่เคยจะกระทบก็กระทบ แล้วต่างคนต่างมีภาระของตัวเอง คือมันหลายอย่าง เวลาเราคุยกันมันอาจจะมีความเครียด มันซับซ้อนค่ะ เราอยู่ตรงนี้เหมือนเราได้โฟกัสอะไรอย่างนึงแล้วมันดีขึ้น (ยังไม่ได้ใช้คำว่าเลิก?)คือใช้คำว่าถอยออกมาคนละก้าว ก็สักพักแล้วตั้งแต่โควิดเริ่มมีปัญหา ตอนนี้ก็แบบยังไม่รู้อนาคต เราก็ยังรู้สึกที่ดีต่อกัน"

คุยกันแล้วขอลบรูปคู่ออกหวั่นกระทบงาน ส่วนแผนการแต่งงานที่เคยวางไว้ก็พับไปก่อนเช่นกัน
"คือด้วยความที่เรามาโฟกัสที่งาน เราก็เลยมีการบอกเขาว่าด้วยไอจีของนักแสดงมันคือโปรไฟล์หน้าตาของการทำงาน ทีนี้มันก็จะมีผลกระทบนิดหน่อยเวลาลูกค้าเห็นรูป มันอาจจะไม่เหมาะกับสินค้า เราก็เลยมาคุยกันว่าขอเอาออกนะ แผนของเราที่จะแต่งงานก็คือพักไปก่อน รอให้อะไรๆ มันเข้าที่เข้าที่เข้าทาง เดี๋ยวค่อยมาคุยกันใหม่อีกที

ตอนนี้ก็ยังคุยกันอยู่ ยังมีธุระปะปังที่จะต้องคุยต้องเคลียร์กันอยู่ ก็มีคุยกันปกติ ทักว่าช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง ธุรกิจที่เขาทำอยู่เป็นยังไงบ้างก็มีถามกัน"

ยอมรับยังเป็นเด็กเลยออกตัวแรง แต่ตอนนี้ต้องหยุดความสัมพันธ์ไว้ก่อนเพื่อโฟกัสงาน ถ้าสถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้นค่อยว่ากันใหม่
"อันนั้นก็เป็นวัยของเราตอนเด็กๆ ตอนที่เรารัก เราก็เป็นคนเต็มที่แล้วก็ไม่ได้เสียใจจากจุดนี้ เพราะว่าเราก็ทำเต็มที่แล้ว แต่ว่าพอมันมาถึงจุดที่เราพยายามกันทั้งคู่ แต่ถ้าตอนนี้เราฝืนมันก็จะแย่ เราต้องหยุดไว้ก่อน ตอนนี้เราต้องเอาที่ต้องโฟกัสหนักจริงๆให้มันดีก่อนแล้วเราค่อยมาคุยกันอีกที

ตอนคุยกันมันก็ต้องมีร้องไห้ เพราะว่ามันเป็นด้วยอารมณ์หลายๆ อย่าง มันมีหลากหลายอารมณ์ ณ ตอนนั้น มันก็เลยคิดว่าถ้าเกิดเรายังรู้สึกดีต่อกันเรารอสักแป๊บนึง ถ้าเกิดทุกอย่างสถานการณ์มันดีขึ้น เดี๋ยวเราว่ากันใหม่ ว่าเราจะอะไรยังไง ตอนนี้โอเคอยู่”

ลั่นต่างฝ่ายต่างมองคนใหม่ได้ แต่สำหรับตนขอโฟกัสเรื่องงานเพราะต้องการมีชีวิตรอด โอดช่วงนี้ย่ำแย่มาก
"มีค่ะ มี (แต่มันไม่ได้แล้วใช่ไหม?) มันเป็นเรื่องของอนาคตค่ะ ตอนนี้เราต้องโฟกัสอันที่มันจะพาให้เรามีชีวิตรอดก่อน ตอนนี้มันย่ำแย่มาก การจะกลับมาหรือจะไปยังเป็นเรื่องของอนาคต ถ้าเกิดเรายังมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้อยู่แล้ว แต่ตัวเราก็ไม่ได้เปิดใคร เราโฟกัสที่งานอยู่ค่ะ ผู้ใหญ่เขาก็บอกว่ามันเป็นเรื่องของเรา (ทุกวันนี้ยังคงคิดถึงเขาอยู่ไหม?) ก็คนมันอยู่ด้วยกันขนาดนี้ มันก็มีความผูกพัน มันก็มีทักทายกันปกติ

จริงๆ เราไม่ได้กำหนดอะไรไว้เลยค่ะ เราไม่ได้ซีเรียสอะไรด้วย ด้วยความที่เราเข้าใจกัน เราเข้าใจเรื่องการงานเป็นหลัก คือต่างคนต่างมีครอบครัวที่จะต้องดูแล มันก็ต้องสำคัญเรื่องนี้ว่าเราจะต้องเอาครอบครัวไปให้รอดในช่วงวิกฤตแบบนี้"

ผิดเองที่ออกตัวแรงคุกเข่าขอฝ่ายชายแต่งงาน ไม่ซีเรียสใครจะทิ้งยังไง เพราะตอนนั้นตนก็เต็มที่จริงๆ
"ซีเรียสไหม จริงๆ มันก็เป็นความผิดของเราด้วยความที่เรารักเราก็เต็มที่ วัยเด็กบางทีเราอาจจะไม่ได้คิดเยอะมากไป แล้วด้วยความรักเราก็เต็มที่ แต่เราก็ไม่ได้ซีเรียสเพราะรู้สึกว่าเต็มที่แล้วจริงๆ ค่ะ (มีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องไหม?)ไม่มีค่ะ ไม่มี เพราะทั้งเราและทั้งเขาเป็นคนที่ไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้กันอยู่แล้ว”
















กำลังโหลดความคิดเห็น