xs
xsm
sm
md
lg

เลิกช้ำ “เจี๊ยบ เบญจพร” ลั่นกระชุ่มกระชวยมีแฟนใหม่แล้ว ไม่กลัวถูกหลอกฟัน ลั่นสู้ตายอดีตผัวเด็กยื่นอุทธรณ์ฟ้องหย่า

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เจี๊ยบ เบญจพร” พอใจศาลตัดสินแบ่งสินสมรสกับอดีตสามีเด็ก แต่อีกฝ่ายเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ เย้ยดีค่ะ พร้อมสู้ เผื่อได้บ้าน-ที่ดิน เจ็บใจเสียหลักตอนแก่ แต่ยอมรับตอนนี้มีหนุ่มใหม่ให้กระชุ่มกระชวยแล้ว ฟุ้งระดับนี้ไม่กลัวหลอกฟัน โอดหมอดูห้ามเปิดตัวแต่ทนไม่ไหว โพสต์ให้เห็นวับๆ แวมๆ
หลังตกเป็นคดีอื้อฉาว นักร้องรุ่นใหญ่ “เจี๊ยบ เบญจพร อาร์สยาม” ฟ้องหย่าสามีอายุน้อยกว่า 27 ปี เหตุจับได้อีกฝ่ายมีผู้หญิงอื่น ถึงขั้นจะจัดงานแต่งงาน จนฝ่ายชายโต้กลับว่าแยกอยู่กับเจี๊ยบได้ 3-4 เดือนก่อนคุยสาวใหม่ ลั่นกดดันแม่ต้องไปกู้เงินนอกระบบมาจ่ายหนี้ให้เจี๊ยบ
เรื่องเงียบหายไปพักใหญ่ๆ ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เจอตัว เจี๊ยบ เบญจพร ในงานประกาศประทานโล่รางวัลเกียรติยศ “ตาชั่งทอง” บุคคล-องค์กรสงเคราะห์ดีเด่นยอดเยี่ยมแห่งปี ณ หอประชุม 1 สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ อาคารศูนย์วัฒนธรรม ชั้น 2 (พุทธวิชชาลัย) ม.ราชภัฏพระนคร บางเขน เจ้าตัวเลยเผยความคืบหน้าคดีว่าตอนนี้ศาลแพ่งคดีครอบครัวได้ตัดสินให้แบ่งสินสมรสคนละครึ่ง ซึ่งตนพอใจแล้ว แต่อดีตสามีขอยื่นอุทธรณ์ต่อ

เบื้องต้นในศาลแพ่งคดีครอบครัวตัดสินไปแล้วเป็นที่น่าพอใจ สินสมรสก็แบ่งกันคนละครึ่ง บ้านที่เราสร้าง แต่เขายื่นอุทธรณ์ เพราะฉะนั้นก็ต้องรอให้ศาลพิพากษาอีกรอบ เพราะมันเป็นกฎกติกา

การที่เขายื่นอุทธรณ์นั่นหมายความว่าต้องการที่จะให้พิจารณาใหม่ ซึ่งเราคิดว่าก็เห็นสมควร ความหมายคือมันเป็นเรื่องสินสมรสมันอาจจะมากกว่าหนึ่ง เพราะฉะนั้นในเบื้องต้นเราพอใจแล้ว แต่ถ้ามีการแย้งหรือยื่นอุทธรณ์เพื่อที่จะให้ทุกอย่างมันสมบูรณ์แบบกว่านี้หรือเคลียร์ชัดกว่านี้ เราก็เห็นด้วย เพราะเราเองก็ยังติดใจเหมือนกันว่าในความถูกต้อง เผื่อว่ามันมีอะไรดีขึ้น

ส่วนในคดีอาญายักยอกทรัพย์มันเป็นเรื่องของสามีภรรยา มีความผิดแต่ไม่ต้องรับโทษซึ่งอันนี้เราเข้าใจ อยากให้เป็นกรณีตัวอย่างว่าอะไรที่เราพูดไว้แล้ว เราก็อยากจะปฏิบัติ ทำให้เขารู้ว่าทุกอย่างมันมีขั้นตอนของมัน ถึงแม้ว่าจุดหมายปลายทางเราจะรู้ว่าเขามีความผิดหรือไม่ต้องรับโทษ แต่ในส่วนผิดก็ว่ากันไป เพราะว่าในส่วนลึกๆ ไม่ได้อาฆาตแค้นอะไรเลย ถึงจุดนี้เราแค่รู้สึกว่าเราแค่อยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ แล้วเรามีความสุข ขอบคุณที่เกิดเรื่องนี้ค่ะ

ถามว่าพระเหลี่ยมทองเขาเอาไปจริงใช่ไหม คือ ในเมื่อศาลตัดสินมามีความผิด ไม่ต้องรับโทษอะไรก็ตามนะคะ เราก็ไม่อยากจะสาวแล้ว พูดไปพูดมาก็จะกลายเป็นประเด็นเปล่าๆ เพราะตอนนี้ทั้งสองฝ่ายก็เดินหน้าหากินกัน แต่ในเรื่องของการฟ้องร้องในคดีต่อมาจากนั้นมันก็ยังมีอีก เช่น การยื่นอุทธรณ์ ต้องยื่นพิจารณาใหม่ทั้งสองฝ่าย มันก็ยังไม่จบ ฝ่ายเขายื่น ฝ่ายเราก็ยื่น แต่ในเบื้องต้นขั้นตอนแรกของการพิจารณาในศาลแพ่งเราพอใจแล้ว แต่ในเมื่อเขายื่นอุทธรณ์ก็โอเคได้ค่ะ พร้อมที่จะพิสูจน์ได้เรื่อยๆ”

สู้ตาย จะได้พิสูจน์กันไป
“คือเหมือนกรณีสินสมรสทั้งสองฝ่าย ตามข้อตกลงคือที่เขา เราสร้างบ้านเรา เวลาศาลพิจารณา เขายื่นอุทธรณ์เหมือนเขาอยากจะต่อสู้ว่าเขาสร้าง ส่วนฝั่งเราเบื้องต้นศาลแพ่งตัดสินใจบ้านเป็นของเรา แต่ด้วยความเป็นสามีภรรยา มันก็ต้องบังคับคดีขาย ก็ต้องแบ่งครึ่งอยู่ดี ในเมื่อจังหวะเขายื่นอุทธรณ์มาว่าเขาต่อสู้ว่าเขาสร้างเอง มันก็เป็นโอกาสให้เรายื่นพิจารณาอีกรอบว่างั้นเราก็ควรที่จะได้ทั้งที่ดินและบ้านด้วย เพราะสินสมรสทั้งสองฝ่าย ตัวเรายังไงก็ได้แล้วอยู่ที่ศาลแล้ว เราให้เกียรติการตัดสินใจ แต่ในเมื่อเขาอยากจะพิสูจน์ก็ดี มันก็เป็นโอกาสให้เราได้พิสูจน์ด้วยกัน

ไม่เคยคุยกันตั้งแต่เกิดเรื่อง อยากสู้ก็ได้เลยค่ะ
“เชื่อไหมต้องแต่เกิดเรื่องจนถึงทุกวันนี้ไม่เคยคุยกันเลย เหมือนเดิมทุกอย่าง แม้กระทั่งครอบครัวเขาด้วยนะคะ พ่อแม่เขาด้วย และตัวเขาเองด้วย ไม่เคยคุยกันเลย ทางเขาก็ยังเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจอกันแต่ในศาล ไม่คุยกันนะคะ

ศาลตัดสินไปเป็นเดือนแล้วค่ะ พอเขายื่นอุทธรณ์มา เราก็ยื่นอุทธรณ์ด้วย เหมือนที่บอก จริงๆ เราพอใจแล้วแต่ถ้าเขายื่นอุทธรณ์ก็ไหนๆ ก็ไหนๆ ยุติธรรมดี เพราะว่าจริงๆ บ้านคนละครึ่งแล้ว แต่ถ้าเขายังยื่นที่จะสู้ เราก็ได้ค่ะ เผื่อว่าเราจะได้ทั้งที่ดินและบ้าน เพราะจริงๆ ตอนตกลงกัน มันเป็นแบบนั้น”

เสียหลักตอนแก่ เชื่อในรักแท้
“คือทั้งชีวิตเราทำมาหากินมา คิดแค่ว่าจะสร้างตัวแล้ว แต่เรากลับมาเชื่อในรักแท้ในตอนที่เราแก่ไป เพราะฉะนั้นเวลาเสียหลักเราเหมือนจะเจ็บกว่าคนอื่น เสียเวลา เสียโอกาสเยอะมาก ถ้าถามว่าใจเป็นยังไงเราโอเคแล้ว แต่ถ้าเรื่องสิทธิ์หรือสิ่งที่ควรจะเป็นไปในฐานะลูกผู้หญิงที่สร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงาน

เราก็ควรจะได้สิทธิ์ตรงนั้นของเราคืน แต่ถ้าบางคนคิดว่าเป็นเวรเป็นกรรมกันมา เราก็แล้วแต่ เพราะจริงๆ ถ้าเขาไม่ยื่นอุทธรณ์เรื่องนี้จบแล้ว พอเขายื่นอุทธรณ์ เราก็ต้องได้ค่ะ ก็จะต้องไกล่เกลี่ยกันอีก 4-5 เดือนถัดไป เรื่องนี้น่าจะจบทุกสิ่งอย่างที่ประมาณต้นปีหน้า และอาจจะมีการฟ้อง การเคลียร์อะไรก็ตามอยู่ที่ทนาย แต่สุดท้ายแล้วทางเราไม่ได้รับการติดต่อ เพราะฉะนั้นแล้วเหมือนเรายืนเฉยๆ เขาว่ายังไง เขาไม่คุยกับเรา เราก็ไม่คุย ก็ว่าไปตามขั้นตอนเหมือนเดิมทุกอย่าง”

คดีไม่พลิกแน่นอน
“ไม่มีหรอกค่ะ เพราะจริงๆ การตัดสินเบื้องต้นเราโอเคแล้วไงคะ การที่เราขายบ้านบังคับคดีแบ่งกันเราจบแล้วไงคะ จริงๆ เราพอสูจน์แล้ว เอาตรงๆ นะ เราเป็นคนถูกกระทำ เรื่องมันเกิดขึ้นมันมาจากทางไหนทุกคนก็รู้ เราพอใจแล้ว แต่ในเมื่อเขายังไม่พอใจ หรือมันจะเป็นโอกาสให้เราได้ต่อสู้ต่อในส่วนเราควรจะพึงได้หรือเปล่า สงสารเราเถอะ แก่แล้ว (หัวเราะ)”

เฉยๆ เรื่องให้อภัย ลั่นไม่เสียดาย ไม่คิดถึง ไม่รู้สึกอะไร
ส่วนตัวเฉยๆ ค่ะ มันไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว มันเจ็บไปเมื่ออาทิตย์ สิบวันนั้นแล้ว เหมือนเราเริ่มใหม่ เราไม่ใช่เด็กวัยรุ่นที่จะมานั่งฟูมฟาย สุดท้ายก็ต้องมาดูแลครอบครัว สงสารแม่ไงทุกวันนี้อยู่กับแม่สองคนเลยมีความรู้สึกว่าเรื่องแบบนี่เราอาฆาตไม่ได้นานนะ แต่ในเมื่อสิ่งที่มันเกิดขึ้นมันมาจากทางเขาไง เราแค่ตอบโจทย์ไปให้เท่านั้นเอง เขาอยากสู้อะไร เขาจะว่ายังไง เราก็ว่าไปตามนั้นเองแค่นั้น แต่ในส่วนตัว ไม่เสียดาย ไม่คิดถึง ไม่รู้สึกอะไรเลย”

รับน่าอาย เคยพูดว่าจะไม่เอาแล้ว แต่กลับมีเข้ามาให้กระชุ่มกระชวย หมอดูทุกสำนักทักต้องห้ามเปิดตัว ไม่กลัวถูกหลอกฟัน
มันก็น่าอายนะ เพราะตอนโควิดพูดว่าจะไม่เอานะ แต่พอช่วงโควิด มันก็เริ่มมีคนเป็นห่วงเรา เอาน่ะๆ เราก็จะได้กระชุ่มกระชวย เราคงคิดว่าเราคงไม่กล้าแต่งงานปีหน้า เราคงไม่แต่งแล้ว พูดเผื่อคนคุยด้วยเขาจะอะไรก็แล้วแต่นะ เราตกลงเลยว่าเราขอคุยแบบสบายใจ บางทีบางอย่างมันไม่จำเป็นต้องเป็นผัวเมียนะคะ มันเป็นกำลังใจกันดีกว่า เติมสิ่งที่เราขาด มีความเป็นห่วงเป็นใย ความคิดถึง เอื้ออาทรกัน บางทีมันอาจจะดีกว่านั้นก็ได้ ดวงเรานะเขาทักว่าถึงมีแฟนก็ไม่เคยเปิดเผย ก็เลยหรอมๆ แหรมๆ ไปในสตอรี่อะไรแบบนี้

ถามว่ายังเป็นหนุ่มน้อยไหม กลางๆ เนาะ ไม่เด็กขนาดนั้น พอเถอะ ถ้าเอาจริงๆ ก็หลอน เราโดนทักไม่ใช่คนเดียว ทั้งพระอาจารย์ คนที่เรานับถือ ดวงเราไม่ควรจะมีคู่ค่ะ หรือถึงมีก็ไม่ควรจะเปิดเผย แต่ไม่ใช่ว่าขนาดไม่ให้เกียรติกันเลย เผื่อวันข้างหน้าเราจะได้เจอคนที่ดีจริงๆ เราจะเสียโอกาส แต่ตอนนี้เอาเป็นว่าแค่เติมกำลังใจให้กันในการที่เราจะคุยกัน เดินหน้าต่อไป เราโอเคแล้ว เพราะมันมีแผน และใครเข้ามาตอนนี้ ถือว่าโชคดี เพราเราไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรให้เขาหลอกค่ะ นอกจากหุ่นอวบๆ นิดๆ หน่อยๆ ตามประสา ไม่มีอะไรจริงๆ ไม่มีอะไรให้เขาหลอกเลย ยามนี้แล้ว ถ้าเขาเข้ามาเรารู้ได้เลยว่า เขาจะเอาอะไรคะ ระดับนี้ยังต้องมาหลอกฟันกันอีกเหรอคะ มันไม่ใช่แล้วตอนนี้มองในมุมบวกๆ แล้วค่ะ

จริงๆ เราเริ่มตั้งตัวได้ก่อนโควิดนะ กำลังดีเลยแหละ แล้วบังเอิญมันเป็นสถานการณ์โควิดทุกอย่างเลยชะงักไป ขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนทุกคนนะคะ เจ้าภาพด้วยที่เห็นใจแม่หม้ายและการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในยามที่เราอายุเยอะขนาดนี้ ถึงแม้ว่ามันจะหนักหนาขนาดไหน สุดท้ายแล้ว เจี๊ยบโชคดีที่มีแฟนคลับ และมีคนรักเรามากกว่ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงย้ำว่า โชคดีจังเลยค่ะ ที่มันเกิด เราไม่รู้ว่ายังอยู่ตรงจุดนั้น เราอาจจะไม่มีแล้วก็ได้ เราไม่รู้จริงๆ ตรงนั้นเราอึดอัดมานานแล้วเหมือนกัน แต่ว่าในเมื่อทางออกมันเป็นแบบนั้นก็ถือว่าเขาเป็นคนเลือก เราไม่ต้องเป็นคนทำดีแล้วค่ะที่มันเกิดขึ้น”






กำลังโหลดความคิดเห็น