“เอิร์ธ วิศววิศ” ให้ปากคำในฐานะพยาน ยันรู้จัก “แทนไท” ในฐานะลูกค้า ไม่ได้สนิท รับรถหรูไปเซอร์วิสเรื่องปกติ ไม่ได้ขับไปซ่อนในโกดัง ส่วนคลังรถหรูมีทั้งของตนเองและลูกค้า โพสต์ไอจีเป็นการตลาด รับถูกเบรกงาน จ่อฟ้องคนวิจารณ์
ยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร. ได้ทำการอายัดรถหรู 4 คัน ซุกซ่อนในโกดังแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี ตามรายงานแจ้งว่า รถทั้ง 4 คันเป็นของ “นายแทนไท ณรงค์กูล” หนึ่งในผู้ต้องหาเจ้าของเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ และเป็นผู้จัดภาพยนตร์เรื่อง “4 คิงส์ อาชีวะยุค 90’s” ที่ถูกจับไปแล้ว จากนั้นตามพยานหลักฐานสืบทราบว่า “เอิร์ธ วิศววิศ วงษ์วรรณลภย์” นักแสดงหนุ่ม ที่เคยรับบท “หลวงศรียศ”ในละครดัง “บุพเพสันนิวาส” มีความเกี่ยวข้อง ได้ขับรถสปอร์ตลัมบอร์กินี อเวนทาดอร์ เอสวีเจ สีน้ำเงิน ทะเบียนป้ายแดง ก 9999 กรุงเทพมหานคร ราคาประมาณ 50 ล้านบาท ของผู้ต้องหาคนดังกล่าวไปจอดไว้ที่โกดังย่านนนทบุรี
ล่าสุด วันนี้ (3 พ.ย.) เวลา 9.30 น. นักแสดงหนุ่มได้เดินทางมายัง สน.พญาไท พร้อมทนาย “เกรียงชัย วิศิษฏ์สรอรรถ”ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกในฐานะพยาน เพื่อเข้ามาชี้แจงถึงความสัมพันธ์กับผู้ต้องหา และเหตุผลของการเคลื่อนย้ายรถซูเปอร์คาร์ไปยังโกดัง หลังจากได้เข้าพบเจ้าหน้าที่เสร็จแล้ว เจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนว่าตนเองบริสุทธิ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาคนดังกล่าว พร้อมแจงสาเหตุว่าการเคลื่อนย้ายรถ เนื่องจากตนเองทำธุรกิจเคลือบแก้ว จึงไปรับรถลูกค้ามาให้บริการตามปกติ ยันไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว ส่วนภาพยนตร์ที่ตนเองรับแสดง โดยมีผู้ต้องหาเป็นผู้จัดนั้น ก็ได้มีการหยุดถ่ายทำเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด วอนประชาชนให้โอกาสและเข้าใจกับการให้สัมภาษณ์ในวันนี้ ยอมรับมีผลกระทบต่อเรื่องธุรกิจและความเป็นดารา หลังจากนี้ พร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจทุกเมื่อ
เอิร์ธ : “นำหลักฐานมาชี้แจงแล้วครับ ชี้แจงตามความเป็นจริง ว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร เราทำงานสุจริตอยู่แล้ว รถหรูมีการเคลื่อนย้ายจริง แต่เป็นวันก่อนหน้าที่จะมีการแจ้ง”
ทนาย : “ต้องบอกว่าตัวเรื่องเขามีการติดต่อเอิร์ธมาตอนเช้า ประมาณ 9 โมง แจ้งว่าจะเอาไปประเมินราคาในการเคลือบแก้ว ทีนี้มีการนัดหมายเวลา เขาก็ไปตามเวลาทีนี้ตัวบ้านที่เกิดเหตุที่เป็นข่าววันรุ่งขึ้น วันที่ 13 ก็คนละหลังกัน ทางนี้ก็ไม่ได้รู้เรื่องว่ามีข่าวการออกจับ เอิร์ธก็ทำหน้าที่ตามปกติ เขารับงานเพื่อประเมินในการเคลือบแก้ว”
ยันแทนไทเป็นลูกค้า เคยเล่นหนังด้วยกันแต่ไม่สนิท
เอิร์ธ : “เป็นลูกค้าปกติครับ รู้จักหลายเดือน เกือบปี เป็นลูกค้าเข้ามาที่ร้าน เขาก็เหมือนลูกค้าทั่วไปที่เอารถมาให้แต่ง ให้ดูแล เราก็เซอร์วิสเขาอยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่เคยเล่นหนังด้วยกัน ก็ครับ แต่ไม่ได้สนิทสนมกัน เขาติดต่องานมาปกติเลย ผมไม่เคยทำธุรกิจกับเขา ผมทำธุรกิจของตัวเองเป็นปกติ เจ้าหน้าที่สงสัยก็เตรียมข้อมูลมาชี้แจง ส่วนเรื่องขับรถไปที่โกดังเป็นเรื่องเข้าใจผิด”
ทนาย : “เอิร์ธไม่ได้ขับรถไปที่โกดังแน่นอน แล้วที่น้องมาในวันนี้ ไม่ได้มาในฐานะผู้ต้องหานะ น้องถูกเรียกมาในฐานะพยาน ไม่ได้เกี่ยวข้องแน่นอน”
ไม่ทราบเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ไม่เคยซักไซ้เรื่องส่วนตัว
เอิร์ธ : “ผมก็ไม่ทราบ เป็นเรื่องส่วนตัวลูกค้า ผมก็ไม่ได้ไปซักไซ้เรื่องส่วนตัวว่าลูกค้าทำอะไร ถ้าเขาไม่ได้อยากบอกเรา มันเป็นมารยาทด้วย”
ตกใจถูกโยงเอี่ยว
เอิร์ธ : “ก็ตกใจ เพราะตัวผมเองทำงานสุจริต และไม่เคยมีคดีอะไรด้วย วันนี้ก็ไม่กังวล ผมมาตามหมายเรียกในฐานะพยาน ก็ยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง ส่วนใหญ่กังวลเรื่องสภาพจิตใจพ่อแม่มากกว่า และชื่อเสียงของผมเอง และร้าน ซึ่งต้องมีผลกระทบอยู่แล้ว”
แจงภาพรถหรูในอินสตาแกรม มีทั้งของตนและของลูกค้า นำมาใช้โปรโมต
เอิร์ธ : “จริงๆ รถหรูหรือรถอะไรก็แล้วแต่ รถที่ลูกค้าเข้ามาทำ ผมมีลูกค้าเยอะ บางทีมาจอดที่ร้าน ทำให้รถที่ร้านดูเยอะ เหมือนเป็นสต็อกเยอะ แต่เราอธิบายให้ทุกคนเข้าใจไม่ได้ มีทั้งรถเราด้วย รถลูกค้าด้วยที่เอามาทำ ปนๆ กันไป”
ทนาย : “เอิร์ธเขาอัปเดตผลงานที่ไปรับรถลูกค้ามาอยู่แล้ว เพราะรถประเภทนี้จุดขายของโชว์รูมหรือศูนย์บริการก็ส่งรถสไลด์ไปรับ แต่เอิร์ธเขาบอกตลอดว่าเขาไปรับรถลูกค้า ขับมา ก็มีการอัปเดตในอินสตาแกรม แต่ไม่ใช่รถหรูของเขา เขาพูดตลอดว่าดูแลรถลูกค้าเป็นการโปรโมตไปด้วย”
ไม่ได้รวย ไม่ใช่ไฮโซเก่า ลงภาพรถหรูลูกค้าเป็นการตลาด
เอิร์ธ : “ตั้งแต่สมัยเป็นหลวงศรียศแรกๆ ที่มีการสัมภาษณ์กันว่าผมรวย เป็นไฮโซเก่า ผมยืนยันชัดเจนว่าเราทำงาน เป็นรถคนอื่น เป็นรถลูกค้าที่เขาไว้ใจให้เราขับ ก็มีผลต่อว่ารถคุณราคาขนาดนี้ ผมดูแลได้ไหม ก็เป็นการตลาดของผมเองที่้่ต้องลง ขอชี้แจงว่าผมไม่ได้รวยขนาดนั้น”
ทนาย : “ผมเป็นที่ปรึกษาซูเปอร์คาร์ ก็มาดูแลทางเอิร์ธ ก็ยืนยันว่าโชว์รูมและตัวเอิร์ธไม่ได้เกี่ยวข้องแน่นอน”
หวั่นหลุดละคร แต่คอนโทรลไม่ได้ ลั่นไม่ได้ผิด ขอให้เมตตาและรักเหมือนเดิม
เอิร์ธ : “ผมเป็นนักแสดง และทำธุรกิจรถยนต์ ก็มีแค่สองอาชีพนี้ ตอนแรกผมก็ซีเรียสนะ ละครจะหลุดหรือมีข่าวเสียอะไรหรือเปล่า แต่เราคอนโทรลอะไรไม่ได้ เราก็รอรวบรวมหลักฐานกับทนายแล้วออกมาชี้แจง ส่วนเรื่องเสียหาย ความไว้วางใจ ก็ตอบตรงๆ ว่ามีผลกระทบ วันนี้ผมมีโอกาสออกมาพูดในนามซูเปอร์คาร์ก็ขอฝากทุกคนดูข่าววันนี้ที่ผมให้สัมภาษณ์ ผมมาในฐานะพยานและข้อมูลที่ถูกต้อง ถ้าเห็นว่าผมไม่ได้ผิดจริง ก็ขอให้เมตตาและรักเหมือนเดิม ใช้บริการเหมือนเดิมนะครับ”
ไม่อยากฟ้องใคร แต่ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
เอิร์ธ : “เอาจริงๆ ผมไม่อยากมีปัญหาอะไรเลย ถ้าวันนี้ทุกคนรู้แล้วว่าความจริงเป็นอะไร ไม่อยากให้ตัดแต่งเติมต่อข่าวไปในทิศทางที่ไม่ดี เพราะผมก็ต้องรักษาสิทธิประโยชน์ตัวเองและร้าน ผมต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ก็ฝากด้วย ถามว่าเรามีเล็งๆ ไว้ไหม จริงๆ เราก็ไม่อยาก เราเห็นแหละ ไม่ว่าจะคนรู้จักเองหรือข้างๆ คนรู้จัก เราใช้วิจารณญาณในการดูสื่อดีกว่า อย่าโจมตีใครเลย ผมก็หาเช้ากินค่ำ”
ถูกเบรกเล่นภาพยนตร์
เอิร์ธ : “เรื่องภาพยนตร์เราต้องปล่อยไปตามขั้นตอนเขาเลย ผมมีหน้าที่แค่นักแสดง ถ้าเขาไม่ตัดผมทิ้ง ยังดำเนินการต่อก็ยินดี ตอนนี้เขาบอกแค่เบรก เท่าที่ผมรับทราบ”
หากถูกเรียกสอบเพิ่มก็ยินดี
เอิร์ธ : “จากข้อมูลที่เตรียมมาค่อนข้างชัดเจน แต่ก็ไม่ติดถ้าเขาจะเรียกสอบเพิ่ม”
ทนาย : “เรายินดีให้ความร่วมมือทางกฎหมายอยู่แล้ว วันนี้เอาเอกสารมาแสดงตัว เอาหลักฐานชี้แจง เพราะตอนมีข่าวไป ทางเรารอให้มีหมายเรียกมา เพื่อจะได้ออกมาพูดทีเดียว”
ลั่นแทนไทส่งลูกน้องมารับรถ ไม่เกี่ยวข้องกัน
เอิร์ธ : “จริงๆ รถสิ้นสุดกับผมตั้งแต่วันที่ 12 หลังจากนั้นก็ไม่เจอ เขาก็มารับตามนัดของเขา เป็นลูกน้องเขามารับ”
ทนาย : “พอประเมินราคา เสนอราคา เขาก็เซ็นรับเรียบร้อยและออกไป เอิร์ธก็ไปปาร์ตี้กับเพื่อนที่ทองหล่อ”
เอิร์ธ : “เขาเป็นลูกค้า”
ลั่นขับรถให้ลูกค้าไปเซอร์วิสเป็นเรื่องปกติ
เอิร์ธ : “ผมยืนยันว่า ขับรถลูกค้า สมมติพี่เป็นลูกค้า ผมก็ไปขับรถมาให้เป็นปกติ”
ฝากบอกคนเข้าใจผิด ขอให้กลับมารักและไว้ใจเหมือนเดิม
เอิร์ธ : “ขอบคุณพี่ๆ สื่อที่ให้ความสนใจผม ทั้งตอนออกข่าวและตอนนี้ ผมออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ พี่ๆ ก็ยังมากันหนาแน่นเหมือนเดิม ผมก็ขอบคุณพี่ๆ มาก สำหรับแฟนคลับหรือประชาชนทุกคนที่ติดตามผลงาน ยังไงก็ฝากด้วย วันนี้ผมมาด้วยความเต็มใจ มาชี้แจงเพื่อความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้หนี ไม่ได้หาย ที่มาช้าเพราะต้องรวบรวมข้อมูลเพราะทุกอย่างที่เกี่ยวกับราชการก็ต้องละเอียดนิดนึง”
ทนาย : “เราก็มาตามกำหนดนัดแหละ ไม่ได้เลื่อน ไม่ได้หาย”
เอิร์ธ : “ผมเองก็ไม่สบายใจที่หายไป แต่เราต้องทำตามขั้นตอน เขาเรียกผมมาเป็นพยานวันนี้ก็มาวันนี้”
ทนาย : “อยากให้เข้าใจตรงกันว่าหมายเรียก เรียกมาเป็นพยาน ส่วนคลิปวิดีโอเขาไปรับรถตามเวลา ไม่ได้เป็นที่โกดัง ยืนยันเลย”
เอิร์ธ : “ผมยืนยันความบริสุทธ์ใจตรงนี้ได้ สิ่งที่อยากพูดคือเรื่องความไว้ใจ เรื่องชื่อเสียงและบริษัทของผม บรอดคาซท์ฯ และช่อง 3 เพื่อนนักแสดง และขาดไม่ได้คือซูเปอร์คาร์ ทุกอย่างมีความหมายกับผมมากถ้ากลับมารักและไว้ใจผมเหมือนเดิมจะขอบคุณครับ”