กลายเป็นประเด็นฮอตฝั่งเกาหลีเรื่องที่ไอดอลสาวสวย “ไอรีน” จากวง Red Velvet ถูก สไตลิสต์ ออกมาแฉพฤติกรรม จนคนเบื้องหลังแห่มากดไลก์กันให้พรึ่บ งานี้ไอดอลสาวต้องออกมาขอโทษถึงพฤติกรรมของตนเอง ที่เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจ และไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของคนอื่นมากพอ
ตามรายงานระบุว่า คังกุกฮวา สไตลิสต์ ที่ออกมาโพสต์แฉพฤติกรรมไอดอลในครั้งนี้ คือคนที่ทำงานในวงการมานานแล้วกว่า 15 ปี ได้ออกมาแฉพฤติกรรมที่แม้ตัวเธอจะเตรียมใจมารับมือกับไอดอลสาวรายนี้มาบ้างแล้ว แต่ก็ยังเจอดีเข้าจนได้
“ดูข่าวที่ เฮเธอร์ โช ที่กลายมาเป็นตัวอย่างสำคัญให้กับ นักสังคมวิทยา ถึงเรื่องอัปยศที่เธอเคยสร้างไว้บนเครื่องบิน จนเดือดร้อนผู้โดยสาร 250 คนที่ต้องบินวนกลับไปจอดที่สนามบินอีกครั้งเพียงเพราะแค่เรื่องถั่ว รวมถึงข่าวของเด็กประถมฯโรคจิตลูกสาวของ บังจองโฮ อดีตประธานของ TV Chosun ที่ใช้อำนาจไปด่าทอใส่คุณลุงคนขับรถวัย 50 ปี ฉันเลยสงสัยว่าคนพวกนี้โตมายังไง ถูกเลี้ยงมาแบบไหน ฉันเคยนั่งคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้หนักมาก แต่มาวันนี้ฉันถูกคนลักษณะแบบนี้เหยียบย่ำอย่างหนัก และฉันตกเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำเสียเอง เธอคือคนที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าขาดคุณสมบัติความเป็นมนุษย์, เป็นหุ่นเชิดที่อาศัยอยู่หลังหน้ากากเปื้อนยิ้ม, เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นคนอบอุ่นสำหรับเพื่อนๆ, เป็นเด็กโตที่นิสัยเสีย รู้สึกว่าตัวเองมีสิทธิพิเศษ, และ เป็นคนโง่ที่เปิดเผยข้อบกพร่องอย่างทะลุปรุโปร่งตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน
ฉันควรจะเตรียมตัวให้พร้อมหลังฟังจากเรื่องราวต่างๆที่เคยได้ยินมา ก่อนที่จะเจอเธอ แต่วันนี้ ฉันถึงกับพูดไม่ออก ที่คนคนนี้ทิ่มแทงฉันด้วยคำพูดทีแหลมคมเหมือนเข็มไฟฟ้า ฉันไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยืนนิ่ง รวบรวมสติ มือ เท้า และสมอง ฉันต้องยืนนิ่งต่อหน้าใบหน้าที่น่ารังเกียจที่กำลังเหวี่ยงใส่ฉันอย่างไม่สบอารมณ์ ฉันต้องยืนตรงนั้นเหมือนคนโง่ที่ทำอะไรไม่ได้ คนคนนี้เขาไม่ได้ให้เวลาฉันอธิบายทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหรือแม้แต่แสวงหาความเข้าใจเลย คนคนนี้ไม่ได้ให้โอกาสฉันอธิบายเพราะเธอไม่รับฟังอะไรทั้งนั้น ฉันมีประสบการณ์กับคนหลากหลายในสายงานนี้มากว่า 15 ปี ฉันเคยคิดว่าฉันผ่านประสบการณ์มาแล้วทุกสิ่งในชีวิต และคิดว่าฉันคงจะปล่อยวางทุกอย่างไปได้ แต่ฉันคิดผิด
ฉันรู้สึกเหมือนตกนรกอยู่นาน 20 นาที ในห้องที่ฉันไม่คุ้นเคย คนคนนี้ไม่แม้แต่จะทักทาย เธอนั่งลงแล้วก็เริ่มพูดจาดูถูกต่อหน้าฉันพร้อมกับมือที่ถือโทรศัพท์ก็ชี้มาที่ฉัน เธออารมณ์ขึ้นมากๆจนคุณไม่รู้เลยว่าเธอพูดกับทุกคนในห้องหรือแค่ฉันคนเดียว ใดใดก็แล้วแต่เหยื่อของวันนี้คือฉันเอง ฉันสงสัยและคาดเดาว่าคนอื่นๆคงเคยเจอแบบนี้มาก่อน พวกเขาอาจกำลังประสบปัญหาอยู่ก็ได้ใช่ไหม? มีดจากปากของเธอถูกพุ่งออกมาไม่หยุด จนฉันถูกแทงด้วยคำพูดเธอหลายต่อหลายครั้ง และมีเพียงแค่น้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้ม
ฉันไม่ได้มีกะจิตกะใจที่จะรู้สึกอับอายที่ฉันร้องไห้ น้ำตาฉันไหล ฉันคิดแต่ว่าฉันทำสิ่งนี้เพื่ออะไร? ฉันทำแบบนี้เพื่อใคร? ฉันต้องการแสดงอะไร? ทำเพื่อต้องการเงินเหรอ? ใครเลือกฉัน? มีคนขอให้ช่วยเหรอ? ทำไมฉันต้องมาทนโดนดูถูกแบบนี้?! ฉันคิดเยอะมากเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่ฉันก็ไม่สามารถเข้าใจการกระทำของเธอได้ ฉันต้องใจเย็น และฉันก็อยากจะคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวเหมือนคนปกติทั่วไป และฉันก็ต้องการคำขอโทษ แต่เธอกลับหนีหายไป ฉันบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ทั้งหมดแล้ว หากมีอะไรเกิดขึ้น ฉันจะดำเนินการกับผู้หญิงคนนี้ ฉันจะออกมาบอกความจริงทั้งหมดจากปากฉันเอง
ฉันเป็นบรรณาธิการที่ต้องจ่ายเงินทำงานและเป็นนักเขียน นับจากนี้เป็นต้นไปฉันจะใช้พลังทั้งหมดและสมองที่มีอย่างชาญฉลาด นานแล้วที่ฉันไม่ได้รู้สึกการแก้แค้คือแรงผลักดัน #psycho #monster”
จากโพสต์เดือดที่เกิดขึ้น ได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ พร้อมกับพากันสงสัยว่าไอดอลที่ว่านี้คือใคร ชาวเน็ตเกาหลีจึงได้เพ่งเล็งไปที่ แฮชแท็ก #psycho #monster” และคาดว่าไอดอลที่ว่าน่าจะเป็น ไอรีน หรือ ซึลกี จาก Red Velvet เพราะมาจากเพลงที่ทั้งคู่ทำงานด้วยกัน
นอกจากนั้นโพสต์ดังกล่าวยังมี บรรณาธิการจากนิตยสารชื่อดังของเกาหลีมากมายเข้ามากดไลก์ ไม่ว่าจาก Vogue, Marie Claire, GQ, Esquire, Allure, BEAUTY+, Singles และ EYESMAG ซึ่งนิตยสารเหล่านี้ต่างก็เคยร่วมงานกับ ไอรีน ทั้งในฐานะงานเดี่ยว และงานกลุ่มพร้อมเพื่อนร่วมวง แม้แต่ช่างภาพ ฮงจางฮยอน ที่เคยร่วมงานกับซุปตาร์ตัวท็อปมาแล้วมากมายทั้ง จอนจีฮยอน, ซองฮเยคโย และ ฮันฮโยจู ก็ยังมาซัพพอร์ตโพสต์นี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นอดีตสไตลิสต์ของ Red Velvet และ SHINee รวมถึง สไตลิสต์คนปัจจุบันของ โบอา ต่างก็กดไลก์โพสต์นี้เช่นกัน
หลังจากเป็นประเด็นเมาท์อยู่ได้ไม่กี่วัน ไอรีน ก็ได้ออกมายอมรับโดยโพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรม เพื่อขอโทษทุกคน
“ไอรีนนะคะ
ฉันต้องขอโทษจริงๆที่ได้ทำร้ายความรู้สึกของสไตลิสต์ด้วยแอทติจูดโง่ๆของตัวเองและใช้คำพูดและการกระทำโดยไม่แคร์ใคร ฉันได้รับความช่วยเหลือมากมายจากผู้คนที่พยายามทุ่มเทอย่างหนักเพื่อให้ฉันได้มายืนอยู่ในจุดที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้ และฉันก็เสียใจจริงๆที่ได้ทำร้ายความรู้สึกของพวกเขาด้วยพฤติกรรมที่ไม่รู้จักโต เหตุการณ์นี้ได้ทำให้ฉันได้มองย้อนกลับไปในอดีตที่ผ่านมา แล้วฉันรู้สึกละอายจากคำพูดและพฤติกรรมที่ไม่ดี ฉันได้เห็นความสำคัญของทีมสตาฟฟ์อีกครั้ง ฉันจะคิดและทำอะไรอย่างระมัดระวังให้มากกว่านี้ เพราะฉะนั้นเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ฉันต้องอโทษจริงๆสำหรับแฟนๆที่คอยให้กำลังใจและสนับสนุนฉัน ที่ฉันทำให้ทุกคนต้องเป็นห่วงเพราะเหตุการณ์เหล่านี้ค่ะ”
หลังจากที่รู้ว่าไอดอลคนดังกล่าวคือ ไอรีน แฮชแท็ก #IreneApologize ก็ถูกปั่นขึ้นติดท็อปเทรนด์ในทวิตเตอร์ งานนี้สไตลิสต์ชาวจีนที่ชื่อว่า Belle Shao ที่เคยทำงานถ่ายแฟชั่นร่วมกับ Red Velvet ให้กับ CHIC Magazine ฉบับเดือน ก.ย. เมื่อปี 2018 ก็ออกมาสนับสนุนโพสต์ของบรรณาธิการก่อนหน้านี้ พร้อมกับโพสต์ Weibo ว่า
“หลังจากเห็นแท็ก #IreneApologize ขึ้นติดเทรนด์ ฉันไม่แปลกใจเลย ไอรีนคือคนที่สวยมาก แต่เธอหยาบคายสุดๆ ( ถ้าให้ฉันพูด มันคงยาวเกิน 1,000 อักษรแน่ๆ ) ใครก็ตามที่เคยทำงานกับเธอ จะรู้ดี ฉันว่าในประเทศนี้น่าจะมีแค่ฉันที่ได้ทำงานกับเธอ สวยแต่หน้าจริงๆ”
จากนั้นเธอได้โพสต์เพิ่มเติมว่า “ฉันแค่อยากบอกว่า จริงอยู่ วงนี้เป็นวงจากต่างประเทศ ฉันแค่ทำงานกับเธอแค่วันเดียว แต่สำหรับทีมงานเกาหลีที่ต้องทำงานกับเธอทุกวัน มันคือสิ่งที่แย่ที่สุด พวกเขาหวาดกลัว เธอไม่เห็นหัวใครนอกจากตัวเอง”
นอกจากนั้นยังมีสไตลิสท์ที่ไม่เปิดเผยตัว ที่ทำงานอยู่ในวงการบันเทิง ก็ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ในสิ่งที่เธอเห็น โดยเผยว่า 3 ครั้งที่เธอเจอ ไอรีน ล้วนเป็นภาพที่ไม่น่ารักทั้งสิ้น
“ฉันไม่รู้ว่านี่เป็นเหตุบังเอิญหรือเปล่า แต่ฉันได้เจอ ไอรีน 3 ครั้งตอนที่ทำงานนี้ ครั้งแรกคือที่สนามบิน เธอยืนกอดอกแล้วมีคนยืนรายล้อมอยู่ด้วยอีก 3 คน มีทั้งผู้จัดการส่วนตัว แล้วก็สไตลิสท์ด้วย เธอพูดว่า ‘นี่ฉันจำเป็นต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ? ฉันจำเป็นต้องมายืนอยู่นี่ด้วยเหรอ?’ ผู้จัดการเธอเลยบอกว่างั้นก็ไปนั่งรอ เธอเลยเดินไปนั่ง แต่สักพักเธอก็เดินกลับมาแล้วก็ใช้นิ้วผลักหน้าผากหนึ่งในสไตลิสต์ของเธอ แล้วพูดว่า ‘ฉันมาดูว่าเธอจัดการได้ดีหรือเปล่า’ พอฉันเห็นแบบนั้น ฉันสงสัยว่าคนที่เอานิ้วผลักหน้าผากคนอื่นเป็นคนแบบไหนกัน ฉันช็อกมาก ที่ผู้คนที่รายล้อมเธอดูเหมือนเคยชินกับพฤติกรรมผิดๆของเธอแล้วก็ไม่ได้แคร์อะไรมาก ฉันไม่อยากจะเจอกับคนแบบนี้อีก
แต่แล้วฉันก็ได้เจอเธออีกครั้งเป็นครั้งที่สองในกองถ่าย มีสไตลิสต์ 2 คนนั่งคุกเขาอยู่ตรงหน้าเธอ สไตลิสต์กำลังใส่รองเท้าให้พอเธอเสียการทรงตัว เธอก็ด่าแล้วเอามือดึงผมของสไตลิสต์อีกคนหนึ่งเพื่อทรงตัว นั่นคือครั้งที่สองที่ฉันช็อก ฉันคิดว่าวิธีที่สะดวกที่สุดในการใส่รองเท้าคือหาที่นั่งแล้วใส่เอง
ส่วนครั้งที่สามคือตอนที่ฉันเห็นสไตลิสต์ที่โดนสั่งให้ไปปลุกไอรีน ที่กำลังหลับระหว่างพัก สไตลิสต์คนนั้นดูกลัวๆ หน้าซีด เหมือนกับว่าเธอเห็นผีอะไรแบบนั้นเลย เธอทั้งดังแล้วก็ประสบความสำเร็จ ตอนนี้มันคือขาลงของเธอแล้วหรือไม่?
ฉันเองไม่ใช่คนกล้าที่จะเปิดเผยตัวตน และไม่ได้บันทึกหลักฐานเพื่อมาพิสูจน์คำบอกเล่าของตัวเอง แต่ฉันก็ยินดีต้อนรับการสิ้นชีพของเธอนะ”
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อความโจมตีจากหลายทิศ ยังมีชาวเน็ตและแฟนคลับ รวมถึงคนที่เคยร่วมงานกับไอรีน ไม่ว่าจะเป็นสไตลิสต์และช่างแต่งหน้าต่างๆ ได้ออกมาระบุว่า เหรียญมี 2 ด้าน ขอทุกคนอย่าฟังความข้างเดียว โดยมองว่า ไอรีน ไม่ใช่คนก้าวร้าว หยาบคาย เป็นคนที่บอกความต้องการของตนเองอย่างชัดเจน ว่าเธอต้องการอะไรและมีทักษะที่จะสื่อความเห็นออกมาได้อย่างเคลียร์ๆ เธอเป็นศิลปินที่ฉลาดและมีความสามารถ และไม่เคยใช้อำนาจตัวเองมากลั่นแกล้งใคร และรู้สึกประทับใจที่ได้เห็นเธอถ่ายทอดความพอใจไปยังทีมงานและผู้คนที่อยู่รอบข้างอย่างห่วงใย
พร้อมกันนั้น คนในวงการแฟชัน ยังเสริมว่า น่าเสียดายที่ผู้คนต่างอยากรับสารแค่ข้างเดียว อยากเห็นในสิ่งที่ตนเห็นอย่างเดียว ไอรีน เป็นหัวหน้าวงที่เชื่อถือได้ และเป็นคนที่ทำงานอย่างซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา แต่คำนิยามเหล่านั้นต้องถูกถอดออกไปเพียงเพราะเรื่องราวเกี่ยวกับการแสดงทัศนคติแย่ๆของคนคนหนึ่งเท่านั้น
ส่วนตอนนี้ข่าวดังกล่าวได้กระทบกับงานทั้งหมดของ ไอรีน ทั้งในฐานะ นักร้อง และ นักแสดง โดยต้นสังกัดได้สั่งเลื่อนงานทุกอย่างออกไปเรียบร้อยแล้ว