“ไอซ์ ณพัชรินทร์” รับปรี๊ดมาก หวิดด่าไอ้สั.. องค์ลงเห็นข้อความป่วนถาม “โรเบิร์ต” ไปแล้ว เมื่อไหร่ “พ่อค่อม” จะตามไป เผยยั้งปากได้เพราะสามี ซัดคนที่ทำแบบนี้ได้คงจิตไม่ปกติ แนะป่วยก็ไปรักษา อย่ามาระรานคนอื่นเขา
ก่อนหน้านี้เห็น “บอล เชิญยิ้ม” โพสต์ข้อความด่าเดือดเกรียนคีย์บอร์ดรายหนึ่งที่ส่งไดเร็กข้อความไปหา “ค่อม ชวนชื่น” ว่า “โรเบิร์ตไปแล้ว เมื่อไหร่น้าค่อมจะไปบ้าง” บอลถึงขั้นบอกว่าให้เปิดหน้าและมาเจอกันตัวต่อตัว อย่าแตะพ่อกู ทางด้านลูกสาวอย่าง “ไอซ์ ณพัชรินทร์ ปรีดากุล”ที่ยอมรับว่าเป็นคนเห็นข้อความนี้ก่อนพ่อ ก็คุมสติแทบไม่อยู่ เพราะโกรธมาก แต่ก็ได้สามีคือ “แบงค์ อธิกิตติ์ ไพบูลย์รัตนกิจ”ห้ามไว้ว่าอย่าไปตอบโต้
“คือต้องบอกก่อนว่าอินสตาแกรมคุณพ่อเนี่ย ไอซ์กับคุณพ่อถือ สมมุติเวลาใครส่งอะไรมา ไม่เขาก็เราที่ได้เห็นก่อน แต่ดันเป็นเราที่ได้เห็นก่อน คือครั้งแรกที่เขาพิมพ์มา เขาพิมพ์มาแบบว่าอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เราคิดว่าน่าจะเป็นคำนั้น เราก็เลยถามกลับไปอีกรอบว่า อะไรครับ ซึ่งไอซ์ตอบเองว่าอะไรครับ แล้วเขาก็พิมพ์กลับมาเป็นอย่างที่เราคิด เราก็เลยแบบตอนนั้นโกรธมาก แล้วขึ้นมาก ตอนแรกกะจะเขียนด้วยอารมณ์ตัวเองนะ จะเขียนแรงกว่านี้ แต่ยังดีที่มีสามีกดไว้ บอกให้ใจเย็นๆ
คำพูดที่อยากจะเขียนก็เป็นคำพูดที่พ่อชอบพูดน่ะค่ะ ไอ้สั.. คือเราโมโหจริงๆ สมมุติถ้าคนอื่นคิดแทนเรา ถ้าเกิดโดนกับครอบครัวตัวเอง เราก็ไม่โอเค แต่ว่าพอเราโพสต์ลงไป จากที่เราเห็นว่ามีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มาขึ้นแทนเรา ทำให้กลับกลายเป็นเบาลงเลยแต่วันนั้นคุณพ่อทำงาน เราก็ยังไม่ได้บอกคุณพ่อ เราก็รอให้เขาทำงานเสร็จก่อนแล้วค่อยบอก แต่จังหวะที่เราโทร.บอกรถเขามีโทรทัศน์ ข่าวเขาก็ขึ้นมาพอดี (หัวเราะ) แล้วเขาก็หัวเราะ แล้วก็บอกไม่เป็นไร เราก็กลัว คือพ่อเขาจะเป็นคนที่ถ้าได้รับรู้อะไร ข้อความอะไรที่เขาไม่ได้อยากได้ยิน มี 2 อย่างที่เดาใจยากก็คือ โอเค กับ ซึมไปเลย เขาจะเป็นคนเซนซิทีฟนิดนึง แต่โชคดีที่เขามองเป็นเรื่องตลก เราเองก็สบายใจ
แต่ข้อความที่มาด่าคุณพ่อคนนี้คือคนแรกเลยนะ นอกนั้นก็จะเป็นจิปาถะ ขอเงินอะไรอย่างนี้ แต่ไอซ์ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงไม่ขึ้น เพราะว่าคนรอบข้าง ทั้งน้อง ทั้งคุณแม่ แม้กระทั่งน้าบอลขึ้นมาก คือทุกคนขึ้นมากว่าคำนี้มันไม่ควรที่จะมาพูดเล่นๆ ในเวลานี้ เข้าใจมั้ย ไม่ควรมากๆ ถ้าเกิดคุณสติดีหรือว่ามีความคิดที่ดี เขาก็คงไม่ทำกัน เราก็เลยคิดว่าเขาอาจจะเป็นคนที่ไม่ได้มีความคิด”
บอกใจอยากจะแจ้งความมาก แต่ถ้าพ่อไม่ยินยอมก็คงต้องปล่อยไป
“จะตามหาตัวว่าเป็นใครมั้ยเหรอ คือตอนที่ไอซ์มอง เราแคปหน้าจอเอาไว้ ในหน้าจอเขามีชื่อและนามสกุลจริงเขาเป็นภาษาอังกฤษ เราก็เข้าไปหา พอเข้าไปหาดูเราก็ไม่รู้ว่าหน้าจริงหรือหน้าปลอม แต่เราก็คิดว่าอย่าไปมีเรื่องกับเขาเลยดีกว่า ก็ถามพ่อแล้วว่าจะฟ้องมั้ย พ่อบอกว่าไม่เป็นไร ช่างมัน คือเราก็จะได้รู้ไว้ จะได้ระวังตัวเองไว้ แต่ถ้าเกิดสมมุติว่ามีอีก สอง สาม สี่ ห้า ก็ไม่แน่ เพราะไอซ์ตอนนั้นเหมือนคนองค์ลง ขึ้นเลย มันโกรธจริงๆ นะ แต่ว่าก็โกรธแป๊บเดียว แล้วก็คิดว่าช่างมัน
ถามว่าจะมีไปแจ้งความไว้เป็นบทเรียนให้กับเคสอื่นๆ มั้ย คือไอซ์อยากทำมาก แต่ว่าถึงเราอยากแค่ไหน แต่ถ้าพ่อเขาไม่ได้ต้องการให้ทำ มันก็เท่านั้น พ่อเขาจะนิ่ง ถ้าเขาโกรธหรือไม่ชอบ หรือมีอะไรในหัวเนี่ย เขาจะหน้านิ่งอย่างเดียวเลย แล้วเขาก็จะเงียบและซึมๆ ช่วงนึงเมื่อวาน แล้วก็ไปนั่งอยู่หน้างาน ไม่ค่อยเข้ามาในงาน เขาคงคิดอะไรโน่นนี่นั่น จริงๆ พ่อก็คงไม่โอเคแหละ แต่ว่าเขาไม่ชอบการมีเรื่อง
ก็ฝากเตือนนะคะว่าคุณพ่อมีอาชีพเป็นนักแสดงตลกเนอะ แต่ว่าเราก็ไม่ควรจะมาตลกสะเปะสะปะเล่นมั่วซั่วนะคะ เขาไม่ใช่เพื่อนเล่นเนอะ อายุเขาก็น่าจะราวๆ กับรุ่นใหญ่ของคนที่บ้านคุณแล้ว ก็จะบอกว่าอย่าทำเลย เพราะว่าเอาจริงๆ แล้วเขาไม่ได้มีแค่ในส่วนของไอซ์ เขาไประรานพี่เป๊กกี้ด้วย คนเดียวกันกับที่พูดเรื่องใต้สะดือของพี่เป๊กกี้ ที่พี่เป๊กกี้โพสต์ เราก็เลยรู้สึกว่ามันคงไปทั่ว คงเป็นคนที่ไร้สาระคนนึง ไม่งั้นคงไม่มาทำคนโน้น คนนี้ ปั่นคนโน้นคนนี้ ไอซ์ว่าเขาน่าจะป่วย ก็ไปรักษานะ หาหมอนะ ลูกหลานเป็นอย่างนี้ไม่โอเคนะคะ”
