“ใหม่ สุคนธวา” เคลียร์โพสต์ฉะ “ซาร่า” เรียกร้องหรือรีดไถ รับล้มตึงแทน “ไมค์ พิรัชต์” อัดทำเกินหน้าที่แม่ พร้อมเผยมุมมองพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงดูตนมาตั้งแต่ 3 เดือน ไม่เคยสอนให้เกลียดแม่
เป็นนักแสดงอีกคนที่ออกมาโพสต์แรงกรณี “ซาร่า คาซิงกินี” ยื่นข้อเรียกร้อง 6 ข้อถึง “ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่หลายคนเกินจะรับได้ ถึงขั้นโพสต์ว่าเป็นข้อเรียกร้องหรือรีดไถกันแน่ เรียนโรงเรียนวัดก็ได้ดีได้ ล่าสุด “ใหม่ สุคนธวา เกิดนิมิตร” ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวผ่านรายการถามสุดซอย ยันไม่ได้เกลียดซาร่า แค่อยากเตือนสติในฐานะแม่ ยอมรับเห็นข้อเรียกร้องแล้วล้มตึง หนักเกินไป
“จริงๆ ใหม่ต้องบอกก่อนนะคะว่าสิ่งที่ใหม่โพสต์ไป ใหม่เคารพในตัวเขาและเคารพในตัวความเป็นแม่ของเขา เคารพแฟนคลับเขา สิ่งที่ใหม่โพสต์ไป เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของใหม่มากกว่า หลายคนอาจมองว่าผิดหรือถูก ใหม่ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะใหม่ไม่ได้ไปว่า หรือด่าเขา แต่แค่ให้ความคิดเห็นของคนอายุ 38 ซึ่งมีคุณวุฒิและวัยวุฒิพอสมควรที่จะเตือนใครได้ ก็เท่านั้นเอง
ใหม่รู้สึกว่าสิ่งที่เขาเรียกร้องก็ไม่ได้ผิดนะคะ มันเป็นสิทธิของเขา เพราะเขาเป็นแม่ของน้อง เขามีสิทธิที่จะเรียกร้อง แต่สิทธิในที่นี้ อยากบอกว่าสะกดคำว่าพอดี ขอบเขตเป็นมั้ย สงสารอดีตสามีเป็นมั้ย สงสารพ่อของลูกเป็นมั้ย เท่านั้นเอง ผู้หญิงเรามีสิทธิเรียกร้องอยู่แล้ว แต่เรียกร้องยังไงให้คนอื่นไม่ลำบากกาย ไม่ลำบากใจ ไม่ทุกข์ใจ ไม่ใช่ไปกดดันจนตัวเองจะฆ่าตัวตาย ถึงอดีตสามีเขามีเงิน รวยก็ตาม แต่วันนึงถ้าโดนขูดรีดขนาดนี้ บางทีก็อาจหมดได้ เขาอาจเครียด้ได้ กดดันได้ ก็ให้มองความยืดหยุ่นดีกว่า ขอให้มีคุณธรรมให้มากพอ”
รับล้มตึงแทน ไมค์ พิรัชต์ ข้อเรียกร้องซาร่า ต้องส่งลูกให้เรียนโรงเรียนนานาชาติจนจบ ป.เอก
“ใหม่คิดว่าข้อเรียกร้องของเขาค่อนข้างหนักและมากทุกข้อ แต่ถามว่าสะดุดอันไหนดีกว่า ใหม่สะดุดข้อแรกเลย ต้องส่งให้ลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติ อันนี้เขาลงเองนะคะ และต้องให้จบ ป.เอก ใหม่รู้สึกว่าเดี๋ยวนะ (หัวเราะ) เรียนนานาชาติมันดี ใหม่ไม่ได้โจมตี แต่ค่าเทอมนานาชาติมันหลักแสนหลักล้านนะ ลูกต้องอยู่กี่เทอม กี่ปี พอบอกว่าให้จบ ป.เอก มันทำให้ใหม่จะเป็นลมตายแทนฝ่ายผู้ชาย เรารู้ค่าเทอมดี เราเป็นแม่คนเราศึกษา เราหาข้อมูลหมดว่ามันแพงแค่ไหน
พอเขาบอกว่าให้จบ ป.เอก ใหม่ล้มตึงแทนเขาเลย รู้สึกว่าต๊าย เขาจนได้เลยนะ ถ้าคุณจะเรียกร้องข้อนี้ ใหม่เข้าใจแหละว่าคนเป็นแม่อยากให้ลูกเรียนโรงเรียนดี เพื่อภาษา เพื่อการมีสังคมที่ดี แต่สิ่งที่ใหม่คิดในใจ ใหม่ย้อนแย้งกับเขานิดหนึ่งตรงที่ว่า ไม่ว่าจะเรียนโรงเรียนไหนก็ตาม ขึ้นอยู่กับตัวลูกมากกว่าว่าเขาคิดเป็นคิดดีทำดี ตั้งใจเรียนแค่ไหน เขาจะทำให้ตัวเองมีอนาคตสวยแค่ไหน ไม่ใช่เรียนโรงเรียนนี้แล้วจะต้องดีทุกคน ใหม่จบโรงเรียนวัดก็ได้ดีได้ ได้เกียรตินิยมอันดับ 2 จบ ป.โทได้ 3.6 เพราะโรงเรียนวัดนี่แหละทำให้ใหม่ได้เกรดดีๆ แบบนี้ เพราะโรงเรียนวัดนี่แหละทำให้ใหม่คิดเป็น และคิดดีแบบนี้ ตรงนี้ก็อยากให้เขาฉุกคิดนิดนึงดีกว่า
ครูคนแรกของลูกคือพ่อแม่ อยากให้ลูกเรียนนานาชาติไม่ผิด แต่ลูกไม่รู้หรอกว่าอะไรคือนานาชาติ แต่แม่รู้ว่าอะไรคือนานาชาติ สิ่งที่ได้คือตัวแม่มากกว่า ที่เขาจะได้หน้าได้ตา ได้มีเพาเวอร์ในสังคม ใหม่คิดว่าตรงนี้เขาทำเพื่อตัวเอง หรือทำเพื่อลูกให้ชั่งน้ำหนักให้ดีๆ”
เผยมุมพ่อเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ไม่เคยสอนให้เกลียดแม่
“พ่อเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวตั้งแต่ 3 เดือน เขาก็ไม่ได้ให้ใหม่ต้องเกลียดแม่ ซึ่งใหม่ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่เขาเป็นอยู่ เลว หรือผิด ไม่ดีนะคะ ใหม่ไปตัดสินใครไม่ได้อยู่แล้ว ให้เขาคิดเองว่าสิ่งที่ทำดีหรือไม่ แต่สิ่งที่อยากจะบอกคือคุณพ่อใหม่เลี้ยงเดี่ยวตั้งแต่ 3 เดือน คุณพ่อฐานะไม่ได้รวย จนด้วยซ้ำ แต่สามารถส่งเสียใหม่ในสิ่งที่เป็นไปได้ ที่พ่อไม่เหนื่อยจนเกินไป และตรรกะความคิดของพ่อก็ดี เขาคิดว่าโรงเรียนวัดนี่แหละจะปลูกฝังให้ลูกเป็นคนดี ไม่เป็นภาระของสังคมในภายภาคหน้า
และพ่อไม่เคยสอนให้ใหม่ต้องมานั่งเกลียดแม่ คือคนพูดว่าแม่ใหม่ไม่ดี ใหม่ไม่ได้สนใจ แม่ใหม่อาจไม่ดีจริงๆ ก็ได้ แต่ใหม่ไม่ได้ซีเรียส ใหม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เราเป็นเด็ก เป็นลูก ก็ใช้ชีวิตให้ถูกต้อง แม้แม่เราไม่ดียังไงก็ตาม นั่นคือจบ เราต้องการตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ แม่เป็นผู้ให้กำเนิดเราเท่านั้น เรารู้สึกดีอยู่ในใจก็พอ”
ซัดก่อนห้ามฝ่ายชายเอาลูกหากิน ต้องยับยั้งชั่งใจตัวเองซะก่อน ข้อเรียกร้องเกินแม่ไปนิดนึง
“ใหม่ว่าถ้าลูกอยู่กับใคร ลูกก็ถูกปลูกฝังให้เข้าใจอีกฝ่ายผิดๆ ถ้าลูกอยู่กับแม่ แม่ก็จะปลูกฝังว่าแม่เป็นคนดี พ่อเป็นคนไม่ดี ถ้าลูกอยู่กับพ่อ พ่อก็จะปลูกฝังว่าพ่อเป็นคนดี แม่เป็นคนไม่ดี จะเป็นไปโดยธรรมชาติ ถ้าสองคนนี้โกรธกัน อย่างใหม่ก็เคยโดนประสบการณ์แบบนี้ แต่มันเป็นปัญหาของผู้ใหญ่ สิ่งที่เขาทำ หลายคนวิจารณ์ว่าเขากำลังเอาลูกมาหากินหรือเปล่า เพราะเขาว่าฝ่ายชายห้ามให้เอาลูกมาหากิน แต่สิ่งเหล่านี้ที่เขากำลังทำอยู่ เขาก็เหมือนเอาลูกเป็นตัวประกันอยู่ในการเรียกร้องเงิน ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ก่อนที่คุณจะห้ามใครไม่ให้เอาลูกมาหากิน เราต้องยับยั้งชั่งใจก่อนว่าเราก็ไม่ได้เอาลูกเป็นตัวประกันหรือเอามาเป็นเงื่อนไข โดยที่ทำให้คุณได้เงิน เพราะนั่นไม่ใช่คำว่าแม่ มันเกินคำว่าแม่ไปนิดนึง”
ถ้าเป็นแม่ไม่ควรรีดไถ แต่ถ้าเป็นโจรก็ทำไป
“ถ้าคุณเป็นแม่คุณไม่ควรทำ แต่ถ้าคุณเป็นโจรคุณทำต่อไป เท่าที่ไปอ่านในข่าว ต้องให้ฝ่ายผู้ชายซื้อบ้านให้ลูก ส่งเสียถึงปริญญาเอก ต้องมีคนขับรถ มีแม่บ้าน ใหม่รู้สึกว่าชีวิตใหม่ขาดแม่มาตั้งแต่ 3 เดือน ใหม่ไม่เคยมีสิ่งเหล่านี้ที่ผู้หญิงคนนี้ต้องการหรือเรียกร้อง แล้วใหม่ก็สามารถพึ่งลำแข้งตัวเองได้เพราะความจน ความลำบากมาก่อน และใหม่ก็สามารถเก่งขึ้นมาได้เพราะพ่อไม่ได้สอนให้ใหม่สบายตั้งแต่เด็ก เด็กคนไหนที่ถูกพ่อแม่สปอยมาตั้งแต่เด็กจะทำให้เด็กสะกดคำว่าลำบากไม่เป็นเลย สุดท้ายเขาจะเป็นง่อย ทำอะไรไม่เป็น สุดท้ายจะเป็นภาระของสังคม ถ้าพ่อหรือแม่ตายจากไปเขาจะอยู่ในสังคมยังไง
นี่เขากำลังสอนลูกในทางที่เกือบจะผิด เท่านั้นเอง สอนให้ลูกได้ดีได้ หรือต้องการให้ลูกมีบ้านมีรถมีอะไรได้ แต่คุณต้องทำแค่ครึ่งเดียว นอกนั้นต้องให้ลูกรู้สึกทำมาหากิน สร้างอนาคตเขาเองดีกว่า อย่างใหม่คุยกับพี่ต้นสามี ว่าพี่ให้เงินหนูแต่ละเดือน หนูไม่ใช้เงินเลย จะเก็บให้ลูก เพื่อให้ลูกสบาย ก็ไม่ต่างกับความคิดของเขา แต่แค่ช่วงอนาคตอายุที่เขาดูแลตัวเองไม่ได้ ไม่งั้นเขาจะรู้สึกว่าเขาถูกสปอยมาตั้งแต่เด็ก แม่มีเงิน ไม่ต้องทำอะไร ฉันสบาย กระดิกเท้ากระดิกมือ ไม่รู้จักคำว่าลำบาก สร้างให้ลูกได้ แต่สร้างให้ครึ่งเดียว ต้องทำมาหากินเป็น สบายได้แต่ต้องให้ลูกรู้จักคำว่าลำบากเป็น
ถ้าเป็นใหม่ ใหม่สอนให้ลูกพึ่งพาตัวเอง แทนให้ลูกยืมจมูกคนอื่นหายใจ เพราะเรารู้สึกว่าเราต้องไม่ดูถูกลูก ลูกเราต้องทำเหมือนคนอื่นๆ เป็น และคนอื่นๆ จะให้เกียรติลูกเราและให้เกียรติเราเอง บางครั้งการสอนให้ลูกเป็นคนแบบนี้จะทำให้สังคมรังเกียจลูกโดยปริยาย ทั้งที่ลูกไม่ได้ผิด”
ยันไม่ได้เกลียดอะไรซาร่า แต่อยากให้มีสติ ในฐานะแม่
“ใหม่ฝากถึงทุกๆ คนแล้วกัน หรือว่าน้องผู้หญิงได้ฟังอยู่ ก็กราบขอบพระคุณมาก (หัวเราะ) ใหม่ไม่ได้เกลียดอะไรเขา ไม่ได้รู้สึกว่าอยากสั่งสอน เพราะเราไม่ได้รู้จักกันหรืออคติกันอยู่แล้ว แต่อยากให้เขามีสตินิดนึง อยากให้เขารู้ตัวเองตลอดเวลาว่าถ้าตอนนี้คุณไม่ได้นามสกุลไทย แต่คุณอยู่ในสังคมไทย อยู่ในประเทศไทย คุณควรเรียนรู้วัฒนธรรมไทยให้มากๆ ว่าความคิดความอ่านคนไทยเป็นยังไง ไม่ใช่เอาแต่ความคิดตัวเองที่อยากสุขสบาย บางทีสังคมไทยไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณคิด
ถ้าคุณอยู่ในสังคมไทยจริงๆ คุณต้องสอนให้ลูกกตัญญูต่อพ่อแม่ รักพ่อแม่ ไม่เกลียดพ่อแม่ ถ้าคุณรักลูกจริงๆ ก็ต้องสอนให้ลูกเป็นคนธรรมดาที่สุด พึ่งพาตัวเองได้ที่สุด แล้วคุณจะสบายที่สุดเลย ไม่งั้นจะมีปัญหามีความเดือดร้อนตามมาทีหลัง ฝากไว้แล้วกันว่าให้คิดถึงใจเขาใจเรา อะไรที่พอดีก็โอเค อะไรที่มากเกินไปหรือตึงเกินไปไม่ได้ดีเสมอไป”