“ศรราม” ควง “วีจี” ออกงานครั้งแรก ลั่นชีวิตเริ่มนับ 1 ใหม่ หาเงินใช้หนี้ เก็บเงินให้ลูก ดูแลแม่ที่แก่ ยันไม่ปิดกั้นสิทธิ์ “ติ๊ก” เจอลูก ยินดีทำหน้าที่พ่อแม่ร่วมกัน แต่ยื่นคำขาดไม่ขอกลับไปใช้ชีวิตสามีภรรยาอีกแล้ว
ควงลูกออกงานครั้งแรกสำหรับซามูไรพ่อลูกอ่อน “ศรราม เทพพิทักษ์” ที่วันนี้ควงน้อง “วีจิ” มาร่วมงานงานเปิดสาขาใหม่ เบบี้ ฮิลล์ เมกา บางนา ที่ศูนย์การค้าเมกา บางนา โดยเจ้าตัวได้เปิดใจว่าอดีตภรรยา “ติ๊ก กนิษฐรินทร์” สามารถมาเจอลูกสาวได้ แต่ยังไงก็กลับมาเป็นสามีภรรยากันเหมือนเดิมไม่ได้
“คือมันเป็นสถานที่ที่สามารถมีพื้นที่ให้เดินเล่นได้ผมมีแค่ 2 ฉาก ถ่ายเสร็จก็พาไปทานข้าวต่อก็ได้ใช้เวลาอยู่กับลูก (เปลี่ยนเป็นชีวิตคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว?) เป็นชีวิตปกติครับตั้งแต่มีลูกก็เป็นแบบนี้ไปแล้วทำงานเสร็จก็กลับไปดูลูกแต่ก็ไม่ได้เอาลูกไปไหนมาไหนด้วยตลอดเราก็ต้องมีเวลาของเราบ้าง”
“อย่างเช่นผมไปทำงานไปคุยงานหรือเวลาพักของผมก็มีบ้างอาจจะให้พี่เลี้ยงคอยดูถ้าผมมีเวลาก็จะอยู่กับเขาที่บ้านตอนเช้าก็เจอกันก่อนผมออกมาทำงานส่วนใหญ่ก็ต้องทำงานเกือบทุกวันพัฒนาการของน้องตอนนี้ก็เป็นไปตามวัยเริ่มพูดแล้วเริ่มเรียกปาป๊าหม่ำหม่ำตอบว่าวีจิจ๋าก็เริ่มตอบว่าว่าจ๊ะได้แล้วเริ่มเล้นแฟลชการ์ด”
ลั่นสิ่งที่ตัดสินใจวันนี้ไม่สามารถเอาความสุขของตัวมาตัดสินเรื่องนี้และเอา “วีจิ” เป็นตัวตั้ง
“กับปัญหาที่เกิดทุกๆ เรื่องมันเป็นปัญหาที่หนักและเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อชีวิตผมกับลูกแต่ละเรื่องมันเป็นเรื่องที่ผมไม่ได้มีความปรารถนาให้เกิดขึ้นในชีวิตผมผมพยายามแก้ไขประคับประคองทุกๆ เรื่องอย่างที่สุด จนสุดท้ายปัญหามันไม่จบผลลัพธ์ก็เลยต้องออกมาแบบนี้ซึ่งปัญหามันเกิดจากอะไรทุกๆ เรื่องมันเกิดเพราะอะไร ผมเชื่อว่ามันมีคำตอบในตัวของอยู่แล้วผมเองก็ทุกข์ไม่ได้มีความในทุกๆ วัน”
“เพราะฉะนั้นสิ่งที่กำลังจะบอกความรู้สึกบอกกับทุกคนคือว่าเราต้องเอาเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาเป็นเหตุผลเพื่อรองรับการตัดสินใจเราไม่สามารถเอาแม้กระทั่งความสุขของตัวเรามาตัดสินใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้เพราะฉะนั้นต้องขอนุญาตกับความคิดเห็นหรือว่ากระแสสังคมอื่นๆ ต้องขออนุญาตขอไว้เพราะเรื่องนี้เราต้องใช้ข้อเท็จจริงเป็นหลักมีวีจิเป็นตัวตั้งวีจิต้องสำคัญที่สุดเพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมปฏิบัติวันนี้มันจะต้องเป็นผลดีของลูกมากที่สุดหรือกระทบต่อความรู้สึกของลูกน้อยที่สุดในวันนี้ในวันข้างหน้าและอนาคตของลูก”
ไม่กีดกัน “ติ๊ก” เจอลูกบอกชีวิตเริ่มนับ1ใหม่ต้องทำงานใช้หนี้เก็บเงินให้ลูกดูแลแม่ที่แก่
“ในส่วนของแม่เขาเรื่องที่ติ๊กจะมาพบลูกผมไม่ได้กีดกันแต่ผมไม่ว่างจริงๆ ชีวิตต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ เริ่มต้นใหม่ ผมต้องทำงานใช้หนี้ ต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งเก็บให้ลูกดูแลคุณแม่ที่แก่แล้ว ผมก็เลยมีความจำเป็นต้องให้ที่ปรึกษาทางกฎหมายประสานกับเขาว่าเราจะมีแนวทางที่จะมาพบลูกอย่างไร”
“ก็ต้องมาคุยกันครับเขาก็ประสานมาแล้วเดี๋ยวดูวันว่างที่ผมไม่ทำงานก็คงมีโอกาสมาเจอและคุยกันว่าแนวทางไหนที่เราจะสามารถทำหน้าที่เป็นพ่อและแม่เพื่อวีจิดีที่สุดครับผมสามารถเจอกับติ๊กได้ไม่ได้ติดใจอะไร (พอบอกได้ไหมว่าหนี้อะไร?)ตรงนี้ขอขออนุญาติไม่ตอบนะครับขอบคุณครับ (ไหว้)กับกำลังใจที่ให้ผมติ๊กวีจิและครอบครัวเราทุกๆคนนะครับ (ไหว้)”
ตัดสินใจเด็ดขาดไม่ขอกลับมาเป็นสามีภรรยากับ “ติ๊ก” อีกไม่ขอพูดถึงจะให้อภัยอีกฝ่ายกับเรื่องที่ผ่านมาได้หรือไม่
“คงไม่ได้ครับ (ตัดสินใจเด็ดขาดว่าไม่ได้?)ครับเพราะผมก็ได้แสดงเรื่องเอกสารที่ชัดเจนระบุไว้อยู่แล้วตั้งแต่ 20 มกราคม 2563 (ให้อภัยเขาในสิ่งที่ผิดพลาดได้ไหม?) ผมไม่พูดถึงอยู่ครับเรื่องครอบครัวก็ให้ทนายเป็นคนประสานครับเพราะอย่างที่ผมบอกว่าผมเองก็ไม่ว่างถ่ายละครและทำงานเกือบทุกวันที่ประสานคือเป็นการตกลงกันเฉยๆไม่ได้เป็นเรื่องคดีความประสานลักษณะเรื่องของการเจอลูกผมว่างวันไหนยังไง”
รอคุยกับ “ติ๊ก” เพื่อแบ่งเวลาช่วยกันเลี้ยงลูก
“ตรงนี้ยังหาข้อสรุปกันไม่ได้ติ๊กประสานมาเราก็ระบุวันแวลาที่เราจะมาเจอกันได้แล้วเดี๋ยวเราก็ค่อยมาคุยกันว่าลักษณะที่จะมาดูลูกเป็นยังไงตอนนี้ติ๊กกับผมผมก็โพสต์ลงไอจีสตอรี่ไปแล้ว่าได้มีการคุยกับผมก็บอกให้เจอลูกได้แต่ก็ให้ติดต่อทางพี่ที่ให้ประสานมาแต่ยังไม่ได้เจอครับผมยังไม่มีเวลาเจอครับ”
ไม่ขอเรียกตัวเองว่าพ่อเลี้ยงเดี่ยวแต่ขอเป็นซามึไรพ่อลูกอ่อนดีกว่า
“(หัวเราะ) ใช้คำว่าซามูไรพ่อลูกอ่อนดีกว่าครับคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวน่าจะใช้กันเยอะแล้วถามว่าเหนื่อยไหมทุกสิ่งทุกอย่างมันจะต้องไม่ใช่ความรู้สึกนึกคิดของเรามันจะต้องเป็นสิ่งที่เอาเขาเป็นที่ตั้งที่สำคัญที่สุด เพราะฉะนั้นเราต้องปรับตามเขาเราต้องทำเพื่อเขาผมต้องเลี้ยงวีจิจนโตครับตั้งแต่เริ่มมีเขาเราก็มีสัญชาตญาณของความเป็นพ่อครับ”