“มิ้นท์ กุญช์ภัสส์” อดีตสมาชิกวง Tiny-G ของเกาหลีใต้ สวนกระเศรษฐกิจ สู้ภัยโควิด เปิดแคสติ้งนักแสดงหน้าใหม่เตรียมเปิดตัวซีรีส์ 2 เรื่องรวด บอกอยากปั้นเด็กๆ ในค่าย และให้โอกาสน้องๆ หน้าใหม่ให้ได้เป็นนักแสดง บอกทุ่มสุดตัว เพราะ 2 เรื่องก็น่าจะหมดงบไปร่วม 20 ล้านบาท แถมตอนนี้รายได้จากงานที่เกาหลีที่เคยดีลไว้ก็พับหมด เสียหายมูลค่ารวมเกินหลัก 10 ล้านบาท
เหล่าสาวกศิลปินฝั่งเกาหลีคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับ “มิ้นท์ กุญช์ภัสส์ พรปวีณ์วรกุล” อดีตสมาชิกวง Tiny-G ซึ่งหลังจากยุบวง ก็ยังเป็นครูสอนเต้นที่เกาหลี และมีผลงานอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมิ้นท์ก็ได้กลับมาเปิดบริษัท M Flow Entertainment ที่มีทั้งค่ายเพลง อคาเดมี่ และผลิตซีรีส์ด้วย และล่าสุด มิ้นท์ก็ตัดสินใจควักทุนก้อนใหญ่แคสติ้งนักแสดงเพื่อเตรียมตัวทำซีรีส์ 2 เรื่อง 2 วัย
“ด้วยความที่เราเป็นเหมือนกึ่งอคาเดมี่และบริษัทผลิตละครมา 1 - 2 ปีแล้วค่ะ แล้วเด็กๆ น้องๆ ก็ถามมาตลอดว่า เมื่อไหร่จะเปิด และพอเราเริ่มเปิดโซนอคาเดมีได้ และทางรัฐบาลก็เปิดให้ได้ทำอะไรได้มากขึ้น ก็เลยลองเปิดแคสติ้งดู สำหรับสองเรื่องนี้จะเป็นพาร์ตเด็กและพาร์ตผู้ใหญ่ค่ะ แต่คนละเรื่องกันเลยนะคะ ในส่วนของเด็กเล็กก็จะเป็นเกี่ยวกับแนวแฟนตาซีสนุกสนานค่ะ ชื่อว่า Fantastic Junior อัศจรรย์พันธุ์เล็กค่ะ”
“ส่วนพาร์ตผู้ใหญ่ก็จะเป็นซีรีส์วายเลยค่ะเรื่อง Loving You ค่ะ ซึ่งเรื่องที่แล้วเราก็เป็นซีรีส์วัยรุ่นเหมือนกัน อันนั้นก็กึ่งๆ วาย แต่คราวนี้เราจะทำวายเต็มตัวเลย ก็จะมีความกุ๊กกิ๊กน่ารักสไตล์วายที่ทุกคนชอบดูกัน และจะเพิ่มคอมเมดี้เข้าไปค่ะ ก็จะเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ สำหรับเรื่องนี้เราก็จะมีทั้งนักแสดงที่คุ้นหน้าคุ้นตากัน และแคสติ้งนักแสดงใหม่เลยค่ะ ส่วนหนึ่งก็จะมาจากอคาเดมี่ของเราด้วยค่ะ
บอก 2 เรื่องงบลงทุนมีถึง 20 ล้านบาทแน่นอน
“สำหรับฉากเลิฟซีนก็คงดูไม่ให้เยอะเกินไปหรือน้อยเกินไป ก็เอาให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องค่ะ คือ เราเองเวลาดูซีรีส์วายเรื่องอื่นบางฉากหนูก็ยังรู้สึกว่า มันมากเกินไป เรื่องของเราก็เลยพยายามปรับหาตรงกลางที่คนดูได้หลายๆ วัยด้วย ก็อาจจะไม่ได้หวือหวามาก
งบประมาณวางไว้ 2 เรื่องก็เยอะอยู่ค่ะ ในส่วนเรื่องของเด็กๆ ก็อาจจะหนักหน่อย เพราะมีซีจีด้วย น่าจะมีถึงหลัก 20 ล้าน อาจจะได้ แต่เราก็ดูเป็นตอนที่ไม่ได้ยาวมาก อาจจะมี 5-6 ตอนจบประมาณนี้ค่ะ ยังไม่ได้วางกำหนดฉายค่ะ ต้องแล้วแต่การถ่ายทำว่าจะได้เมื่อไหร่ แต่ก็คงจะฉายทางแพลตฟอร์มออนไลน์เหมือนเดิมค่ะ คิดว่าปีหน้าน่าจะได้ชมกันค่ะ”
เผยแพลนงานที่เกาหลีที่วางไว้ต้องเลื่อนแบบไม่มีกำหนด
“ตอนนี้มันติดที่ว่าเรากลับมาไทยแล้วยังกลับไปไม่ได้ (หัวเราะ) แต่ในเกาหลีเขาก็ใช้ชีวิตกันปกตินะคะ แต่ก็เห็นว่ามีกลับมาระบาดรอบสองอีก จริงๆ ตอนแรกแพลนว่า เดือนตุลาคมจะกลับไป เพราะเห็นว่าจะเปิดให้บินตอนนั้น แต่หนูคิดว่าน่าจะยังอีกสักพักนึง จริงๆ มีแพลนต้องกลับไปทำงานตั้งแต่ต้นปีแล้วค่ะ เพราะยังมีงานเพลงที่ค้างอยู่ และมีงานเพลงเดี่ยวของตัวเองด้วย มีจะไปฟีชเจอรื่งให้กับเพื่อนๆ ด้วย ก็ต้องพักหมดเลยค่ะ เพราะแค่จะออกไปยังไม่ได้เลย”
“คือไปก็ต้องกักตัวอีก 14 วัน ถ้าไปถึงแล้วทำงานอัดๆ ให้เขาเลยแล้วกลับมา พอถึงช่วงโปรโมตเราค่อยบินไปใหม่ แต่นี่คือไปถึงกักตัว ทำงานเสร็จกลับมาไทยก็ต้องกักตัวอีก ก็เลยคิดว่าอาจจะต้องเบรกไปก่อน เพราะแค่กักตัวก็เสียเวลาไปเกือบเดือนแล้ว และเราก็ไม่รู้ว่าเราจะมีภูมิต้านทานขนาดไหน ไม่ใช่ไปแล้วเอาเชื้อกลับมาให้คนอื่นอีก ก็จะเดือดร้อนกันทุกคน”
บอกมูลค่าความเสียหายเกินหลัก 10 ล้านบาท
“ถ้าคิดเป็นมูลค่าก็เสียหายเยอะเหมือนกันค่ะ เกินหลัก 10 ล้านแน่ๆ แล้วหนูเพิ่งมาเปิดสตูฯ ใหม่ที่นี่ด้วย เปิดไม่นานก็เจอโควิดเลย ทุกคนต้องอยู่แต่บ้าน แต่ก็ไม่เป็นไร มันคือความปลอดภัยของทุกๆ คนด้วย แล้วเราก็เป็นอคาเดมีด้วย คนก็จะเยอะ ก็ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า ในอนาคตมันยังหาได้อีก แต่ถ้าดันทุรังเปิดไปแล้วให้สุขภาพเราแย่ ซึ่งถ้ากลับไปก็คงต้องคุยกับเอเยนซีอีกทีค่ะ เพราะมันเลยแผนที่จะทำไปนานมากแล้ว เพราะหนูก็ติดถ่ายละครเรื่อง ทางเสือผ่าน กับช่อง 7 ด้วย ก็ทำให้ไม่ได้ไปแล้วเกือบปี พอถ่ายเสร็จกำลังจะไปก็มาติดช่วงโควิดอีก จริงๆ ตั้งใจจะไปตั้ง ม.ค.- ก.พ. ก็เลื่อนมาจนเกือบจะปีอีกแล้ว ก็คงต้องคุยกันใหม่อีกทีค่ะ”
“ตอนนี้ก็แค่ห่วงตรงที่ว่า ถ้าเราไม่ได้ออกอะไรมานานๆ คนอาจจะลืมเรา เขาก็อาจจะไปให้ความสนใจกับคนอื่นแทน แต่ความปลอดภัยของเราก็ต้องมาก่อนค่ะ (หัวเราะ) และตอนนี้มิ้นท์ก็ออกมาทำคนเดียวแล้ว และที่บริษัทใหม่ที่เกาหลีเขาก็ฟรี ยังไงก็ได้ ก็ต่อกันมาเรื่อยๆ ค่ะ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ตอนนี้ละครทางเสือผ่านก็ถ่ายเสร็จหมดแล้ว ยังไม่มีเรื่องอื่นต่อ เพราะคิดไว้ว่าถ่ายเสร็จจะบินไปเกาหลีเลย แต่คราวนี้แผนมันเปลี่ยนไปหมดเลย ก็ปรับหมดเลยค่ะ”