ผ่านเข้ารอบ Audition 50 คน บนเวทีการประกวด “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020” ตามคาดสำหรับผู้เข้าประกวดหมายเลข 9 อย่าง “พรฟ้า ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์” หนึ่งในสาวงามที่ถูกแฟนนางงามจับตาเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่มีข่าวว่าเจ้าตัวได้ตัดสินใจเข้าร่วมการประกวดในครั้งนี้
ทั้งนี้ เหตุผลหลักๆ ก็มาจากการที่สาววัย 27 ปีคนนี้ เคยผ่านการประกวดเวทีใหญ่ ทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงการคว้าตำแหน่งต่างๆ มาแล้วนั่นเอง
สำหรับ “พรฟ้า ปุณิกา” หรือ “พอลลี่” นั้น เจ้าตัวเป็นที่รู้จักขึ้นมาจากการเข้าร่วมประกวด “มิสเอิร์ธไทยแลนด์” ในปี 2013 และคว้ามงกุฎชนะเลิศมาครอง
จากนั้นเธอได้เป็นตัวแทนสาวไทยเข้าร่วมประกวด “มิสเอิร์ธ 2013” ที่จัดที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยคว้าตำแหน่ง Miss Earth Water และอีกหลายรางวัลพิเศษกลับมา
ในปี 2014 ระหว่างที่กำลังจะสิ้นสุดการครองตำแหน่ง Miss Earth Water ก็มีข่าวชวนช็อกว่าเจ้าตัวได้ถูกทางกองประกวดสั่งปลดจากตำแหน่งดังกล่าว ส่วนสาเหตุก็ว่ากันว่าเป็นเพราะเธอไปเข้าร่วมการประกวดเวทีมิสอินเตอร์เนชันแนล 2014 ที่ญี่ปุ่น ซึ่งเวทีนี้เธอก็คว้าเอาตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 2 รวมถึงรางวัลเหรียญเงินชุดประจำชาติยอดเยี่ยมมาครองได้อีกต่างหาก
จากเวทีนางงาม-นางแบบ ปี 2017-2018 “พรฟ้า” มีโอกาสได้เป็นนักแสดงในซีรีส์ “เสือ ชะนี เก้ง” แต่แล้วช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2558 ก็เกิดข่าวฉาวขึ้น
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงที่กำลังมั่วยาเสพติดภายในห้องเช่าย่านถนนประเสริฐมนูกิจ โดยผู้ถูกจับกุมนั้น แบ่งเป็นชาย 6 คน หญิง 5 คน หนึ่งในนั้นก็คือเธอนั่นเอง
หลังเกิดเรื่องขึ้นทางด้านของนางงามชื่อดัง เลือกที่จะไม่ออกมาแก้ข่าวแต่อย่างใด ก่อนชื่อของเธอจะค่อยๆ เงียบหายไป ซึ่งพลันที่เจ้าตัวได้ตัดสินใจเข้าร่วมการประกวด “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020” และผ่านเข้ารอบได้ จึงมีแฟนนางงามหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าจะเป็นการผิดกติกาของกองประกวดที่ระบุไว้ชัดเจนว่า ผู้เข้าประกวดจะต้องไม่มีประวัติต้องคดีใดๆ มาก่อนหรือไม่?
เรื่องนี้ทำเอาทางด้านของ “ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” ผู้บริหารจาก TPN และผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวดมิสยูนิเวิร์ส ต้องออกมาเคลียร์ ด้วยการพาเจ้าตัวมานั่งคุยในรายการ “จริงเหรอ ? แม่ปุ้ยเพิ่งรู้” ผ่านช่องยูทูบเมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา
โดยในคลิปทางด้านของ “พรฟ้า” ได้ระบุว่า การถูกจับกุมในครั้งนั้น ตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับเสพยาเสพติดเลย แต่ที่ไปอยู่ในห้องดังกล่าว ก็เพราะนำเค้กไปเซอร์ไพรส์เพื่อน พร้อมกันนี้ เธอก็ได้นำเอาหลักฐานซึ่งเป็นเอกสารจากฝ่ายทะเบียนประวัติอาชญากรมายืนยันว่า ที่ผ่านมาชื่อของเธอไม่เคยถูกดำเนินคดีหรือมีประวัติใดๆ เลย
แม้จะเป็นที่น่าสังเกตว่า สิ่งที่เธอเล่าในครั้งนี้จะแตกต่างไปจากที่เธอเคยเล่าระหว่างไปออกรายการ “แรงชัดจัดเต็ม” ทางช่อง BRIGHT TV เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 58 ที่มี “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” เป็นผู้ดำเนินรายการสักเท่าไหร่ ทั้งเรื่องของที่เกิดเหตุที่เธอเคยบอกว่าเป็นสถานบันเทิง แต่ล่าสุดกลับระบุว่าเป็นโรงแรม รวมถึงการที่เธอเคยบอกไว้ว่าตัวเองตั้งใจมากที่จะเอาเค้กไปเซอร์ไพรส์วันเกิดเพื่อน แต่ครั้งนี้กลับบอกว่ากำลังจะเข้านอนแล้วแต่เพื่อนสนิทมาชวนเลยต้องไป ฯลฯ
แต่กระนั้นแฟนนางามหลายคนก็พากันให้กำลังใจและอวยพรให้เธอประสบความสำเร็จกับการประกวดเวทีนี้ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเวทีใหญ่เวทีท้ายๆ ของเธอแล้วนั่นเอง