“ลีเดีย” ตกใจเห็นภาพ “ดีแลน” พลาดทำ “เดมี่” ตกน้ำ แต่ยังโชคดีที่ “แมทธิว” คว้าทัน ต่อไปจะระวัง เผยสามีสะกิดขอลูกคนที่ 3 ตลอดแต่ตนคงไม่ไหวแล้ว โอดเหนื่อยกว่าจะกู้ร่างคืนมาได้ ขอบคุณ “หยาดพิรุณ” ที่ทำให้เพลงกลับมาดัง ฟุ้งเป็นเพลงที่ทำให้มีวันนี้
ทำเอาหลายคนตกใจที่เห็นรายการทางยูทิวบ์ของครอบครัว “ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ - แมทธิว ดีน” เป็นช็อตที่ลูกชายคนโต “ดีแลน” อุ้มน้องสาวตัวน้อย “เดมี่” ระหว่างเล่นน้ำแล้วพลาดหลุดปล่อยมือ ทำให้เดมี่จมลงน้ำ ซึ่งสาวลีเดียเผยถึงเรื่องนี้ในงานแถลงข่าว 40 ปีบำรุงราษฎร์กับก้าวย่างใหม่หลังโควิด-19 ณ โถงรับรอง อาคารโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ถ.สุขุมวิท ซอย 3 ยอมรับว่าตกใจ ต่อไปต้องคอยจับตาดูไม่ให้คลาดสายตา
“ตอนนั้นแม่ไม่อยู่ (หัวเราะ) วันนั้นพ่อพาไปเล่นน้ำค่ะ ดีแลนปกติเขาก็จะอุ้มน้องอยู่แล้วล่ะ แต่ว่าบังเอิญวันนั้นอุ้มในสระน้ำ เขาก็วางน้อง คงคิดว่าน้องจะนั่งหรือจะว่ายได้ เพราะตัวเขาเองก็ว่ายได้ประมาณนึง แล้วเดมี่ก็ลงไปเลย (หัวเราะ) เดียมาเห็นตอนเป็นคลิป มานั่งตัดต่อถึงได้เห็นว่า อ้าว ลูกจมลงไปในน้ำ แต่พ่อเขาก็ไว และดีที่เดมี่เขาไม่หายใจเข้าไปตอนลงไปในน้ำ ก็โอเค ที่พี่แมทมีสติมาก แล้วไม่ดุดีแลน คือพี่แมทเป็นคนใจเย็นนะคะ และเขาก็จะมีวิธีการเลี้ยงลูกในสไตล์เขา เขาเชื่อว่าบางทีการทำโทษ การดุเยอะไปอาจจะสู้การคุยด้วยเหตุผล อธิบายอาจจะเวิร์กกว่า แต่เขาก็หน้าเหวอๆ เหมือนกัน (หัวเราะ) เพราะน้องก็เหมือนจะร้องไห้ แต่ก็ดีที่เดมี่ไม่สำลักน้ำ
ถามว่าได้สอนน้องดีแลนเพิ่มไหมเรื่องการดูแลน้อง พอเห็นครั้งนั้นแล้วก็ไม่ปล่อยให้พาน้องลงน้ำแล้วค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ ก็ต้องระวังตลอดอยู่แล้วล่ะค่ะ เพราะดีแลนโตมาหน่อย แต่ก็ยังไม่ถึงกับโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ ก็อย่าให้คลาดสายตาค่ะ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ก็ต้องคอยให้เขาอยู่ในสายตาเราตลอดค่ะ สำหรับเด็กเรื่องแบบนี้ก็มีเรื่อยๆ อยู่แล้วค่ะ เดมี่ล่าสุดก็นั่งรถกอล์ฟ ดีใจตื่นเต้น ดิ้นๆ ปากกระแทกพวงมาลัย ร้องไห้ เลือดออก ก็จะมีเรื่องราวแบบนี้ตลอดเวลาอยู่แล้วค่ะ
แต่ความเป็นพ่อเป็นแม่พอเห็นลูกร้องด้วยความเจ็บปวดเราก็สงสารเนอะ เราก็นึกถึงเราตอนเด็กๆ แผลก็เต็มตัวเหมือนกัน มันก็เป็นเรื่องปกติ แต่พยายามให้เขาอยู่ในสายตาเรา ไม่ให้อุบัติเหตุที่มันซีเรียสจริงๆ เกิดขึ้น อย่างวันก่อนดีแลนก็สะดุดเท้าตัวเองล้มปากเจ่อออกมาเลย ก็เป็นเรื่องปกติค่ะ เราไม่ได้เลี้ยงแบบไข่ในหินค่ะ ไม่ขนาดนั้นค่ะ มันเป็นธรรมชาติของเด็กค่ะ”
บอก “แมทธิว” ยังอยากมีคนที่สามอยู่ตลอดแต่ตนก็ไม่ไหวแล้ว
“โอ้ย คนนั้นตลอดเวลาอยากได้คนที่สาม แต่ไม่ไหวค่ะ (หัวเราะ) เขาก็บอกว่าไวัถามใหม่ ภายในอีก 2-3 ปี เขาก็พูดของเขาไปเรื่อย แต่ ณ ตอนนี้ไม่ไหวแล้วค่ะ (หัวเราะ) คือเหนื่อย และคิดว่าตอนนี้สองคนกำลังดี เพราะดีแลนก็ไปกับพ่อได้ เดียก็ดูเดมี่ได้ คนละคน ก็รู้สึกว่าครบแล้วด้วยชายหญิง ก็รู้สึกว่าเลี้ยงเขาอย่างมีคุณภาพได้ แต่ถ้ามีเยอะๆ 3-4 คนอย่างที่เขาอยากมี เดียรู้สึกว่าร่างกายไม่ไหว (หัวเราะ) อีกอย่างเราจะแบ่งความรักยังไง เลี้ยงยังไงให้เขาโตขึ้นมาเป็นคนที่มีคุณภาพ
เขาก็สะกิดออกสื่อหลายครั้ง ตลอดเวลา ออกรายการไหนก็สะกิด บางทีเราก็ไม่รู้ว่าเป็นมุกหรือเปล่าหรือว่าซีเรียส คือเขาก็อยากมีพี่น้องให้ดีแลนกับเดมี่หลายๆ คน เพราะเขาเป็นลูกคนเดียว ตอนแรกเขาบอกอยากมี 4 คน เดียก็บอกว่าโนเวย์ เขาบอกงั้นขอ 3 เดียก็บอกโนเวย์ (หัวเราะ) เขาจะใช้ลูกเป็นสื่อกลางให้มาบอกแม่อีกที โอ้ ก๊อด (หัวเราะ) คือตอนนี้ยังค่ะ เพราะดีแลนเขาก็ยังไม่ได้ร้องว่าอยากจะได้น้องเพิ่ม ก็ยังโอเคอยู่ค่ะ ถามว่าถ้าน้องๆ โตแล้วจะมีเปลี่ยนความคิดไหม ตอนนั้นไม่รู้ร่างจะไหวอยู่หรือเปล่า (หัวเราะ) ตอนนี้ยังกู้กลับมาไม่ 100% เลยค่ะ กว่าจะออกกำลังกายกลับมาได้นี่เหนื่อยมาก คือก่อนหน้านี้ก็คิดว่าสองคนพอแล้วค่ะ”
เผยดีใจ “หยาดพิรุณ” ทำให้เพลง “ว่างแล้วช่วยโทร.กลับ” กลับมาฮิตอีกครั้ง ลั่นเป็นเพลงที่ทำให้ตนมีวันนี้
“ต้องขอบคุณหยาดนะ เพราะว่าเพลงนี้ตั้งแต่ปี 2005 นี่ 2020 แล้ว คืออยู่ๆ เขาเอามาร้องใหม่ และกลายเป็นว่าเพลงนี้ร้องทุกที่ คือดีเลยแหละ เราก็ได้มีโอกาสไปฟีเจอร์ริ่งกันและทำคอนเทนต์สนุกๆ ด้วยกัน ก็ได้คุยกับหยาดค่ะว่าเราจะทำคอนเทนต์อะไรดี เขาก็บอกว่าทำเต็มที่เลย ก็เลยบอกให้เขามาเป็นลุคในเอ็มวีเขา เราก็มาในลุคเอ็มวีเรามาเจอกัน จริงๆ เพลงนี้เป็นเพลงที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ร้องนะ แต่ก็รู้สึกว่าดีใจที่ได้ฟังเพลงนี้ในหลายๆ ที่ที่ไป คนก็ส่งคลิปต่างๆ มาให้ ก็ชื่นใจ รู้สึกดีนะที่เอาเพลงนี้กลับมาใช้งานได้ใหม่ค่ะ
หลายคนก็แซวว่าเป็นเพลงของหยาดไปแล้ว ก็ต้องยกให้เขานะ เพราะเขาเป็นคนที่ครีเอตมาก แต่ละอย่าง แต่ละมุกที่เขาเอามาทำใหม่คือดีมาก คิดได้ยังไง สุดยอดค่ะ ทางอาร์เอสมีเหมือนติดแฮชแท็กเหมือนจะได้กลับไปร่วมงานกัน ไม่รู้ว่าเขาทำแคมเปญอะไรหรือเปล่า แต่เดียก็ว่าเหมาะนะ เพราะเดียก็โตมากับอาร์เอส เราอยู่ตั้งแต่อายุ 17-18 จนตอนนี้ลูกสองแล้ว ก็เป็นเพลงที่ทำให้เรามีทุกวันนี้ แต่ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ เดี๋ยวต้องลองดู”