จากนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตี ที่มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดูแลและแก้ปัญหา “แม่เลี้ยงเดี่ยว” โดยระบุว่า ปัจจุบันปัญหาแม่เลี้ยงเดี่ยวมีมากขึ้น การแก้ปัญหาต้องบูรณาการทำงาน ระหว่างกระทรวงมหาดไทย และกระทรวง พม.
โดยให้ทางกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบแม่เลี้ยงเดี่ยวในแต่ละตำบลว่ามีจำนวนเท่าไร ต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้าง เพื่อส่งความช่วยเหลือไปได้อย่างทั่วถึง และรวดเร็วที่สุด ตามนโยบายของรัฐบาล "เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" ที่จะให้ความช่วยเหลือ "แม่เลี้ยงเดี่ยว" จนกว่าจะสามารถดูแลตนเองและลูกได้
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ได้รับทราบปัญหาแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่วัยใส รวมถึงครอบครัวแหว่งกลาง คือครอบครัวที่มีสมาชิกรุ่นปู่-ย่า แล้วข้ามไปที่รุ่นหลาน โดยขาดสมาชิกรุ่นพ่อ-แม่ ซึ่งก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีเกือบ 5 แสนครอบครัว แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดปัญหาเพิ่มมากขึ้นอีก 50% หรือประมาณ 7 แสนครอบครัว
ยกตัวอย่างปัญหาที่เกิดขึ้นคือ อายุเพียง 14 ปีตั้งครรภ์ต้องจากโรงเรียนกลางคัน ทั้งต้องออกจากครอบครัวเพราะทำให้พ่อแม่อับอาย แฟนทิ้ง สุดท้ายมาพึ่งบ้านพักฉุกเฉินฝากเลี้ยงลูก ปัญหาเช่นนี้จำเป็นต้องบูรณาการทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดแก้ปัญหาอย่างครบวงจร ทั้งเรื่องการศึกษา การฝึกอาชีพ การหาแหล่งงาน
เพื่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ในระยะยาว กระทรวง พม. มีนโยบายเปิด “คลินิกแม่เลี้ยงเดี่ยว” ในทุกภาค และขยายผลในทุกจังหวัด โดยประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแก้ปัญหาแบบครบวงจร โดยจะจัดทำข้อมูลรายชื่อแม่เลี้ยงเดี่ยวส่งให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) ประสานให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยดูแลในพื้นที่ต่อไป