“เนม ปราการ” คึก อยากมีลูก 4 คน แต่ตอนนี้ปล่อยให้ภรรยาเอ็นจอยชีวิตไปก่อน ปลื้มปริ่มพัฒนาการ “น้องเรน” เหมือนได้รางวัลชีวิต รับเพิ่งควงเมียจดทะเบียนช่วงโควิด แสดงความจริงใจ รักและจะไม่ทิ้ง เผยช่วงโควิดได้เรียนรู้ ต่างฝ่ายต้องมีพื้นที่ส่วนตัว
โดนผลกระทบจังๆ เพราะโควิด สำหรับ “เนม ปราการ ไรวา” หรือ “เนม Getsunova” ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าแม้งานหายหมดเกลี้ยง แต่ยังเป็นความโชคดี ที่อย่างน้อยทำให้ได้มีเวลาอยู่กับลูกสาวเต็มที่ เห็นพัฒนาการลูก จนรู้สึกว่าเป็นรางวัลชีวิต
“น้องเรนตอนนี้เขาอายุประมาณ 1 ขวบ 4 เดือนแล้ว ช่วงที่ผ่านมาเนมก็ว่าง เป็น 3-4 เดือนที่ได้อยู่กับเขาเต็มที่ที่สุดเท่าที่เขาเกิดมาแล้ว ตอนนี้เริ่มพูด ก็พยายามสอนเขาพูดเป็นคำ เขาพูดพยางค์เดียว ชี้สัตว์ตัวไหนเขาได้หมดแล้ว ถ้าเป็นสัตว์สองพยางค์เขาจะพูดว่า สิง โต
ก็ถือว่าโชคดีมาก ตั้งแต่เขาเกิดเนมก็ทำงานกลางคืนตลอด เวลาไม่เจอเนมก็คิดถึงเขา ช่วงที่ผ่านมาก็ได้เห็นพัฒนาการเขาอย่างเต็มที่เลย รู้สึกมันเป็นความภาคภูมิใจอะไรบางอย่างที่เขาทำได้ อะไรที่เขาทำได้แล้วมันเป็นเรื่องใหม่ โอ้โห มันจะเหมือนเราได้รับรางวัลอะไรบางอย่าง มันสนุก ปลื้มปริ่ม นี่ก็เริ่มกลับมาทำงานแล้ว เริ่มมีงานต่างจังหวัด ก็เริ่มรู้สึกอยากจะพาเขาไปด้วยแล้ว คิดถึงเขาหนักกว่าเดิม ปกติที่ผ่านมาก็ติดลูกอยู่แล้ว”
อยากมีลูกสัก 4 คน แต่ไม่รีบ ภรรยาเพิ่งกลับมาสวย ไม่อยากให้ระบบแปรปรวน
“อยากจะมีสัก 4 คน(หัวเราะ) อยากมีทีมฟุตบอล จริงๆ แล้วเนมอยากมีอีกคนอยู่แล้ว ถ้ามีผู้ชายอีกคนก็ดี แต่ไม่รีบดีกว่า ภรรยาเขาบอกว่าเขาเพิ่งกลับมาสวยเหมือนเดิม ก็เลยไม่อยากจะไปทำให้ระบบเขาแปรปรวน เขาขอเอ็นจอยชีวิตแป๊บนึงก่อน
เขาก็โอเค ก็อยากมีลูกแบบให้เขามีเพื่อน เวลาเราไม่อยู่เขาก็จะมีพี่น้องที่ดูแลกันได้ตลอดไป ส่วนลูก 4 คนถ้ามีงานเยอะๆ รายได้เข้ามาเยอะๆ ช่วงโควิด-19 ธุรกิจก็กระทบไปหมด ถ้าผมไหวนะ ภรรยาผมน่าจะไหวอยู่แล้ว(หัวเราะ) ถ้ามีได้ก็อยากมีเยอะๆ เรื่องสุขภาพผมด้วย เรื่องความฟิตของผมเอง”
จดทะเบียน “ป้อ สารชา” ภรรยา อยากให้ใช้นามสกุลตน มั่นใจเลือกเป็นคู่ชีวิต รักและไม่ทิ้ง แสดงความจริงใจให้เมีย
“1 ปีพอดีที่เราแต่งงานกันมา เลยรู้สึกว่าอยากจะให้เขาได้เป็นครอบครัวเดียวกับผมจริงๆ ได้มีการดูฤกษ์ อยากให้เขาใช้นามสกุลเรา มันเป็นความรู้ที่ดี ที่จะได้เป็นครอบครัวเดียวกันที่เป็นครอบครัวของผมเอง มันก็เหมือนเป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิง ว่าเราพร้อมที่จะแชร์ทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเขา เราเห็นว่าเขาเป็นครอบครัวเดียวกันกับเรา มันก็เป็นเหมือนการให้เกียรติ เป็นการแสดงความรัก ความมั่นคงให้กับเขา ให้เขามั่นใจว่าเราจะไม่ทิ้งเขาไปไหน เรารักเขา เราเลือกคนนี้มาเป็นคู่ชีวิตเราจริงๆ
ที่ผ่านมาไม่มีคุยกันเรื่องนี้นะครับ คือผมเองคิดว่าถึงเวลาแล้ว ที่ผ่านมาไปเที่ยวไหนกันเขาก็จะใช้นามสกุลของเขามาโดยตลอด ตอนนี้ผมก็จะเอ๊ะเราแต่งงานกันแล้วนะ มีลูกแล้ว เราทำสิ่งนี้ให้กับเราทั้งหมดให้เป็นยูนิตเดียวกัน ภรรยาผมเขาก็ดีใจ อย่างที่บอกว่ามันเหมือนเป็นการแสดงความมั่นคง ความจริงใจให้กับสุภาพสตรีที่เขาอยู่กับเรา ฤกษ์จดทะเบียนก็เพิ่งดูครับ ตอนแต่งก็อยู่กันไปก่อน ก็ใช้ชีวิตด้วยกันจนผ่านมาปีนึงแล้ว ผมก็มีความคิดว่าอยากจะทำสิ่งนี้ให้เป็นเรื่องเป็นราว”
ของขวัญพิเศษคือได้อยู่ด้วยกันทุกวัน
“ของขวัญพิเศษก็คือการที่จะได้อยู่กับผมทุกวัน(หัวเราะ) ไม่หรอก มันก็ไม่ต้องมีอะไรมากมายหรอก เราอยู่ด้วยกัน เราเป็นเพื่อนกันรู้จักนิสัยใจคอกันอยู่แล้ว ของขวัญพิเศษก็คือผมอาจจะยอมให้เขาไปหาเพื่อนเขาบ้างแล้ว หรือเขาอาจจะยอมให้ผมไปเจอคนอื่นบ้าง เพราะช่วงโควิด-19 คืออยู่กัน 24 ชั่วโมง 2-3 คน ที่ผ่านมา ผมว่าชีวิตครอบครัวมันต้องมีความบาลานซ์อะไรบางอย่าง จะมาตัวติดกัน 24 ชั่วโมงมันคงเป็นไปไม่ได้ มันจะมีความอึดอัด สุดท้ายมันต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง ในการจะอยู่ร่วมกับใครสักคน มันต้องมีสเปซให้กันและกัน”
ช่วงโควิด-19 ได้เรียนรู้ว่าต่างคนต่างต้องมีพื้นที่ส่วนตัว
“ใช่ (หัวเราะ) เราเจอหน้ากันมันก็จะมีความหงุดหงิดกันอะไรก็ไม่รู้ เหมือนเห็นหน้ากันตลอดแล้วบางทีมันก็จะชวนทะเลาะ แต่การทะเลาะมันก็เป็นเรื่องปกติแหละ ไม่ได้จริงจัง รุนแรง ออกไปข้างนอกบ้างก็ได้นะ ไม่มีคอนเสิร์ตแต่ก็ออกไปเจอเพื่อนบ้างก็ได้ ออกไปเถอะ พอตอนนี้มีงานก็จะแบบ ไปเลย ไปเลย เดี๋ยวค่อยกลับมาเจอกัน มันก็ดี มันจะได้กลับมาคิดถึงกัน เพราะที่ผ่านมามันไม่ได้มีฟิวคิดถึงจังเลย อยู่ด้วยกันเยอัเกินไป แต่มันก็เป็นเรื่องดีนะ ไม่ใช่ไม่ดี”