“เข้ม” เล็งปีหน้าจับใบดำใบแดง บอกอยากมีประสบการณ์ชีวิตลูกผู้ชาย หลังถามเพื่อนที่ไปเป็นทหารแล้วบอกว่าได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ยิ่งทำให้ตนตื่นเต้น ส่วนเรื่องรักยังไม่มี กับ “ฐิสา” ได้แค่คู่จิ้นในจอ นอกจอไม่กล้ารีบเพราะอีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่
เข้ารับการผ่อนผันเกณฑ์ทหารเป็นครั้งที่ 3 แล้วสำหรับ “เข้ม หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล” เจ้าตัวเปิดใจถึงการผ่อนผันเกณฑ์ทหารที่งานรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์ “รักนะ ซุปซุป” ณ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน โรง 13 โดยเผยว่าหากปีหน้าไม่ติดอะไรก็สนใจลุ้นจับใบดำใบแดง เพื่อเป็นประสบการณ์ครั้งนึงในชีวิตลูกผู้ชาย
“ครั้งนี้ก็ถือว่าพิเศษกว่าครั้งก่อนๆ นะครับ เราจะมีแบบ New normal ในเรื่องของการรักษาระยะห่าง ด้วยจังหวัดบึงกาฬบ้านผม ยังไม่มีคนที่ติดโควิด-19 ปกติดูแลดีอยู่แล้ว ก็เลยดูแลดีขึ้นไปอีก ครั้งนี้ก็เป็นการผ่อนผันเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ปีหน้าก็รอดูอีกทีหนึ่งครับ ว่าเรายังติดช่วงเรียนอยู่ไหม เรายังมีงานที่เราต้องรับผิดชอบอยู่ไหม ก็อยากลองเสี่ยงจับใบดำใบแดงดูครับ ครั้งหนึ่งในชีวิตลูกผู้ชาย”
เล่าที่เขตตนมีคนสมัครใจเยอะ ฝันวัยเด็กอยากเป็นทหาร หากไม่ติดอะไรก็อยากลองเสี่ยงดวงครั้งนึงในชีวิต
“ปีนี้สมัครเยอะครับ ปีที่แล้วก็เยอะ แต่ปีนี้สมัคร 50 กว่าคนเลยครับ ถ้าเสี่ยงดูก็ยังไม่แน่ใจเลย ก็อยากลองดูสักครั้งหนึ่ง แต่ถ้าติดจริงๆ ถามว่าพร้อมไหม ก็ได้ครับ ถ้าเกิดว่าช่วงนั้นเรายังไม่มีงานที่ต้องรับผิดชอบอย่างที่บอก ถ้าการเรียนเคลียร์จบ รับปริญญาเรียบร้อย ถ้าติดก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ
ในวัยเด็กเพื่อนอยากเป็นทหาร เราก็อยากเป็นกับเพื่อน แต่นี่โตแล้ว ก็อยากลองเสี่ยวดวงดูครับ ว่าจะเป็นยังไง อยากได้รับบรรยากาศตรงนั้น เวลาคนเกณฑ์ทหารเป็นยังไง ครั้งหนึ่งในชีวิต”
หาข้อมูลเพื่อนๆ ที่ไปฝึกทหารมาแล้ว ทุกคนบอกได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างทำตนตื่นเต้น อยากเข้าไปสัมผัส
“เพื่อนผมวัยเดียวกันติดไปก็ค่อนข้างเยอะ บางคนเขาก็สมัคร เขาก็บอกว่ามันได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง เรื่องของการรับผิดชอบ การจัดสรรแบ่งเวลาให้ตัวเอง การออกกำลังกาย รับตัวเองเพิ่มขึ้น เราก็ตื่นเต้นด้วยเวลาฟังเพื่อนพูด ก็รอดูครับ ถ้าปีหน้าไม่ติดอะไร ก็จะลองเสี่ยงดูครับ
ปีนี้ผมยังเรียนด้วยครับ ตอนนี้ปี 4 แล้ว เหลืออีกเทอมหนึ่ง แล้วก็ในเรื่องของละครที่เรายังรับผิดชอบอยู่ ตอนมีรอออนแอร์อยู่ 1 เรื่องครับ แล้วก็มีอีกเรื่องที่เพิ่งเปิดกล้องถ่ายทำไป 3 คิว”
เผยตอนนี้มีไปเรียนที่มหาวิทยาลัยบ้าง ที่บ้านบ้าง สนใจต่อปริญญาโทด้านบริหาร
“เรียนที่บ้านก็มีครับ แต่ถ้าเกิดช่วงจันทร์-พุธ เรายังว่าง ก็มีเข้าไปมหาวิทยาลัยบ้างตามนโยบายครับ เทอมสุดท้ายแล้วจบมาเกรดต้องสวยครับ (หัวเราะ) คือผมเรียนนิเทศศาสตร์สาขาภาพยนตร์ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโปรเจกต์ที่เราทำส่งมหาวิทยาลัย เราก็ค่อนข้างจะเข้าใจในการเรียนด้วย ไม่ทิ้ง ติดตามงานจากเพื่อนจากอาจารย์ด้วย
เข้มอยากต่อปริญญาโทด้านบริหารครับ ใจอยากเข้าไปศึกษาดู เพราะเรายังไม่เก่งเรื่องการบริหาร เลยอยากลงเรียนต่อโทบริหารครับ คือถ้าจบแล้วก็ดูงานอีกที ถ้าเกิดช่วงงานมันซาๆ ก็อยากเรียนเพิ่มไปเลยครับ”
ส่วนเรื่องหัวใจ ยังว่างเพราะขี้อาย จีบสาวไม่เป็น
“ยังไม่มีเลย ทำยังไงดี (หัวเราะเขิน) ผมแพ้คนสวย แต่ไม่กล้าจีบ มันเป็นอย่างนี้ซะมากกว่าครับ เจอใครสวยผมปลื้มนะ ผมชอบมองคนสวย แต่ไม่กล้า ผมจีบผู้หญิงไม่เป็น ขี้อายครับในเรื่องผู้หญิง แต่ถ้าเรื่องงานเรื่องการแซว การพูดเล่นอะไรนี่ทำได้ แต่พอไปจีบจริงๆ ผมไม่รู้วิธีการจีบ ว่าจีบยังไง แต่ถ้าดูแล ผมดูแลได้ ถ้าเกิดมาแล้วคุยกัน ถูกคอกัน ตกลงกันว่าเราเป็นแฟนกันไหม ผมสามารถดูแลได้ แต่ถ้าให้ค่อยๆ จีบ ซื้อของ พาไปกินโน่นกินนี่ ผมทำไม่เป็น ไม่เคยเลย ผมเกร็งเวลาเจอคนที่ผมชอบด้วย”
กับคู่จิ้นสาว “ฐิสา วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร” เป็นไปได้ยาก ไม่กล้าหยอดเพราะอีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่
“(หัวเราะ) มันเป็นไปได้ยาก แต่มักจะบอกเสมอ คือแต่ก่อนพอโดนถามว่าสเปกที่ชอบเป็นแบบไหน เราก็จะบอกว่าผมชอบผู้หญิงสูง ขาว ก็ยังไม่มีสเปกที่เราสามารถบอกได้เลยว่าเป็นรูปแบบไหน จนกระทั่งได้มาเล่นละครกับพี่ฐิสา เราก็รู้แล้วว่ารูปร่างประมาณนี้ ขาวก็ประมาณนี้ ก็เลยว่าพี่ฐิสา อยู่ในรูปแบบที่เราสามารถทุกคนได้ว่าสเปกเราเป็นแบบไหน
ไม่กล้าหยอดครับ เขาเป็นรุ่นพี่ด้วย บางทีเรายังเด็ก มันอาจจะคุยไปคนละทางกัน แต่ผมก็ชอบคนโตกว่า แต่จริงๆ ในวัยเดียวกัน แต่ในความคิดโตกว่าก็ได้”
ยังไม่โฟกัสรัก แม่อยากให้รับผิดชอบครอบครัวก่อน
“ยังครับ คุณแม่บอกยัง คือคุณแม่ไม่เชิงหวง แต่เรามีภาระที่ต้องรับผิดชอบ ในเรื่องของบ้าน ในส่วนที่เราต้องรับผิดชอบทั้งที่บ้านคุณตาคุณยายคุณแม่ ต้องมีอะไรที่เราอยากทำมากกว่าจุดตรงนี้ จริงๆ ถ้าผมชอบอะไร แม่ก็ชอบด้วย แต่ขอให้เป็นคนที่มั่นใจแล้วจริงๆ ว่าเราจะคบกับคนนี้จริงๆ ถึงจะพามาเจอคุณแม่ครับ แม่ไม่ดุครับ แม่น่ารัก ทำกับอร่อยด้วย ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่เป็นผู้หญิงที่น่ารัก นิสัยน่ารัก เข้ามาหาคุณแม่ คุณแม่ก็ทำกับข้าวให้กิน รับรองได้เลยว่าติดใจฝีมือแม่ผมแน่นอน
คุณแม่ก็บอกว่าดูดีๆ ไม่อยากให้แบบว่าวันนี้เจอคนนี้มาสวัสดี แล้ววันต่อไปก็พาคนโน้นคนนี้มาอีก สวัสดีบ่อยๆ เดี๋ยวแม่เหนื่อย ก็เลยบอกว่าถ้ามั่นใจคนไหนก็พามาเจอกัน มากินข้าวกันครับ”