xs
xsm
sm
md
lg

“มิว” โต้เสิร์ฟจิ้นเกินงามส่ออนาจาร ลั่นเห็นแล้วยังกลัวตัวเอง ต่อไปจะระวังคอนเทนต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“มิว ศุภศิษฏ์” แจงดรามาเซอร์วิสแฟนคลับจนเกินงาม ยันตอนถ่ายทำไม่มีท่าล่อแหลม หรือเจตนาสื่อไปทางอนาจาร มองเป็นเรื่องของรสนิยม แต่ต่อไปจะระวังคอนเทนต์ และขอความร่วมมือทุกฝ่าย คุยกันให้มากขึ้นถึงความเหมาะสม เผยเตรียมปล่อยซิงเกิลเดี่ยว พร้อมเอ็มวี 1 ส.ค. นี้

เป็นอีกหนึ่งหนุ่มจากซีรีส์วาย ที่กำลังโด่งดังเป็นอย่างมากในขณะนี้ สำหรับหนุ่ม “มิว ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์” และแน่นอนว่ายิ่งดังมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็เป็นประเด็นไปซะหมด

วันนี้ได้เจอหนุ่มมิว ในฐานะแอมบาสเดอร์ คนล่าสุด ของ “สเก็ตเชอร์ส” ในงานเปิดร้าน Skechers Superstore Shop ใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ เทสโก้โลตัส เลียบทางด่วน รามอินทรา เจ้าตัวก็ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดรามา เรื่องเซอร์วิสคู่จิ้น “กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์” เอาใจแฟนคลับจนเกินงาม ทำให้ดูส่อไปทางอนาจาร พร้อมอัปเดตถึงผลงานเพลงที่จะปล่อยเร็วๆ นี้ ให้ได้ฟังกันว่า

“ช่วงนี้ก็ค่อนข้างจะแน่นมากเลยครับตาราง กำลังจะปล่อยซิงเกิลแล้วด้วย ก็เดี๋ยวจะมี เพลส คอนเฟอเรนซ์ เป็นเวิลด์ไวลด์ วันที่ 1 สิงหาคมนี้ครับ ก็ฝากติดตามด้วยนะครับทุกคน”

“เป็นเพลงของตัวเองเลยครับ เนื้อหาของเพลง เราจะเล่นเรื่องความรัก ความสุข ประมาณนี้ครับ ก็อยากทำเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อตอบแทนแฟนๆ หรือว่าใครที่ต้องการกำลังใจครับ ตอนแรกตั้งใจจะทำเป็นดิจิทัลอัลบั้มครับ แต่จากกระแสตอบรับก็น่าจะเป็นฟิสิคอลแล้วครับ ไม่ใช่ดิจิทัล (หัวเราะ)”

ตื่นเต้นหนัก คอยเช็กกระแสตลอด หลังปล่อยทีเซอร์ 1 สิงหาคมนี้ ได้ชมได้ฟังกันแบบเต็มๆ แน่นอน
“ตื่นเต้นมากเลย เวลาผมปล่อยทีเซอร์แต่ละอัน ผมต้องคอยนั่งเช็กว่าทุกคนจะชอบไหม ก็ตื่นเต้นมาก เพราะเป็นครั้งแรกครับ เพลงชื่อว่า Season of you ครับ วันที่ 1 สิงหาคม จะได้ฟังเต็มเพลงแล้ว ก็จะปล่อยเอ็มวีด้วย แต่ก่อนหน้านั้นก็จะมีการปล่อยทีเซอร์ไล่มาเรื่อยๆ ก็สามารถอัปเดตตารางงานได้ทาง Mew Suppasit Studio เลยครับ เราโพสต์ตารางการปล่อยไว้เรียบร้อยแล้วครับ”

จัดสรรเวลาเป็นสัดส่วน มีตารางชีวิตว่าสิ่งไหนควรทำก่อนทำหลัง
“เอาจริงๆ ปกติผมจะจัดตารางอยู่แล้ว ว่าในแต่ละสัปดาห์ เรามีงานอะไรบ้าง แล้วสิ่งที่ต้องทำก่อนมีอะไรบ้าง อย่างเช่น งานในวันนี้ ก็จะมีการโชว์ เราโชว์จบตอนบ่ายไปแล้ว เดี๋ยวตอนเย็นก็จะมีอีก เราก็จะซ้อมโชว์นี้ก่อน แล้วไปเรื่อยๆ ก็จะมีการประชุมเอ็มวีด้วย แล้วพอถึงวันที่จะต้องถ่ายซีรีส์ก็จะต้องนั่งอ่านบท ทำบท ทำคาแรคเตอร์ครับ”

เดี๋ยวนี้ต้องละเอียดขึ้นเยอะในการเลือกรับงาน แต่เบาใจได้เพราะมีทีมงานช่วยสกรีนมาให้แล้ว
“ตอนนี้ต้องละเอียดเพิ่มขึ้นเยอะมาก แต่พอดีว่าผมมีทีมสตูฯ คอยจัดการให้ เรื่องพวกนี้ก็เบาใจไป เพราะว่าพี่ๆ เขาช่วยสกรีนมาให้เรียบร้อยแล้วครับ”

เผยทราบกระแสเรื่องคลิปซักผ้า ของผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มแล้ว ส่วนตัวยังไม่ได้ดูคลิป แต่ยืนยันว่าตอนถ่ายทำ ไม่มีความล่อแหลม ที่สื่อไปทางอนาจาร
“พอทราบกระแสครับ แต่ตัวผมยังไม่ได้ดูคลิปเลยครับ เลยไม่รู้ว่าเป็นยังไง แต่ว่าคอนเทนต์ที่เราถ่ายตอนนั้น ก็ไม่มีความล่อแหลมนะครับ ตอนที่เราถ่ายกัน

ตอนนั้นคือมันก็เป็นแค่การซักผ้าเฉยๆ ตามบรีฟคือเหมือนประมาณว่า เขาให้เราซักผ้ากัน แล้วคือทางนั้นเขาก็ให้เราโอบข้างหลังครับ แล้วของผมเล่นเกมชนะ เขาก็เลยให้รางวัลคือการที่สามารถสั่งอีกคนหนึ่งได้ ว่าให้อีกคนหลับตาซักผ้า แล้วก็หยุดซักผ้า อะไรประมาณนี้ แล้วพอมาตากลัฟ ทางนั้นเขาก็เลยบอกว่า พี่มิวก็ยอมน้องบ้างแล้วกัน ให้พี่มิวหลับตา แล้วให้น้องซักผ้าไป คือมันเป็นโจทย์ที่เขาให้มาครับ

แล้วตอนที่เรารับงานมา เรามีการสกรีนตัวบรีฟก่อน ว่าแต่ละเกมมันเหมาะสมหรือเปล่า แล้วถ้าเกมไหนไม่เหมาะสมเราก็จะเปลี่ยนให้ดูซอฟต์ขึ้น ให้ทุกคนสามารถดูได้”

บอกไม่ได้เอะใจฉุกคิดถึงเรื่องความเหมาะสมเพราะหลับตาอยู่ ยอมรับเห็นคลิปแล้วก็ดูน่ากลัว
ถามว่าเราไม่ได้เอะใจอะไรเลยเหรอในตอนนั้น คือผมไม่รู้ ผมหลับตาอยู่ตอนนั้น (หัวเราะ) แต่จากที่ได้เห็นที่พี่ๆ สื่อให้ดูคลิปเมื่อกี้ มันก็ดูน่ากลัวนิดหนึ่งเนอะ ใช่ไหม

ทางบริษัทลูกค้า จะมีการลบคลิปออกหรือทำอย่างไรกับคลิปดังกล่าว ตนก็ยังไม่ได้อัปเดตเหมือนกัน
“เรื่องนั้นผมไม่ได้อัปเดตเลยครับ (หัวเราะ) เอาจริงๆ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้มีเวลาทำอะไร”

ส่วนอีกคลิปที่เป็นประเด็น คือ คลิปเก่าตั้งแต่ปีที่แล้ว เป็นคลิปที่มีการกางม่าน แล้วส่องไฟให้เห็นเป็นเงาตนยืน และกลัฟนั่งคุกเข่า ทำให้ภาพออกมาดูไม่เหมาะสม และส่อไปทางอนาจาร จนหลายคนออกมาติง หนุ่มมิวก็ได้แสดงความคิดเห็นถึงคลิปนี้ว่า
“อันนี้มันนานมากแล้วใช่ไหมครับ ของปีที่แล้ว ตอนนั้นกลัฟผูกเชือกรองเท้า แต่ว่าภาพที่ออกไปอาจจะดูไม่เหมาะสม ผมว่าไอ้พวกนี้เนี่ย เราอาจจะต้องมาระวังเรื่องคอนเทนต์ให้มากขึ้น เพราะการเล่นสนุกของเราบางที มันทำให้สื่อไปในภาพที่ไม่ดี อันนี้อาจจะต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งทางฝั่งเราด้วย ทางฝั่งผู้จัดการของเรา ทางฝั่งลูกค้า แล้วก็งานต่างๆ ด้วย อาจจะต้องคุยกันมากขึ้น เรื่องงานบรีฟงาน หรือว่ากิจกรรมเกมต่างๆ แต่ตอนนั้นเราแค่ยืน แล้วน้องก็นั่งผูกเชือกรองเท้า เราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย คือน้องผูกเชือกรองเท้าเฉยๆ กลัฟนั่งผูกเชือกรองเท้าแค่นั้นเอง”

พอวันนี้ได้กลับมาดูคลิปนี้อีกครั้ง ก็รู้สึกว่ามันแรงไปจริงๆ ในอนาคตก็ต้องคุยกันให้มากขึ้นทุกฝ่าย ว่าความเหมาะสมควรอยู่ในระดับไหน
“ถ้าผมเป็นคนดู เป็นคนทั่วไปเลยนะครับ อาจจะรู้สึกว่าแรงเหมือนกัน ก็อย่างที่บอกไป ในอนาคตก็จะต้องคุยกันมากขึ้น ระหว่างฝั่งคนทำงานด้วย ฝั่งคนที่บรีฟงาน ฝั่งคนวางแผนกิจกรรมต่างๆ ต้องมาคุยกันมากขึ้นครับ ว่าความเหมาะสมจริงๆ แล้ว สามารถได้ในระดับไหน แน่นอนว่ามันต้องมีการที่ตอบแทนแฟนๆ ด้วย แต่ว่าความพอเหมาะมันอยู่ระดับไหน อาจจะต้องคุยกันมากขึ้น”

ไม่รู้ว่าคู่ตนเซอร์วิสแฟนคลับมากน้อยขนาดไหน รู้แค่ว่าทำไปตามธรรมชาติ และส่วนตัวสนิทกันอยู่แล้ว เลยเล่นอะไรได้หลากหลาย
“เรื่องความมากน้อย ผมไม่ค่อยแน่ใจนะว่าอันไหนคือเรียกว่ามาก เรียกว่าน้อย เราแค่รู้สึกว่าเราทำไปตามธรรมชาติของเรา เพราะว่าผมกับกลัฟก็สนิทกันอยู่แล้ว มันก็เลยสามารถเล่นอะไรได้หลากหลาย แล้วก็รู้สึกว่าเหมือนแฟนๆ เขาคอยมาให้กำลังใจเรา แล้วก็คอยสนับสนุนเรา เราก็เลยรู้สึกว่า แต่ละครั้งอยากให้เขามีความสุขในการที่ได้มาดูเรา”

“ก็สำหรับคนที่วิจารณ์ ผมรู้สึกว่าทุกคนมีสิทธิ์ในการวิจารณ์ได้อยู่แล้วครับ แล้วก็เรื่องความพอเหมาะ หรือว่ากิจกรรมต่างๆ ที่อาจจะสื่อไปในทางไม่ดีพวกนี้ เรารู้สึกว่ามันไม่มีใครผิด มันอยู่ที่ความเหมาะสม มันเป็นเรื่องของรสนิยม เช่น การที่เราแต่งตัว เราว่าคนหนึ่งว่าคนนี้แต่งตัวแรง แต่คนนั้นก็อาจจะรู้สึกว่าธรรมดาของเขาก็ได้ ซึ่งอันนี้มันอยู่ที่ความเหมาะสมของแต่ละคน ก็ถ้ารู้สึกว่าไม่เหมาะสม ผมว่าอาจจะต้องทางเรา แล้วก็ทางลูกค้า แล้วก็ทางคนวางแผนกิจกรรม อาจจะต้องคุยกันมากขึ้น ว่าในอนาคตนี้ ความเหมาะสมที่ถูกเซ็ตไว้ ควรจะเป็นในระดับไหน ประมาณไหน”

คุยเรื่องนี้กับกลัฟแล้ว อีกฝ่ายไม่ได้นอยด์อะไร คงรู้สึกพอๆ กัน เพราะไม่ค่อยมีเวลามาเสพดรามาเท่าไหร่
“คุยกัน คุยกันอยู่แล้วครับ เขาก็ไม่นอยด์นะ แต่ก็น่าจะพอๆ กัน เพราะเราก็แบบ เราไม่ค่อยได้มีเวลามาเสพดรามา หรือว่ามาตามอะไรพวกนี้เท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นแบบมีคนมาอัปเดตมากกว่า เราก็รู้สึกว่าตอนนี้เราทำงาน เราอยากตั้งใจในการทำงานมากกว่า อย่างช่วงที่ผ่านมา ก็ค่อนข้างจะตั้งใจซ้อมสำหรับโชว์ในวันนี้ครับผม แล้วเดี๋ยวจะมีโชว์ช่วงเย็นด้วย ที่ผมตั้งใจมาก แล้วก็เป็นโชว์ใหม่ด้วย ก็ฝากทุกคนติดตามด้วยครับ”

บอกทำงานก็หมดวันแล้ว เอาเวลาเสพดรามา ไปทำอะไรที่มีความสุขดีกว่า
ผมก็ค่อนข้างจะปล่อยผ่าน รู้สึกว่าเราเอาเวลาในการเสพดรามาเนี่ย คือจริงๆ ตอนนี้ผมเป็นคนชอบดูซีรีส์มากเลย แล้วเวลาดูซีรีส์ยังไม่มีเลย ผมจะเอาเวลาไปเสพดรามาทำไม เวลาเลิกงานก็ต้องนอนแล้ว เวลาดูซีรีส์ อ่านหนังสือ ดูหนัง ยังไม่มีเลยครับ ก็เลยรู้สึกว่าเอาเวลาไปทำอะไรที่เรามีความสุขดีกว่า หรือว่าเอาเวลาไปตอบแทนคนที่รักเราดีกว่าครับ เช่นการไปพัฒนาตัวเอง ไปร้องเพลง ไปเรียนเต้น ซ้อมกิจกรรม ซ้อมโชว์ต่างๆ เพื่อมาตอบแทนแฟนคลับทุกคนดีกว่าครับ”












กำลังโหลดความคิดเห็น