“แสงสุรีย์” ขอบคุณทุกฝ่ายมอบชีวิตใหม่ให้ตน ลั่นหลังจากนี้มุ่งมั่นทำเพลงเลี้ยงชีพ แต่หากใครจะบริจาคช่วยเหลือก็ไม่ติด

หลังจากที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ได้พา “แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์” อดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง เจ้าของฉายาเทพบุตรเสียงดี ไปพบกับทีมแพทย์ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เพื่อเข้ารับการรักษาดวงตาข้างขวาที่เกิดภาวะการมองเห็นลดลง แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา

ผ่านไปกว่า 2 สัปดาห์ ล่าสุดวันนี้ (9 มิ.ย.63) ทางโรงพยาบาลก็ได้พาแสงสุรีย์มาอัปเดตอาการหลังจากเข้ารับการรักษา โดยมี “นายแพทย์ วรัญญ์ เทียนส่ง” ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เป็นผู้ให้ข้อมูล โดยเผยว่า แสงสุรีย์มีภาวะเลนส์ตาเทียมเคลื่อนเข้าไปลอยอยู่ในน้ำวุ้นลูกตา ซึ่งการผ่าตัดเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว โดยแสงสุรีย์จะต้องพักฟื้นเป็นเวลากว่า 1 เดือน เพื่อให้แผลหายสนิทและดวงตาได้ฟื้นตัว ซึ่งแสงสุรีย์ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวถึงความรู้สึกหลังจากได้รับการผ่าตัดรักษาดวงตาครั้งนี้ว่า...

“ตอนนี้มองเห็นชัดแล้วนะครับ แต่ยังไม่ชัดแท้เสียทีเดียว ได้ 70 เปอร์เซ็นต์ของการมองเห็นจริงๆ กลับมาใช้ชีวิตได้สะดวกมากขึ้นผมแอบเปิดดูอยู่บ่อยๆ ทั้งๆ ที่หมอยังไม่ให้เปิดหรอก (แว่นดำ) แต่ก็ต้องเปิดครับ มันรู้สึกเกะกะยังไงก็ไม่รู้ พอเปิดแล้วโล่ง มองอะไรเห็นชัด”

ผ่าตัดมองเห็นชัดขึ้นแล้วรู้สึกสดชื่น เหมือนได้ชีวิตใหม่กลับมา ขอบคุณผู้มีพระคุณกับตนที่ทำให้ตนได้ทำการผ่าตัดครั้งนี้
“นึกถึงบุญคุณของคนที่ทำการผ่าให้ผม นึกถึงบุญคุณของคุณหมอ แล้วก็เจ้านายผม คุณบิณฑ์-คุณเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ นึกถึงที่เขาได้ช่วยให้ผมกลับมามองเห็น (เหมือนได้ชีวิตใหม่เลยไหม?) โอโห้...มันสดชื่นมากเลย เหมือนกับได้ชีวิตใหม่จริงๆ ถ้าใครไม่เชื่อผมก็ลองตาบอดดูสิครับ จะได้รู้ว่าความรู้สึกมันเป็นยังไง หมอก็บอกว่าจะกลับมามองเห็น 70-90 เปอร์เซ็นต์เลย”

เผยสิ่งแรกที่ทำหลังจากที่ตาเห็นชัดขึ้นคือแต่งเพลงใหม่
“นั่งต่อเพลง ต่อเพลงใหม่ของผม มีคนที่จะให้ผมไปร้องเพลงตอนที่ผมหายป่วยแล้ว เพลงนี้คือหยุดทำไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ชื่อเพลงชีวิตของแสงสุรีย์ สื่อกระแสดังเร็วทันใจ โธ่ เป็นไปได้ ผู้ชายชื่อแสงสุรีย์ (ร้องเพลง) เล่าเรื่องราวที่ผ่านมา ก็ทุกข์ทรมาน ลำบากมาเหมือนกัน เป็นคนที่ยากจนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งพอเรามาอยู่วงดนตรี เป็นนักร้องลูกทุ่งก็ยิ่งจนเข้าไปใหญ่ แทนที่จะรวย พูดไปก็จะหาว่าเราต่อว่านายทุน ผมไม่มีรายได้อะไร ค่าเปอร์เซ็นต์เทป ค่าเปอร์เซ็นต์แผ่น ค่าร้องยังฟรีเลย อะไรอย่างนี้”

ฟุ้งหลังจากที่ตนเป็นข่าวก็มีงาน มีค่ายเพลงติดต่อเข้ามาเยอะมาก แต่ตนคงจะขอเป็นอิสระดีกว่า
“มีงานเข้ามาเยอะเลยครับ ด้วยความที่เขาสงสารผมนี่แหละ มีค่ายเพลงติดต่อมาเยอะ แต่ว่าผมก็ขอคิดดูก่อน ผมก็ผ่านมามากแล้ว เราเห็นเราประสบเหตุการณ์มาแล้ว คิดว่าทำเองก็ได้ ทำไปเรื่อยๆ แบบนี้จะดีกว่า พรรคพวกเพื่อนฝูงช่วยๆ กันทำมาหากินไป ก็คงจะอิสระแน่นอน ก็ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรักความเมตตาผม หลังจากนี้ก็เริ่มแสดงคอนเสิร์ตได้ หมอบอกว่าจะให้ดีจริงๆ ต้อง 2-3 เดือนไปแล้ว จะดีแน่นอน”

บอกจากนี้วางแผนใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น
“ระมัดระวังตัวเองให้ดีที่สุด จะเข้าสังคมสังกัดอะไร ต้องคิดให้มากที่สุดเลยทีเดียวเพราะมันพลาดมาแล้วมันแทบเอาคืนไม่ได้เลย เหลือแต่ชีวิตเท่านั้นเองที่อยู่ได้มาถึงทุกวันนี้ ก็ขอฝากด้วยนะครับว่าเป็นนักร้องแล้วอย่าจนอย่างผม พยายามตั้งสติ ตั้งตัวให้ดี ไม่ใช่ว่าตอนดัง มีเงินก็เอาไปเที่ยว ไปกินเล่นอะไรเสียหมด อย่างผมนี่มันไม่พอจะกิน ไม่พอจะเที่ยว ไม่พอจะใช้ ใครๆ เขาก็เห็นว่าผมอยู่อย่างนี้มาจริงๆ มันถึงเป็นที่มาของชีวิตของแสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ครับ”

ยันไม่เปิดรับบริจาคขอเป็นงานร้องเพลงแทน แต่ถ้าใครจะให้จริงๆ ตนก็ไม่ขัดศรัทธา
“ขอเป็นงานร้องเพลงครับ ถ้าใครอยากจะทำบุญช่วยเหลือผมจริงๆ สัตว์โลกตัวเล็กๆ คนนึงที่ท่านจะได้บุญไปก็ทำมาได้ตามบัญชีของผม แต่ก็เดี๋ยวจะหาว่าพูดกลับกลอก มันอดไม่ไหวจริงๆ เขาก็โทร.มาต่อว่ากันว่าผมทำเป็นหยิ่งบ้างอะไรบ้าง ไม่อยากจะรับบ้าง ผมไม่เคยหยิ่งเลยในชีวิตของผม”

ฟุ้งหลังจากนี้เตรียมปล่อยเพลงลงยูทิวบ์
“น่าจะเป็นเพลงชีวิตใหม่ของแสงสุรีย์ เพลงเทวดาลงมาช่วย แล้วก็จะมีอีก2-3 เพลง ก็จะนำเพลงไปลงยูทูบแสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ ฝากถึงมิตรรักแฟนเพลงของแสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ด้วยครับ ที่ให้ความรัก เมตตา สงสารแสงสุรีย์ นักร้องคนจนคนนี้นะครับ หวังว่าพี่น้องจะช่วยกันอุปการะอุดหนุนผมอีกครั้งนึง ให้ผมได้มีโอกาสได้ร้องเพลงเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ เลี้ยงครองครัวตลอดไป”