..... เจนค่ะ เจนค่ะ หนูชื่อเจนมากับนุ่นและก็มากับโบว์
นุ่นค่ะ นุ่นค่ะ หนูชื่อนุ่นมากับเจนและก็มากับโบว์
โบว์ค่ะ โบว์ค่ะ หนูชื่อโบว์มากับนุ่นและก็มากับเจน
ลัลลัลลา ละละลัลลา มามามามามา มาออกมาเต้น .....
พีกในพีกสุดๆ นาทีนี้เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่ถูกกรอกหูด้วยเพลง “SUPER วาเลนไทน์” ของ 3 สาว "เจน,นุ่น,โบว์" ที่เรียกว่าตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่สร้างปรากฏการณ์การแพร่ระบาดของไวรัลที่กระจายตัวรุนแรง และรวดเร็วยิ่งกว่าไวรัสโควิด – 19
ทั้งที่ในความเป็นจริง เพลงนี้มีอายุอานามเกือบ10 ปีแล้วโดยเป็นหนึ่งในเพลงที่บรรจุอยู่ในอัลบั้ม “อยากเป็นซุปตาร์” ของ 3 สาวเกิร์ลกรุ๊ปชื่อวง “SUPER วาเลนไทน์”
สมาชิก 3 สาว ประกอบด้วย
“เจน-เจริญจิรา เหรียญทองคำ”
“นุ่น-นัทธมน นิลคูหา”
และ “โบว์-ยาณัฎศนาแก่นแก้ว”
โดยเป็นอัลบั้มแนวลูกทุ่งร่วมสมัย ภายใต้สังกัดสังกัด Topline Music ซึ่งวางจำหน่าย ในปีพ.ศ. 2554 และถูกเผยแพร่ผ่าน YouTube ช่องTopline Digital Network ในปี 2557
“ฮาอายอ” คัฟเวอร์เพลงนี้ผ่าน HAISEOULCHANNEL ของตัวเองในวันที่ 1 เม.ย. 63 โดยรวบตึงอวตารตัวเองเป็น สาว “เจน , นุ่น , โบว์” ชนิดที่ไม่มีหลุดคาแรกเตอร์ กลายเป็นคลิปที่โด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน
ขณะเดียวกัน เพจมงกุฎนางงาม ก็ปล่อยคลิปต้นฉบับของเพลงนี้ ออกมาในวันเดียวกัน จึงยิ่งทำให้เพลงนี้กลายเป็นกระแสที่ทุกคนหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้น ประจวบเหมาะกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ต้องปรับวิถีการดำเนินชีวิตตามมาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” พร้อม ๆ กับต้องเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing และโพสต์ลงในแอปพลิเคชั่น TikTok “SUPER วาเลนไทน์” รุนแรงหนักขึ้น
เมื่อ “สร - ชลนสร สัจจกุล" ไอดอลสาวสายเลือดไทยเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นสมาชิกของวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังอย่าง“CLC” จากค่าย CubeEntertainment กระโดดลงมาร่วมคัฟเวอร์เพลงนี้ในท่อนแนะนำตัวสมาชิกอันเป็นท่อนขายของเพลง โดยใช้ฟิลเตอร์ให้ดูเหมือนว่ามีคนเต้นเพลงดังกล่าว 3 คนพร้อมกัน แล้วโพสต์ลงในไอจีของตัวเองพร้อมกับเขียนแคปชั่นบรรยายว่า
"มิติใหม่ของไอดอลเกาหลี ส่งท่าเต้นฮิตของไทยส่งออกสู่วงการ K-POP ค่ะ"
3 สาว “เจน ,นุ่น , โบว์” ก็เลยได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งมีงานเดินสายออกสัมภาษณ์ทางรายการทีวีไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งออกเดี่ยว ออกกลุ่มน่าเสียดายที่เป็นช่วงที่งานอีเว้นท์ งานโชว์ตัว งานคอนเสิร์ตถูกระงับหมดไม่เช่นนั้น คงเป็นช่วงขาขึ้นที่โกยเงินกันจนกระเป๋าตุงเลยทีเดียว
แต่กระนั้น 3 สาว “เจน , นุ่น , โบว์” ก็ยังหยิบชิ้นปลามันคว้างานรีวิวสินค้ามาประเดิมงานแรกเรียบร้อยแล้วโดยเป็นสินค้าที่เข้ากันได้ดีกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 นั่นก็คือสเปรย์แอลกอฮอล์สูตรเข้มข้น 75%ที่จะช่วยป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ทำให้ทั้ง 3 สาวกลับมาเป็นที่รู้จักคงนี้ไม่พ้นแพลตฟอร์มที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้อย่าง Tik Tok
Tik Tok (หรือ “Douyin”ในประเทศจีน) ในสังกัดของ ByteDance ที่เริ่มให้บริการเมื่อวันที่29 กันยายน 2559 ซึ่งมาถึงวันนี้ ถือว่าเป็นแอปม้ามืดที่กำลังจะมาโค่นบัลลังก์แอปรุ่นพี่หลายต่อหลายแบรนด์วิเคราะห์จากสถิติผู้ใช้และยอดดาวน์โหลดที่พุ่งสูงขึ้นเป็นอันดับต้นๆ
ถ้าเทียบกับอินสตาแกรมที่ใช้ระยะเวลาสร้างตัวถึงปี กว่าที่จะสร้างฐานผู้ใช้ได้ 500 ล้านคน Tik Tok ใช้เวลาน้อยกว่าถึงเท่าตัว คือเพียงแค่ 3 ปีก็สามารถมีจำนวนผู้ใช้เทียบเท่ากัน
โดยมีรายงานว่า ในปีที่ผ่านมา Tik Tok เป็นแอปที่มีการดาวน์โหลดรวมจากทั้ง App Store และ PlayStore สูงที่สุด ถึง 1,500 ล้านครั้ง
ขณะที่ถ้าสำรวจจากพฤติกรรมของผู้ใช้ ก็พบว่าส่วนใหญ่ให้เวลากับ TikTok เฉลี่ย 52 นาที / วัน(เทียบกับแพลตฟอร์มรุ่นพี่อย่าง Facebook 58.5 นาที / วัน และ Instagram 53 นาที / วันเรียกว่าหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว) มีผู้เข้าใช้มากกว่า ครั้ง / วัน ถึง 90% และเฉลี่ยรวมในแต่ละวัน มีวิดีโอถูกเปิดดูบน TikTok กว่า 1,000 ล้านครั้ง และด้วยเหตุที่คอนเทนต์ใน Tik Tok สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายกว่าและเน้นความบันเทิงในระยะสั้นทำให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่ถูกกดข้าม แถมยังสามารถผนวกเข้ากับฟังก์ชั่นต่างๆ ในแอปที่มีอยู่มากมาย อาทิ...
- การเลือกใช้แฮชแท็กที่กำลังเป็นกระแส เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้ใช้จำนวนมากได้ในเวลาอันรวดเร็วโดยสินค้าที่ต้องการทำโฆษณาสามารถซื้อแฮชแท็กเพื่อโปรโมทแคมเปญของตัวเองได้
- การใช้เพลงของตัวเองใส่ลงไป เพื่อให้ผู้อื่นนำไปใช้โพสต์ในวิดีโอต่อไปเรื่อยๆ
- เช่นเดียวกับการลงเพลงของตัวเอง ก็คือการอัดวิดีโอด้วย Feature Duetsเพื่อให้ผู้ใช้คนอื่นมาอัดวิดีโอคู่กับคุณ ซึ่งในส่วนนี้สามารถนำมาใช้กับกิจกรรมได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการให้เต้นตาม ให้ร้องเพลงตาม เป็นต้น
รวมไปถึงการสามารถใช้บริการของ Influencer บน TikTok เพื่อช่วยโปรโมทสินค้า
หรือสามารถซื้อโฆษณา ทั้งในขณะที่เปิดแอป หรือบนหน้า Feed ในขณะที่ใช้แอป แม้กระทั่งการสร้างเอฟเฟกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสินค้าในแต่ละแบรนด์ได้อีกด้วย
ในขณะที่ผู้ใช้ทั่วไป ที่ไม่ได้มุ่งหวังกับการใช้ เพื่อทำการตลาดให้กับแบรนด์สินค้าต่างๆก็สามารถเล่นสนุกไปกับฟังก์ชั่นต่างๆ ในแอปนี้ได้อย่างเพลิดเพลินเช่นเดียวกัน
ไม่ว่าจะเป็นการครีเอทมิวสิกวิดีโอของตัวเองเน้นโชว์การร้อง การเต้น การแสดงสีหน้าท่าทาง หรือกระทั่งการลิปซิงค์ที่ออกแบบให้คนขยับปากเข้ากับเพลงได้แบบเป๊ะๆ แถมยังมีสติกเกอร์หรือสเปเชี่ยลเอฟเฟกให้เลือกใช้มากมาย โดยจำกัดความยาวของวีดีโอไว้แค่ไม่เกิน 15 วินาทีอันเป็นที่มาของชื่อ Tik Tok ที่หมายถึงเสียงเดินของเข็มของนาฬิกาสื่อถึงความยาวของวีดีโอแบบสั้นซึ่งผู้ใช้สามารถแชร์ให้เพื่อนๆ หรือใครก็ตามได้ร่วมชมได้ทุกที่ทุกเวลา
หลักๆ แล้วคอนเทนต์ส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมในTik Tok นอกจากมิวสิกวีดีโอประกอบเพลงแล้ว ก็จะเป็นคลิปแนวน่ารักตลกขบขัน โดยเฉพาะของเด็กและสัตว์เลี้ยง
และอย่างที่เกริ่นไว้ช่วงต้นว่าในช่วงที่ผู้คน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ก็ยิ่งทำให้การเล่นสนุกผ่านแอป Tik Tok แพร่กระจายไปสู่ผู้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกแวดวง
ไม่เว้นแม้แต่ในวงการบันเทิง !!!! โดยเฉพาะนางเอกแนวหน้าอย่าง “แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์” ที่มาเงียบๆ แต่ฟาด Tik Tok แก้เหงาไปแล้วถึง 7 คลิปซึ่งแต่ละคลิปก็เรียกเสียงฮือฮาจากเพื่อนพ้องในวงการที่เข้ามาคอมเม้นต์ชื่นชมกันถล่มทลายโดยเฉพาะในเรื่องของสกิลการงับปากซิงค์คำพูด ที่ตรง เป๊ะ เวอร์จนนึกว่าเป็นเจ้าของเสียงจริงๆ จนตอนนี้ได้รับฉายาว่าเป็นเจ้าแม่ Tik Tok ไปเรียบร้อยแล้ว
หรือรุ่นใหญ่อย่าง “ชมพู่ - อารยา” ก็ปัดฝุ่นบทแจ้งเกิดอย่าง “เรยา” ใน “ดอกส้มสีทอง” มาโชว์ใน Tik Tok เรียกว่าเผ็ดร้อนไม่แพ้เมื่อครั้งเป็นละครทีวีเลยทีเดียว
คู่รักสายเซอร์อย่าง “เก้า-จิรายุ” กับ “วี – วีโอเล็ต” ก็เลือกใช้บริการ Tik Tok ในการอวดความหวานผ่านแอป โดยการใช้ฟังก์ชันสลับหน้าสร้างความตลกขบขันให้กับคนดูได้ไม่น้อย
เรียกว่าเป็นการหยุดเชื้อแบบไม่ยอมตกเทรนด์จริงๆ !!!!
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศาสุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 11-17เมษายน 2563