"มีน พีรวิชญ์" เปลือยชีวิต จากนักแสดงหางแถว ผู้ไม่เคยคิดอยากจะเข้าวงการบันเทิง แต่พอได้ลองเข้ามาไม่ใช่ได้แค่ความสนุก แต่ได้ประสบการณ์ รวมทั้งความรักจากแฟนๆ ฟุ้ง 6 เดือนที่ผ่านมาวิ่งอีเวนต์ยับ ทุกวัน เก็บเงินซื้อคอนโดได้ด้วยตัวเอง บอกทุกวันนี้อยากจะยิ่งพัฒนาตัวเองให้มากขึ้น 5 ปีที่ผ่านมาถือว่าภูมิใจตัวเองสุดๆ ที่สู้มาจนถึงวันนี้
ถือว่าเป็นนักแสดงวัยรุ่นที่ฮอตที่สุดคนนึงเลยทีเดียว สำหรับหนุ่ม “มีน พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร" ที่ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองกว่า 5 ปี จนวันนี้ทั้งงานอีเวนต์ ทั้งละครและหนังรุมเข้าหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนุ่มมีนเผยว่าภูมิใจในความสู้ของตัวเองมาก เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ต้องผ่านการแข่งขันมากมาย เรียกว่าท้อแต่ก็ไม่ถอย ทำให้มีอย่างในทุกวันนี้ได้
“ตอนแรกไม่เคยคิดว่าจะเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงเลยครับ ไม่เคยมีภาพของนักแสดงหรืองานบันเทิงอยู่ในหัวเลย แต่วันหนึ่งพี่สนุ้ก ผู้จัดการก็มาชวนให้ลองไปแคสงานดู ก็ไม่รู้หรอกว่าคืออะไร แต่ด้วยความที่ว่างก็เลยลองดู พอไปแคสติ้งแล้วดันติดเข้าไปรอบลึกๆ ซึ่งเทรนด์ตอนนั้นอาจจะนิยมขาวตี๋ แต่ตอนนั้นผมยังเด็กอยู่ แล้วคนที่พร้อมจะเข้าวงการมีเป็นร้อยเป็นพัน ผมไปเจอนักแสดงมากมาย ซึ่งผมนั่งอยู่หางแถวพวกเขา แล้วก็มองพี่ออกัส, กัปตัน ซึ่งเขาเป็นไอดอลคนแรกๆ ของผมที่ผมคอยศึกษาดูงานของเขา มองเขาเล่นซีรีส์ มองตอนถ่ายทำซีรีส์”
“วันแรกที่มีโอกาสเล่นละครก็ทำการบ้านไปเยอะครับ นั่งรอทั้งวัน มองกลับไป ณ วันนี้ผ่านมา 4-5 ปี มันดีนะ มีโอกาสค่อยๆ เดิน เริ่มจากจุดเล็กๆ ได้ศึกษา แล้วก็ได้เห็นว่าคนที่เขามีชื่อเสียง คนที่เขาโด่งดังในตอนนั้นทำตัวแบบไหน แบบไหนดีแบบไหนไม่ดี ค่อยๆ ศึกษาหล่อหลอมขึ้นมาจนมีโอกาสได้เป็นนักแสดงตัวหลัก นำสิ่งที่เคยศึกษามาปรับใช้กับตัวเองครับ”
เผยช่วงแรกๆ รู้สึกสนุก แต่พอคิดว่าอยากจะทำงานจริงๆ จังๆ ก็เริ่มได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้น
“แรกๆ ที่ทำก็ยังนึกสนุกก่อนครับ คือมันสนุกที่ได้เล่นโน่นนั่นนี่ ต้องเดินทางมาค้างแรม มีค่ารถค่าโน่นนี่ แรกๆ มันก็สนุกแหละ แต่หลังๆ เริ่มไม่สนุกแล้ว เริ่มมีคำถามว่าเรามาทำไม เลยตั้งเป้าใหม่ว่างั้นลองดู ขอผลงานแบบจริงๆ ที่ได้ลองทำสักเรื่องนึง แล้วมาดูว่าสนุกจริงไหม ก็เริ่มฝึกฝนตัวเองเพื่อได้ลองโอกาสครั้งนั้น พอมาอยู่จุดที่เป็นนักแสดงจริงๆ ก็สนุกกับการที่ได้อยู่ในกองถ่าย คือสนุกมาตั้งแต่แรกแล้วมั้ง เพราะผ่านการเรียนรู้มา ทำให้สนุก ตอนนั้นพอถึงเวลาที่ตัดสินใจว่าสนุกก็อยากอยู่ต่อ เลยพยายามหาจุดช็อตเทอมสั้นๆ ว่าอยากทำอันนี้ พอผ่านไปครึ่งปีหลังทำได้ก็ยิ่งสนุกและท้าทายตัวเอง"
"ก็ตั้งแต่เรื่องเลิฟซิก จนมาถึงบังเอิญรัก ตอนนี้ก็ 4-5 ปีครับ บังเอิญรักถือเป็นเรื่องที่แจ้งเกิดให้ผม ถ้ามองจากคนนอกมองอาจจะรู้สึกว่านาน การที่คนคนนึงทำโน่นทำนี่ 4-5 ปีกว่าจะดัง สำหรับผมตลอดระยะเวลานั้น 1,500 กว่าวันได้สะสมประสบการณ์ มีอะไรให้ลองทำเรื่อยๆ ฉะนั้นวันนึงที่ยืนอยู่ตรงนี้ ผมก็เชื่อว่าผมมีชื่อเสียงอย่างมีคุณภาพ ดังนั้น 1,500 กว่าวันมันไม่ได้เสียเปล่า”
บอกทำงานเก็บเงินจนซื้อคอนโดฯ เองได้ ภูมิใจสุดๆ ที่ไม่ถอดใจซะก่อน
“พอทำงานก็เริ่มเก็บเงินมาเรื่อยๆ ครับ อย่างแรกคือผมเป็นคนไม่กล้าปฏิเสธงาน มีงานอะไรเข้ามาถ้าว่าง ถือว่าทุกท่านให้โอกาสสนใจร่วมงานกับผม ถ้าพร้อมตรงนั้นก็รับหมด รับไปรับมารู้ตัวอีกทีก็เริ่มมีเงินเก็บมากขึ้น แล้วบวกกับว่าใกล้เรียนจบแล้ว ก็ต้องหาที่หาทางอยู่ในกรุงเทพฯ เพราะผมเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาใช้ชีวิตในเมืองกรุง เลยเลือกเป็นที่อยู่แล้วสบายๆ”
"ปีที่แล้วมีอีเวนต์แทบทุกวันเลยครับ คือ 6 เดือนวิ่งอีเวนต์ยับมาก ช่วงก่อนหน้านี้ประมาณอาทิตย์ละ 5 งาน ช่วงนั้นก็สนุกนะ แต่ก็คิดถึงการแสดง เพราะเติบโตตรงนั้น มีอยู่ช่วงหนึ่ง 4 เดือนหายไปเลย จนตอนนี้ก็กลับมาสลับเล่นซีรีส์ คราวนี้มา 4 เรื่องเลยครับ ไม่อยากให้แฟนๆ รู้สึกว่ามีนหน้าหายไป ก็แบ่งเวลาให้ตัวเอง จนมีโอกาสได้มาเล่นหนังอีกเรื่องพี่นาค 2 ก็จะมี 1-2 วัน สำหรับงานอีเวนท์หรือว่าบางทีก็มีงานโชว์ตัวครับ”
“5 ปีที่ผ่านมาภูมิใจครับ ถ้าจะให้ชื่นชมตัวเองต้องชื่นชมที่ไม่ท้อไป ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาพร้อมท้อมากทุกวัน คือถ้ากลับไปดูจิ้มมาวันไหนวันหนึ่งก็ได้ มีวันที่ทำให้ท้อและออกไปจากจุดนี้ได้เสมอ แต่ว่าไม่รู้ตอนนั้นคิดยังไงเหมือนกัน เลยทำให้ไม่ท้อและตั้งใจทำมันต่อจนถึงวันนี้”
