xs
xsm
sm
md
lg

“ลีเดีย” ทำใจแข็งแรงสู้เชื้อโรค ใช้เสียงเพลงช่วยเยียวยา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เป็นผู้ติดเชื้อ Covid-19 ที่หลายๆ คนช่วยลุ้นให้หายดีไวๆ สำหรับ “ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ดีน” ที่ตอนนี้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย โดยต้องแยกจากครอบครัวและลูกน้อยวัยน่ารักทั้ง 2 คน รวมถึงสามีอย่าง “แมทธิว ดีน” ที่ติดเชื้อด้วยเช่นกัน ล่าสุด เจ้าตัวเคลื่อนไหวขอบคุณทุกกำลังใจ เข้มแข็งได้ด้วยเสียงเพลง

“ขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งมานะคะ
ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือทำใจให้แข็งแรงที่สุดเพื่อสู้กับมันค่ะ อารมณ์ก็จะขึ้นๆ ลงๆ ตลอดทั้งวัน ร่างกายไม่ได้รู้สึกทรมานอะไรเท่ากับใจเราเวลาวิตกกังวลค่ะ เสียงเพลงช่วยเดียได้เยอะเลยค่ะ ขอส่งกำลังใจให้ผู้ป่วยทุกคนและหน่วยงานทุกๆ ที่ๆ กำลังสู้ไปพร้อมๆ กันนะคะ”

View this post on Instagram

สู้ ✌🏻

A post shared by Lydia Sarunrat Deane (@lydiasarunrat) on


View this post on Instagram

สิ่งที่สำคัญคือต้องตั้งสติให้ดีที่สุดในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ ต้องรับมือและสู้ต่อไป สิ่งที่ยากที่สุดคือการร่ำลาครอบครัวและลูกๆ ต้องให้ลูกๆทั้งสองคนอยู่โดยที่ไม่มีทั้งพ่อและแม่ไปอีกไม่รู้นานแค่ไหน แต่อย่างน้อยก็ยังมีคุณยายคุณตาที่ยังอยู่กับเขา หวังว่าเดมี่จะไม่ลืมแม่ หวังว่าดีแลนจะไม่โกรธที่พ่อแม่อยู่ๆก็หายไป เดี๋ยวหม่ามี๊กับแดดดี๊จะกลับมานะลูก ห้ามร้องไห้เพราะน้ำตาอาจมีไวรัส #covid19 #โควิดเราต้องรอด ข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อทุกคน: 1.สิ่งที่รู้ตอนนี้คือเดียติดจากพี่แมท ส่วนใหญ่ทุกเคสที่ติดCoVid19 คนใกล้ชิดอย่างสามีภรรยามีโอกาศติดสูงมาก เดียไม่ได้ออกไปไหน เดียติดจากในบ้าน ดีแลนผลคือ undetectable เดมี่ไม่ได้เอาไปตรวจเพราะกลัวว่าอาจไปรับเชื้อจากข้างนอก ตอนนี้ทั้งสองคนอาการปกติ ร่าเริง เล่น กิน นอน แข็งแรงดีค่ะ รอเฝ้าดูอาการต่อไป 2. คนอื่นๆที่ใกล้ชิด (ครอบครัว, เพื่อน, พนักงานร้านอาหารและค่ายมวย) ผลลบ undetectable แต่ถึงแม้จะลบ ข้อแนะนำคือเฝ้าดูอาการ ถ้ามีอาการเหมือนจะเริ่มเป็นหวัด หรือมีไข้ให้ไปตรวจซ้ำ ระหว่างนี้การปฏิบัติของคนในบ้านที่เฝ้าระวังอยู่คือ ให้คิดซะว่าทุกคนเป็นพาหะโรคนี้ ป้องกันให้มากที่สุด ควบคุมวิธีการแพร่ให้น้อยที่สุด ใส่หน้ากาก ล้างมือ อย่าใช้ช้อนร่วมกัน ระวังน้ำตา น้ำลาย คือคุณต้องมีไวรัสในจำนวนที่วัดได้ถึงจะมีผลว่าบวก ขอย้ำว่าการตรวจได้ผล undetectable ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีไวรัส คนที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด 3.อาการแรกของเดียคือ คัดจมูก ไอแห้งๆไม่มีเสมหะ ไข้ 38 แต่ไม่ได้รู้สึกแย่ แค่รู้สึกเหมือนจะเริ่มเป็นหวัดหรือเป็นภูมิแพ้ ทั้งหมดนี้เริ่มเมื่อคืนวันที่ 13 และตลอดทั้งวันที่14 ตอนนี้ทานยาลดไข้และวิตามินต่างๆ ระหว่างที่รอผลกลับมา เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงที่สุด ตอนนี้ยังไม่มียาป้องกันหรือว่ารักษาโควิดอย่างเป็นทางการเพราะมันยังใหม่มากๆแนวทางรักษาคือถ้าอาการไม่หนักมากก็พยายามปล่อยให้ร่างกายขับไล่มันออกไปเอง แต่ถ้าเกิดใครเริ่มมีปัญหาเช่นปอดบวมหรือ ปัญหาอื่นๆหมอจะให้ยาทันทีซึ่งยาที่จะใช้ก็แล้วแต่สูตรของหมอและโรงพยาบาล 4.อาการของพี่แมทตอนนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ไม่มีไข้แล้ว มีการ X-ray ปอดเพราะตัวเค้าเป็นภูมิแพ้และหอบ. ซึ่งหมอบอกว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ยังไงต้องคอยเช็กตลอด 5.ตอนนี้การหาเตียงสำหรับการรักษาไม่ง่ายค่ะ ถ้าใครตรวจแล้วพบเชื้อ คอยโทรถามกับทางสปคม ว่าเค้ากำลังประสานงาน และหาโรงพยาบาลให้อยู่

A post shared by Lydia Sarunrat Deane (@lydiasarunrat) on


View this post on Instagram

พี่แมทขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจและเป็นห่วงทั้งครอบครัว พี่แมทขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน ขอชี้แจงรายละเอียดดังต่อไปนี้นะคะ: 1.พี่แมทแทบจะไม่มีอาการเลย ไม่มีนำ้มูก ไม่มีไอ ไม่เจ็บคอ แต่เบื้องต้นเมื่อ 2 วันที่แล้ว ปวดเมื่อยเล็กน้อย (เข้าใจว่าจากออกกำลังกาย เพราะวันอาทิตซ้อมหนักกลางแดด) ตามมาด้วยการคัดจมูกนิดหน่อยเหมือนเป็นภูมิแพ้ธรรมดาที่เค้าเป็น แต่วันต่อมาพี่แมทก็เป็นไข้อ่อนๆ 36.9 - 37กว่า เลยไปเช็คที่ร.พ. เผื่อจะเป็นอะไร เมื่อถึงหน้าโรงพยาบาลก็จะมีการยิงปืน laser เพื่อวัดอุณหภูมิ ของพี่แมทบอกว่าไม่มีไข้ แต่ด้วยการที่เค้าไม่ค่อยเชื่อในความแม่น laser เค้าเลยขอตรวจอย่างละเอียด และผลตรวจคือ 38.3 มีไข้ (เพราะฉะนั้นการตรวจโดยปืนยิงเลเซอร์แบบนี้ตามที่ต่างๆอาจจะไม่ได้แม่นยำเท่าไหร่นัก) พี่แมทไปตรวจเมื่อวานนี้คือวันที่ 12 มีนาคม 2563 2.ขั้นตอนต่อไปหลังจากรู้ว่ามีไข้คือ swab จมูกเพื่อตรวจว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ไหม ผลรู้ภายใน 1ช.ม. ซึ่งพี่แมทไม่เป็นไข้หวัดใหญ่ คุณหมอให้ตรวจต่อ Virus อีก 21 สายพันธุ์ ผลรู้ภายใน 8 ช.ม. แต่คุณหมอแนะนำต่อให้ตรวจเช็ก CoVid19 เพิ่ม ซึ่งผลจะรู้วันรุ่งขึ้น คุณหมอส่งตัวพี่แมทกลับบ้านพร้อมคำแนะนำการปฏิบัติเบื้องต้น เราจ่ายค่าตรวจไปทั้งหมด หมื่นกว่าบาท. (แล้วคนที่ไม่สามารถจ่ายเท่านี้จะมีการตรวจไหม?) 3.กลับมาถึงบ้านพี่แมทแยกตัวออกจากทุกคนในบ้านเพื่อป้องกันไว้ก่อนระหว่างที่รอผล พี่แมทสั่งปิดค่ายมวยทันทีเผื่อว่าผลออกมาว่าเป็นบวก คืนนั้นก็ทราบผลว่า 21 สายพันธุ์ไม่ได้เป็น ต้องรอผล CoVid19 วันรุ่งขึ้น ซึ่งช่วงตอนกลางวันที่ผ่านมาก็ได้รับการยืนยันว่าเป็น (13 มีนาคม 2563) 4.มันคือการรับผิดชอบต่อทุกคนและต่อสังคมที่จะต้องแจ้งให้ทราบนะ เพราะคนที่เจอเราและคนอื่นๆจะได้เฝ้าระวังและป้องกันปฏิบัติในทางที่ดีที่สุด ปัญหาตอนนี้คือ เราควรระวังกันกี่ต่อ? คนที่เจอพี่แมทต้องกักตัว แล้วคนที่เจอเดียต้องกักตัว แล้วคนที่เจอคนที่เจอเดียต้องกักตัวไหม? ใครบ้างที่ควรไปตรวจ? ต้องรอมีอาการก่อนไหม? อันนี้ไม่โทษใคร หรือคิดว่าใครจะมีคำตอบนะแต่แค่ระบายถึงปัญหาของโรคใหม่ที่มีข้อมูลน้อย 5.ตอนนี้พี่แมทได้มีรถมารับไปที่โรงพยาบาลเรียบร้อย ทางครอบครัวไม่สามารถเยี่ยมหรือเจอได้เท่าที่เจ้าหน้าที่บอก ต้องอยู่เฝ้าดูแลรักษาจนกว่าจะตรวจแล้วไม่พบเชื้อ 6.ทางครอบครัวทุกคนจะไปตรวจวันพรุ่งนี้ ตอนนี้คนในครอบครัวยังไม่มีอาการ ไม่มีไข้ ลูกๆยังปกติ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบค่ะ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ มันใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด และจำนวนของคนที่เป็นคงมากกว่าที่เรารู้ (please help translate to English🙏🏻)

A post shared by Lydia Sarunrat Deane (@lydiasarunrat) on



View this post on Instagram

งานก็ต้องทำ ลูกก็ต้องเลี้ยง นมก็ต้องปั๊ม ปวดก็ปวด เจ็บก็เจ็บ ผมก็เริ่มร่วง นอนก็ไม่ได้นอน เวลาสำหรับตัวเองก็ไม่มี มาแถมอีกคือไม่สบายทอนซิลอักเสบหวัดลงคอน้ำมูกน้ำหูน้ำตาไหล #เหนื่อย อาชีพ #มนุษย์แม่ ไม่มีวันหยุด พักร้อน ลาป่วย หรือลาออก และห้ามตายด้วย On top of being already drained physically and mentally from breast-feeding, pumping, raising 2 kids, losing hair, getting no sleep, having no time for myself, working full time... I am now also sick with tonsillitis and a cold. #Great #CherryOnTop #ilovemylife And the option of quitting this job is not an option. 😭✌🏻(ได้อ่าน comment แล้วขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะคะ 🙏🏻🙏🏻😷✌🏻✌🏻)

A post shared by Lydia Sarunrat Deane (@lydiasarunrat) on





กำลังโหลดความคิดเห็น