เป็นนักแสดงที่ปกติก็ติสท์พอตัวอยู่แล้วสำหรับ “จาเร็ด เลโท” ที่ล่าสุดเจ้าตัวถึงกับช็อกเพราะออกไปปลีกวิเวกที่ทะเลทรายเพียง 12 วัน กลับมาอีกทีโลกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
นักแสดงดังได้โพสต์ข้อความลงใน ทวิตเตอร์ ซึ่งระบุว่า “ว้าว 12 วันก่อน ผมเริ่มไปปลีกวิเวกในทะเลทรายมา เราตัดขาดจากโลกอย่างสิ้นเชิง ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีการสื่อสารใดๆ เราไม่รู้เลยว่าโลกภายนอกมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เดินกลับออกมาเมื่อวานมันเป็นอีกโลกไปเลย มันเปลี่ยนไปตลอดกาล ผมตะลึงมาก ผมได้รับข้อความจากเพื่อนๆและครอบครัวมาจากทั่วโลกที่พูดคุยกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง หวังว่าพวกคุณจะสบายดี ส่งพลังดีๆถึงทุกคน อยู่แต่ในบ้าน ปลอดภัยกันนะครับ”
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา นักแสดงหนุ่มวัย 48 ปี ได้เผยภาพตนเองขณะปีนผาพร้อมกับบอกว่าตนเองเกือบตายเสียแล้ว “ฟังดูน้ำเน่านะ แต่นี่คือวันที่ผมเข้าใกล้ความตาย ผมไปปีนหน้าผากับเพื่อนที่ Red Rock มองขึ้นไปข้างบนแล้วในเสี้ยววินาทีเชือกของผมถูกหินตัดเกือบขาดตอนที่ผมไต่อยู่กลางอากาศที่ความสูง 600 ฟุต ผมยังจำได้ถึงความสูงตอนที่ผมมองลงไปที่พื้นด้านเลย”
“มันเป็นช่วงเวลาที่แปลกมาก กลัวน้อยกว่าที่คิด เศร้าเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นอดรีนาลีนมาเต็ม เมื่อผมกลับเข้ามาไต่หน้าผาได้อีกครั้ง และเราก็กลับมาได้ ได้ใช้ชีวิตอยู่เพื่อเฝ้าดูวันอื่นๆต่อไป มีรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้าและเหงื่อเย็นๆ โดยรวมแล้วมันค่อนข้างสนุกดี เราจะกลับไปไต่เขากันอีกตอนกลางคืน”
นับว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ จาเร็ด เลโท ต้องผ่านประสบการณ์อันตรายจากการไต่หน้าผา เพราะเมื่อปี 2017 เขาก็เคยเกือบตกหน้าผาของ Taft Point ที่อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี
“เมื่อไม่นานนี้ผมเกือบตาย ผมเฉียดตายมาหลายครั้งแล้วในชีวิต มีครั้งหนึ่งมันเกิดขึ้นที่ โยเซมิตี ผมห้อยตัวอยู่ที่ Taft Point สูงประมาณ 3,000ฟุต มองเห็นหุบเขา ผมจำได้เลยว่าผมถึงขั้นพูดกับตัวเอง เรื่องอะไรรู้ไหม? กับการไร้สติ กับเรื่องที่ว่าการเอาชีวิตรอดมันสำคัญแค่ไหน ผมต้องนิ่งที่สุดเท่าที่ผมทำได้”
แม้ว่าตนเองจะเฉียดตายหลายครั้ง แต่เจ้าตัวก็ไม่ถอดใจ ยังขอเล่นกีฬาผาดโผนชนิดนี้อยู่ เพราะว่ามันได้สอนอะไรให้เขาอย่างมากมาย
“การปีนเขามันจะมีบทสนทนาที่ลึกล้ำกับตัวเราเอง รวมถึงข้อจำกัดและขีดความสามารถของตัวเอง มันมีทั้งที่สำเร็จและไม่สำเร็จปนๆกันและคุณก็ได้บทเรียนอีกเป็นตันๆจากเรื่องเหล่านี้”