"บิ๊นท์" ขนลุก ได้ประกบ "มิสยูนิเวิร์ส" ลั่นมายืนจุดนี้ได้ไง จะเล่าให้ลูกหลานฟัง

ภาพประวัติศาสตร์ "บิ๊นท์ สิรีธร" ยอมรับขนลุก ได้ประกบ มิสยูนิเวิร์ส 2019 และ มิสยูนิเวิร์ส 2015 บนเวทีประกวดนางงาม "Puteri Indonesia 2020" ลั่นมายืนจุดนี้ได้ไง จะเก็บไว้เล่าให้ลูกหลานฟังว่าเคยเหยียบเวทีใหญ่ระดับโลก

เป็นภาพหาดูได้ยากที่เพิ่งเคยเกิดขึ้น เมื่อสองสาวงามจากประเทศไทย "บิ๊นท์ สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์" เจ้าของตำแหน่ง มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 และ "แอนโทเนีย โพซิ้ว" เจ้าของมงกุฏ มิสซูปราอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 ถูกเชิญให้ไปร่วมงานประกวดนางงามเวที Puteri Indonesia 2020 เพื่อหาตัวแทนไปประกวด มิสยูนิเวิร์ส มิสอินเตอร์เนชั่นแนล และมิสซูปราอินเตอร์เนชั่นแนลของอินโดนีเซีย โดยในงานยังมีสาวงามระดับโลก Pia Wurtzbach มิสยูนิเวิร์ส 2015 จากฟิลิปปินส์ และ Zozibini Tunzi มิสยูนิเวิร์ส 2019 จากแอฟริกาใต้ เดินทางมาร่วมงานด้วย เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ทำเอาสาวบิ๊นท์ขนลุกที่ได้ประกบมิสยูนิเวิร์สถึงสองคน ไม่คิดไม่ฝันว่าตนเองจะมายืนจุดนี้

"เป็นงาน ปุตรี อินโดนีเซีย 2020 (Puteri Indonesia 2020) เป็นงานนางงามที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย ซึ่งปีนี้เขาจะเชิญมิสยูนิเวิร์ส มิสอินเตอร์เนชั่นแนล มิสซูปราอินเตอร์เนชั่นแนลของปี2019 ไปมอบมงกุฎ มีการให้กำลังใจผู้เข้าประกวด อย่างที่บิ๊นท์ไปก็ไปให้กำลังใจน้องๆ มันเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เนื่องจากประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศที่รักนางงามมากพอๆ กับประเทศเราเลย แล้วก็ค่อนข้างจะแข่งขันกันสูง เขาก็เลยต้องการให้พี่ๆ ไปบอกเคล็ดลับว่าทำอย่างไรถึงจะได้ตำแหน่งมา เราก็ได้บอกไปซึ่งก็ดีเป็นการให้ความรู้คนอื่น ก็ได้ไปเจอนางงามรุ่นน้องต่างประเทศด้วย"

"ที่บิ๊นท์แนะนำไปก็จะแนะนำให้เขาเป็นตัวของตัวเอง เพราะเรารู้สึกว่านางงามยุคใหม่เราไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบของคำว่านางงามก็ได้ บางคนอาจจะคิดว่านางงามจะต้องเป็นอย่างนี้อย่างนั้น แต่เรื่องจริงมันไม่ใช่ มันคือตัวของตัวเอง เราเป็นอย่างไรเราโชว์ และถ้าเราได้เพราะเราเป็นตัวเราเอง มันจะภูมิใจแล้วเราจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นได้จริงๆ เพราะนี่คือตัวเรา"

เผยในงานวันนั้นตนได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นผู้มอบสายสะพายให้คนที่ได้ตำแหน่งตามธรรมเนียม
"เป็นธรรมเนียม ถ้าเป็นรุ่นพี่มิสอินเตอร์อินโดนีเซียจะต้องมอบมงกุฎ ส่วนมิสอินเตอร์ก็ไปมอบสายสะพายให้เขา เหมือนเป็นการเรียกขวัญและกำลังใจให้เขา น่ารักค่ะ วันนั้นน้องแอนโทเนีย (นางงามไทยเจ้าของตำแหน่ง Miss Supranational 2019) ก็ไปด้วย คือรู้สึกดีใจที่มีน้องแอนไปด้วย ความเป็นคนไทยมันจูงง่ายมาก อยู่บนเครื่องบินเราคุยกันตลอด แชร์ประสบการณ์การงานของแต่ละเวที พอไปอยู่ที่นั่นอาหารหรืออะไรต่างๆ มันก็เอื้อเรา มันคล้ายบ้านเรามาก แล้วมันก็เผ็ดๆ เราสองคนแฮปปี้มาก คือกินง่ายอยู่ง่าย"

ถือเป็นภาพประวัติศาสตร์ของแฟนๆ นางงาม เพราะนอกจาก 2 นางงามจากประเทศไทยแล้ว ในงานยังมี Pia Wurtzbach มิสยูนิเวิร์ส 2015 จากฟิลิปปินส์ และ Zozibini Tunzi มิสยูนิเวิร์ส 2019 จากแอฟริกาใต้ ไปร่วมงานถึงสองคน ฟุ้งจะเก็บไว้เล่าให้ลูกหลานฟังว่าตนเคยมาเหยียบเวทีนางงามที่ใหญ่ระดับโลกมาแล้ว
"ขนลุกนะ เห็น Zozibini Tunzi กับเปีย (Pia Wurtzbach มิสยูนิเวิร์ส 2015) เรายังคิดว่าเรามายืนอยู่จุดนี้ได้ยังไง จากที่เราเป็นแค่เด็กธรรมดา หลังจากนี้ก็คงมีเรื่องเล่าให้ลูกหลานฟังได้เลยนะ ว่าฉันเคยไปยืนอยู่ในงานอีเวนต์ที่เป็นงานใหญ่เกือบที่สุดในโลกมาแล้ว แฮปปี้มาก ในวันนั้นเราก็ได้คุยกันกับ Zozibini Tunzi ก็คุยว่าเป็นอย่างไรบ้าง โอเคไหม ระหว่างทำงานมีปัญหาอะไรไหม เราก็จะแชร์กัน ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมันอาจจะแบบเดียวกัน หรือความสุขที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นแบบเดียวกัน หรือคล้ายๆ กัน เราก็จะมีโมเมนต์ร่วมกัน ที่สัมผัสได้คือเขาเป็นคนสมาร์ต มีความคิดเป็นผู้นำเยอะมาก ก็รู้สึกประทับใจในตัวเขาอยู่เหมือนกัน เขาก็บอกให้เชิญเขามาประเทศไทย มีอยู่ไลฟ์นึง เขาบอกว่ามิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เชิญฉันด้วยนะ เขาอยากมาร่วมงานกับบ้านเรา(ยิ้ม)"

ด้านงานอินเตอร์เจ้าตัวเผยตอนนี้ต้องพักไปก่อนด้วยเหตุโรคระบาด ซึ่งตนยินดีเพราะตระหนักกับเรื่องนี้เหมือนกัน
"ช่วงนี้งานอินเตอร์พักไปก่อนเพราะสถานการณ์สุขภาวะ เราโอเคเลยเพราะเราเองก็มองว่าเรื่องนี้ก็สำคัญเหมือนกัน อย่างที่ไปมาเราก็พกมาสก์ไปเผื่อคนอื่นด้วย คือที่โน่นเขาไม่ตื่นตัวเท่าบ้านเราต้องเรียกความตระหนักรู้ให้กับเขา ตอนไปเราก็พยายามบอกทีมงานว่า ถ้าเราไปสัมผัสใกล้ชิดใครเราใส่มาสก์กันไหม ยกเว้นบนเวทีที่เราจะต้องเปิดหน้าจริงๆ เราเองกังวล พอหลังไมค์เราได้ไปนั่งกินข้าวด้วยกัน เราก็พยายามใส่มาสก์ตลอดเลย คือป้องกันเท่าที่มันจะเป็นได้"

"ที่อินโดนีเซียเขาดูสงบมาก เขาบอกสองคน (คนที่ติดเชื้อโควิด-19) ของเขาเป็นสองคนที่คอนโทลได้ แต่เราก็มองว่าเราอยากให้เขาตระหนักรู้กับเรื่องนี้มากขึ้น ก็พยายามบอกเขา"

บอกโรคระบาดโควิด-19 ทำกระทบงานนิดหน่อย ซึ่งตนก็ถือโอกาสช่วงที่โดนแคนเซิลงานพักผ่อนไป
"ตอนนี้ทำงานกำลังสนุกเลย มันก็กระทบนิดนึงนะกับงานอีเวนต์ต่างๆ เราก็มองว่ามันก็เป็นช่วงที่เราได้พัก ได้คิดอะไรกับตัวเองเยอะขึ้น เข้าใจ สถานการณ์ทางสุขภาพมันเป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้ามันเผยแพร่ไปมากกว่านี้ บุคลากรทางการแพทย์อาจจะไม่พอ ส่วนเรื่องงานเราก็มองว่าไม่เป็นไร เราโอเค เราเข้าใจ ช่วงนี้ก็อยู่กับตัวเอง ออกกำลังกายบ้าง ยังมีหลายงานที่ไม่ได้แคนเซิล ก็ยังดีที่มีงานให้เรารู้สึกตื่นเต้น ก็ยังมีงานเรื่อยๆ ไม่ได้รู้สึกว่ามันมีผลกระทบเยอะมาก ก็เห็นแหละว่ามีแคนเซิลแต่เราเข้าใจ"

ส่วนงานในวงการตอนนี้มีทั้งละครและภาพยนตร์เข้ามาแต่ขออุบไว้ก่อน
"ตอนนี้เริ่มมีงานหนัง ละครติดต่อเข้ามาเพิ่ม ก็รู้สึกตื่นเต้น อยากทำมาก แต่หนังต้องแคสติ้งก่อน เราก็มือใหม่ อาจจะผ่านหรือไม่ผ่านก็ได้ ก็ไม่เป็นไรแค่ได้ไปลองก็แฮปปี้แล้ว เราก็ทำตามสเต็ปเหมือนคนทั่วไป ไม่มีบายพาสแน่นอน แค่เห็นชื่อผู้กำกับก็ตื่นเต้นแล้ว ส่วนละครขออุบไว้ก่อนเพราะมันยังไม่มีการคอนเฟิร์มมาร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็สนุกดีนะ เราชอบที่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ มันกำลังสนุกกับชีวิตเรามากเลย นอกเหนือจากนางงามมันก็มีอันนี้แหละที่มันมาเติมเต็มชีวิตเรา ตอนนี้ก็เป็นอิสระ ไม่ได้สังกัดค่ายไหนค่ะ"