“นุ้ย สุจิรา” ในฐานะเจ้าของโรงเรียนนานาชาติ เผยมาตรการเข้ม เช็กพาสปอร์ตผู้ปกครองและเด็ก ชื่นชมผู้ปกครองให้ความร่วมมือ รับมีไปต่างประเทศแค่ 1 เคส ไม่ปิดบัง ให้หยุดอยู่บ้าน 14 วันกักตัว ส่วนตัวเองงดพาลูกเที่ยวห้าง ใช้โรงเรียนเป็นที่ทำกิจกรรมแทน เผย ครอบครัวใส่มาสก์เป็นเรื่องปกติ จิตตกได้แต่อย่าเครียดจนเกินไป
ประชาชนยังเฝ้าติดตามสถานการณ์ไวรัสควิด-19 (COVID-19) กันอย่างต่อเนื่อง งานนี้ “นุ้ย สุจิรา อรุณพิพัฒน์” ในฐานะเจ้าของโรงเรียน ได้เผยถึงการรับมือและป้องกันในโรงเรียน Thai International School ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ชื่นชมผู้ปกครองให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“เรื่องการป้องกันตัวของบ้านนุ้ย บ้านเราจะเป็นบ้านที่มีวัฒนธรรมใส่มาสก์อยู่แล้วค่ะ เพราะนุ้ยเป็นคนที่แพ้ฝุ่น นุ้ยจึงใส่มาสก์อยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ส่วนปอนด์ช่วงนี้เขาก็ระวังตัวเองมากขึ้น เนื่องจากเรามีลูกเล็ก อย่างมางานที่คนเยอะๆ กลับบ้านก็นอนแยกห้องค่ะ และก็ใส่มาสก์ตลอด 24 ชั่วโมง คือ โดยปกติเวลาที่นุ้ยไม่สบาย นุ้ยก็จะใส่มาสก์นอนอยู่แล้วนะคะ แยกห้องไปเลย เพราะมันน่ากลัว โดยเฉพาะช่วงนี้ด้วยแล้ว นุ้ยไม่ได้โทษใคร ไม่ได้โทษว่าคนโน้นเป็นหรือคนนี้เป็น แต่มันเป็นเรื่องที่ต้องระวัง เพราะลูกเรายังเล็ก จริงๆ มันไม่ใช่แค่ โควิด-19 หรอก ยังมีโรคอื่นๆ ที่ก็พัฒนาสายพันธุ์ไปแล้วเหมือนกัน นุ้ยไม่ได้หมายความว่า การที่นุ้ยมางานนี้ ทุกคนจะมีเชื้อโรค มันไม่ใช่ แต่มันก็อาจจะเกิดขึ้นได้ถ้าหากร่างกายเราอ่อนแอ แค่ลมโชยมาแล้วเรารับ เราก็อาจจะเจ็บป่วยได้ เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ”
“ส่วนที่โรงเรียนเราจะมีมาตรการอบฆ่าเชื้อห้องอยู่แล้วค่ะ และจะมีการบิ๊กคลีนด้วย ซึ่งหมายถึงอบฆ่าเชื้อ เช็ดถูทุกอย่าง ซักพรม ทำความสะอาด นี่คือ มาตรการปกติของโรงเรียนเรา รวมถึงทุกๆ ห้องก็จะมีเครื่องฟอกอากาศเพื่อสุขอนามัยที่ดีของเด็กๆ นอกจากนั้น ในช่วงแรกๆ เราเองก็มีการแจกหน้ากากอนามัยให้กับเด็กๆ อยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความที่ตอนนี้ทุกอย่างมันค่อนข้างขาดแคลน เราจึงต้องขอให้ผู้ปกครองเตรียมมาให้บุตรหลานของตนเอง"
“ในขณะที่คุณครูเองก็จะคอยช่วยสังเกตอาการของเด็กๆ ถ้าเด็กมีน้ำมูกไหล มีไข้ เราก็จะคอยสังเกตตลอด และมีการขอความร่วมมือให้ผู้ปกครองนำพาสปอร์ตของผู้ปกครองและเด็กๆ มาให้ตรวจสอบด้วย ซึ่งผู้ปกครองให้ความร่วมมือและน่ารักมากๆ ค่ะ บางครอบครัวที่มีคุณลุงคุณป้าอยู่ด้วย เขาก็นำของคุณลุงคุณป้ามาให้ดูเหมือนกันว่าปลอดภัย ทั้งหมดที่เราทำนี้ก็เพื่อสุขภาพและอนามัยที่ดีของเด็กๆ ทุกคน”
“ตอนนี้เราก็เริ่มสอนเด็กๆ เรื่องการล้างมือ และก็เรื่องสอนเรื่องของเชื้อโรค ให้เด็กๆ รู้ว่ามีเชื้อโรคอยู่รอบๆ ตัวเราตลอดเวลา และเขาจะต้องดูแลตัวเองอย่างไรให้สุขภาพดี นอกจากการออกกำลังกาย การล้างมือให้สะอาดก็สำคัญ อีกอย่างกิจกรรมในห้างหรือแหล่งชุมชนก็อาจจะต้องลดลงด้วย”
สถานการณ์หนักก็อาจต้องปิดโรงเรียน
“ถ้าหากมันหนักขึ้นจริงๆ การสั่งปิดโรงเรียนมองได้หลายแบบนะคะ คือ คนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงติด มีการแพร่ระบาดในโรงเรียนหรือเปล่า มันก็เป็นไปได้ และนุ้ยมองว่า จริงๆ แล้วโรงเรียนของนุ้ยเปิดอยู่โดยที่ไม่ให้เด็กไปมีกิจกรรมอื่นที่เราไม่รู้ การมาโรงเรียนปลอดภัยกว่านะคะ เพราะเรามั่นใจในมาตรฐานและมาตรการการควบคุมการแพร่กระจายโรคของโรงเรียนเรา ที่โรงเรียนเรามีคุณหมอเด็ก คอยเป็นที่ปรึกษาให้กับโรงเรียนตลอด”
“นุ้ยรู้สึกว่าโชคดีที่โรงเรียนของนุ้ยเป็นระบบอเมริกัน เด็กๆ เลยไม่ได้หยุดแบบระบบอังกฤษในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เลยทำให้เด็กไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศ หรือเดินทางไปไหน ถือว่าเป็นความปลอดภัยในระดับหนึ่งค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่างที่บอกมันยังต้องมีการตรวจในระดับหนึ่งค่ะ และทั้งนี้ทั้งนั้นที่เราทำไม่ได้เพื่ออะไรเลย เราทำเพื่อให้เด็กๆ รอดพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บเท่านั้นเองค่ะ”
“ผู้ปกครองทุกคนน่ารักกับเรามากค่ะ เรามีการพูดคุยกันตลอด ใครไปไหนมาไหนก็บอกกันตรงๆ คนไหนที่มีการเดินทาง เขาก็ยอมอยู่บ้าน 14 วันเช่นกัน มันเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันเลยค่ะ มันเป็นเรื่องจิตสำนึกของทุกๆ คน”
เผยมีเคสที่เด็กไปต่างประเทศเคสเดียว ผู้ปกครองแจ้งตามความจริง ให้หยุดกักตัว 14 วัน ชื่นใจผู้ปกครองให้ความร่วมมือทุกคน
“มีแค่เคสเดียวค่ะที่เดินทาง ซึ่งเขาก็แจ้งเราตามตรง และไม่ได้พาบุตรหลานมาโรงเรียน ถามว่า การหยุด 14 วัน มีผลกระทบต่อเด็กๆ ไหม ไม่มีหรอกค่ะ เราสามารถเรียนทางอินเทอร์เน็ต และการบ้านก็จะใช้การสื่อสารผ่านโปรแกรมโซเชียลของโรงเรียนเรา คุณครูก็จะคอยส่งการบ้านให้กับเด็กๆ ตลอด โชคดีมากค่ะที่โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนเด็กเล็ก มันเลยทำให้การฝึกที่บ้านเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ผู้ปกครองทุกคนเต็มที่มากๆ ค่ะ ทุกคนให้ความร่วมมือกันอย่างดี”
งดพาลูกเที่ยวห้าง ใช้โรงเรียนเป็นที่เรียนพิเศษ
“ตอนนี้ก็ไม่ได้ให้ไปเรียนเสริมอะไรในห้างค่ะ ไม่ได้มีการเดินห้าง แต่ด้วยการที่เขาเป็นเด็ก เขาก็ต้องการออกไปใช้ชีวิตเนอะ ดังนั้น นุ้ยก็เลยใช้วิธีการผันโรงเรียนของเราในช่วงเสาร์-อาทิตย์ ให้เป็นการเรียนพิเศษ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องไปเรียนกันในห้าง ไหนจะมีเรื่องของปุ้งปั้งอะไรต่างๆ อีก เราก็เลยรู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัย ดังนั้น ในเมื่อโรงเรียนเราเป็นที่ปลอดภัย แถมยังมีรปภ. คอยดูแลเด็กๆ มีแม่บ้านคอยทำความสะอาด เราก็มั่นใจว่าเด็กๆ จะน้องมีสุขภาพที่ดี”
ลั่นควรจิตตกแต่อย่าเครียดจนนอนไม่หลับ
“กับข่าวที่ออกมาก็ควรจิตตกค่ะ แต่ก็อย่าถึงขนาดทำให้เครียดหรือนอนไม่หลับเลย เอาเป็นว่าถ้าเราไม่ไปที่เสี่ยงได้ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าจำเป็นตองไปก็ต้องป้องกัน”