"แพท ณปภา" เผยถูกจิ้น "โอ๊ต ปราโมทย์" จนหวั่นไหว ถามอีกฝ่ายจีบเปล่า ส่วนอีกฝ่ายก็ถามจีบได้เปล่า แต่ตกลงกันแล้วไม่เกินเลยไปมากกว่านี้ หวั่นเลิกแล้วมีผลกระทบกับงาน ลั่นจบสัมพันธ์ "เบนซ์" อดีตสามีบริบูรณ์แล้ว หมดความรู้สึกแล้ว เหลือแค่หน้าที่พ่อแม่ วอนแฟนคลับอย่าจับโยงประเด็น
ได้ทำงานในฐานะพรีเซ็นเตอร์ร่วมกันกับลูกชาย "น้องเรซซิ่ง" อย่างเป็นทางการครั้งแรก ทำเอาแม่ "แพท ณปภา ตันตระกูล" ถึงกับโอดว่ายากมิใช่น้อย วันนี้ได้มีงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาใหม่พร้อมเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์ยาสีฟัน "ดาร์ลี่" แพทเลยมาเล่าถึงเบื้องหลังการทำงานกับลูกชายให้ฟังว่า...
"ยากมากๆ ค่ะ ปกติเราถ่ายยูทิวบ์ด้วยกัน มันไม่ได้ยากขนาดนี้ เหมือนอยู่ด้วยกัน กล้องก็คนกันเอง แต่พอเราต้องไปอยู่หน้าเซ็ตแล้วมันไม่ใช่ตามสบาย ลูกอยากทำก็ทำ ไม่ทำก็ไม่ได้ อย่างเขาอยากได้ช็อตนี้ แต่ไม่ใช่ว่าแพทสั่งลูกแล้วลูกจะทำได้เลยภายในช็อตเดียว แล้วบางทีเขาทำแล้ว ก็จะมีคำถามกลับมาว่าเสร็จยัง คือเขาทำแล้ว ก็ไม่เข้าใจว่าต้องทำหลายๆ ครั้ง"
"แพทตีกับลูก 2 วันเต็มๆ จนพี่ๆ ที่กองเขาพูดว่า คุณแพทน้องเก่งแล้วนะคะ ต้องใจเย็นๆ แล้วงานก็ไม่ได้เลิกเลท ยังไงทีมงานก็ยืนยันว่าเรซเก่งจริงๆ คือเราสแตนบายว่าจะเลิก 5 โมง แต่ 2 วัน เรซสามารถทำได้ภายใน 4 โมง กับ 3 โมงครึ่ง แล้วแพทก็ยังงงอยู่ว่าพี่ไม่ต้องเกรงใจ ถ้ามันไม่ได้แพทจะทำให้ได้ ให้ได้ คือเหมือนเราเป็นนักแสดงแล้ว ก็รู้สึกว่าช็อตแต่ละช็อตไม่ได้มาง่ายๆ ถ้าไม่ได้ ไม่ต้องเกรงใจ บอกแพทเลย แต่ปรากฏว่าได้ พอเห็นผลงานแล้วก็ชื่นใจ ก็รับทุกตัวที่เข้ามาค่ะ"
เผยผลงานเอ็มวีที่แสดงร่วมกับ "โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน" วางไทม์ไลน์ผลงานต่างๆ ให้ต่อเนื่องกันตั้งใจให้คนฟินตอกย้ำความจิ้น
"ไม่มีอะไรเลย คือแพทกับพี่โอ๊ตเราทำงานด้วยกัน คนจิ้นเยอะ และช่วงหลังๆ ก็หนักหน่วงขึ้น แต่เราแฮปปี้ แฮปปี้หมายถึงว่าเราชอบตรงที่เราทำงานออกมาแล้วคนชอบ ส่วนเอ็มวีเป็นโปรเจกต์ของตัวที่เราสองคนเป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่ และเป็นโปรเจกต์หนึ่งในนั้น แล้วเดี๋ยวจะมีทูบีคอนทินิวอีก ซึ่งไม่ได้มาแค่ตัวเดียวอยู่แล้ว แต่ตัวแรกเป็นตัวเปิด พี่โอ๊ตก็ตั้งใจจะวางให้ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์อยู่แล้ว แล้วเนื้อเรื่องน่ารัก คนเขาชอบ แล้วออนพร้อมกับหมีพาซิ่ง ซีซั่น3 ที่เราได้เดินทางไปเกาหลี ใช้ชีวิตกันอยู่ 3-4 คน ซึ่งก็เลยทำให้คนยิ่งชอบ ยิ่งติดตาม"
รับจิ้นกันมากเริ่มมีหวั่นไหว แต่คุยกันแล้วว่าจะไม่ขยับสถานะไปเกินกว่านี้ เพราะคิดแล้วถ้าอนาคตไปกันไม่รอดอาจมีผลกระทบกับงาน
"มี ก็มีคุยแหละว่าอยู่กันมาสักพัก คนก็จิ้น แล้วชอบแซวกันด้วย อยู่วันหนึ่งก็ถามเขาว่าจีบเปล่าวะ พี่โอ๊ตก็ถาม มึงเป็นอะไรเปล่าล่ะ เราก็คุยกัน เขาก็บอกนะว่าแพทไม่ใช่คนไม่น่ารักเลยนะ เพียงแต่มองเหมือนกัน พอดีเป๊ะเลยว่าเป็นอย่างนี้ดีแล้ว ถ้าขยับเกินตรงนี้ วันหนึ่งไปกันไม่รอด การกลับมาทำงานไม่รู้ว่าจะกลับมาได้ไหม เพราะอยู่วงการเดียวกัน เป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์เดียวกัน เพราะฉะนั้นควรอยู่แค่นี้ กำลังกลมกล่อมแล้ว"
"เขาบอกว่าพี่อยากเป็นพี่ของแพท และเป็นลุงของเรซดีกว่า มันสนิท เป็นเหมือนคนในครอบครัวที่เราสนิทกัน ก็คุยกัน ณ ตอนนี้คุยกันเรียบร้อยแล้วว่าจะไม่เพิ่มไปมากกว่านี้ เราทั้งคู่มองเหมือนกัน ถ้าเพิ่มไปมากกว่านี้ เอาง่ายๆ ที่เราชอบคุยกัน แล้วถ้าจุ่มกันขึ้นมาจริงๆ แล้ววันหนึ่งไปจุ่มกันแล้ว แล้วจะมองหน้ากันยังไง คิดแบบนี้ ความคิดที่จะจีบกันก็หมดไปเลย ก็เห็นตรงกันว่ารู้สึกดีๆ คนอยู่ด้วยกัน โสดทั้งคู่ พี่โอ๊ตดูแลลูกเราดี ก็มีแอบคิดว่าถ้าได้โอ๊ต ก็คงจะสบายเว้ยเฮ้ย ก็น่าจะสบาย"
รับแรงแรงเชียร์จากคนรอบข้างมีผลทำให้คิดเลยเถิดจนต้องมาคุยกันเพื่อสรุปความสัมพันธ์
"มันเลยไปแล้วเพราะแรงเชียร์นี่แหละ เราถึงมานั่งคุยกัน ไม่ใช่ว่าไม่มีผลนะคะเป็นเพราะที่คนเชียร์ด้วย ตัวเราด้วยและอะไรหลายอย่าง เราเลยมานั่งคุยกัน จนถึงบทสรุปที่เรามานั่งคุยกัน ความจริงความรู้สึกของเราไปไม่ถึงกันทั้งคู่อยู่แล้ว เพียงแต่แรงเชียร์นี่แหละ หรือแบบว่าเอ๊ะ หรือจะลอง เราเพิ่งจะคุยกันไม่นาน สุดท้ายพอมานั่งคุยกันเราถึงรู้ว่า ไปไม่ถึงจุดนั้นแน่นอน"
ย้ำที่ผ่านมาไม่เคยแอบคบกัน ที่มีคนเมาท์ว่าตนไปดูหนังกับฝ่ายชายก็ไม่จริง
"ไม่มี ไม่มีแอบใดๆ พี่โอ๊ตไม่เคยแอบชวนไปนอกรอบ เราก็งงมาก ว่ามีคนเห็นต่างๆ นานา ว่าพี่โอ๊ตพาแพทไป ซึ่งสิ่งหนึ่งที่คุณจะสังเกตคือแพทไปไหน จะต้องมีลูก แต่วันนั้นที่คุณเห็นไม่มีลูก เราก็เลยถามว่าโอ๊ตไปกับใครวะ (หัวเราะ)"
"เรื่องเกิดขึ้นเมื่อเช้านี้คุณบูม สุภาพร เขาพยายามบีบคั้นถามเราว่าไปเอ็มบาสซี่มาใช่ไหม แพทก็บอกว่าไม่ได้ไป บูมก็บอกว่าต้องมีใครโกหก บอกมาดีๆ ว่าไปดูหนังเรื่องอะไร แพทก็ยืนยันว่าไม่ได้ไป เราก็เลยถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมบูมถึงมาเขียนถามกับเรา เรื่องของเรื่องเกิดจากว่ามีคนเห็น แล้วเขาคิดว่าเป็นเรา ก็มาถามบูมว่าตกลงแพทกับพี่โอ๊ตคบกันใช่ไหม ซึ่งบูมเป็นคนเดียวที่จะเข้าถึงตัวแพทได้ เพราะเราต้องเจอกัน 5 วัน บูมก็เลยมาถามเราแพทก็บอกว่าสุดท้ายถ้าเธอไม่เชื่อฉัน เดี๋ยวจะทักไปถามคุณโอ๊ตให้"
"แพทก็ทักไปถามคุณโอ๊ต เขาบอกว่าไม่ได้ไป ซึ่งคนนั้นก็ไม่ใช่คุณโอ๊ตอีก แพทบอกว่าเอาดีๆ คุณโอ๊ตก็บอกว่าไม่ชอบดูหนังโรงที่คนเยอะ เขาไม่ชอบเป็นเป้าสายตา ชอบดูหนังในบ้านมากกว่า เราก็เลยส่งไปให้บูมดูว่าเคลียร์นะ เราไม่ได้ไปนะ และช่วยไปบอกกับหลายคนที่เข้าใจผิดด้วย"
เผยที่โพสต์แพ้เป็นพระชนะเป็นพี่น้อง ไม่ได้จะสื่ออะไร แค่ลงแคปชั่นไปวันๆ
"จริงๆ เป็นแคปชั่นที่วันๆ เราก็หาในกูเกิ้ล ได้อะไรมาก็โพสต์ไม่ได้เกี่ยวกับพี่โอ๊ตเลย แพทกับพี่โอ๊ตเราเคลียร์กันลงตัวว่าอยู่ให้น้องปอกลอกแบบนี้ไปเรื่อยๆ นะ ถ้าวันนึงเขามีแฟนเราก็จะกลัวว่าเขาจะเปย์แฟนเขาแล้วไม่เปย์เรา แต่ถ้าเขายังบริหารได้เราก็แฮปปี้นะ ที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยบอกว่าเขาคุยอยู่กับผู้หญิงคนไหน ณ วันนี้ยืนยันว่าเป็นเพื่อน พี่น้องกันดีที่สุด ดีกว่า เชื่อแพทเถอะ"
ลั่นความสัมพันธ์ระหว่างตนกับอดีตสามีได้จบบริบูรณ์ลงแล้ว วอนอย่าเอาโพสต์ของอดีตสามี "เบนซ์ อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช" มาโยงกับความสัมพันธ์ระหว่างตนกับหนุ่มโอ๊ต
"อย่าโยงนะ อันนี้ไม่เกี่ยวกันเลย พี่เบนซ์ไม่ใช่คนแบบนั้นและแพทกับพี่เบนซ์ไม่เคยคุยกันเรื่องอื่นแล้ว เราคุยกันแค่เรื่องลูก ความสัมพันธ์ของแพทกับพี่เบนซ์เรียกว่าเราจบบริบูรณ์กันแน่นอนแล้ว"
"ไม่ต้องเช็ก ชัวร์แล้ว คือเราสองคนเลือกที่จะไม่พูดกันแบบนี้มาตั้งแต่แรก เชื่อแพทเถอะว่าคนที่อยู่ในสถานะอย่างแพทมันวัดได้อยู่แล้ว เรื่องไม่ได้เกิดแค่ 3 วัน หรือ 2 อาทิตย์ แบบว่าเดี๋ยวก็รีเทิร์นเพิ่งเลิกกันแค่ 2 เดือน แต่นี่ 2 ปีกว่าจะ 3 ปีแล้ว ที่เราไม่ได้ไปต่อด้วยกัน เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ เราไม่เคยนอนด้วยกัน ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันด้วยซ้ำ ลูกยังแยกกันไปรับ"
พ้อแต่จังหวะมันก็ประจวบเหมาะทำคนอื่นคิดได้จริงๆ
"ด้วยจังหวะมันเหมาะเจาะไปหมดจนเขาต้องบอกว่าแคปชั่นอย่าลงบ่อย แม่ด่าเห็นไหม (หัวเราะ) คือเขาเป็นพวกแคปชั่นเหมือนกัน บางทีเขาไปได้ยินจากเพื่อนในแก๊ง แล้วอยากลงบ้าง พอลงก็แม่ด่า แพทไม่รู้ว่าเขามีคนใหม่หรือยัง อย่างที่บอกว่าเราไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ แต่ที่บอกว่าจบบริบูรณ์ คือแพทก็รอมา 2 ปี 6 เดือนแล้วนะ แพทคิดว่ามันก็ควรสิ้นสุดการรอแล้ว คำตอบมันชัด บางคนอาจจะเลือกที่จะพูด แต่การพูดสำหรับบางคู่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีเสมอไป บางทีเวลาจะทำให้เรารู้เอง"
"นักข่าวอาจจะไม่ได้รู้จักเนเจอร์พื้นฐานของพี่เบนซ์ดี ทุกคนอาจจะคาดหวังว่าการรอคำตอบให้มันชัดเจนมันจะดีกว่า แต่แพทอยู่กับเขามา แพทรู้ไลฟ์สไตล์เขาว่าเขาเป็นคนไม่ชอบพูด แต่ชอบอย่างนี้ ให้ทุกอย่างมันเป็นอย่างนี้ ให้เราคิดเอง เขาคิดว่าการทิ้งเวลาแบบนี้ทุกคนน่าจะเข้าใจตรงกันแล้วนะว่ามันบริบูรณ์แล้ว เพราะถ้ามันไม่บริบูรณ์มันจะต้องมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปกว่านี้"
ไม่ซีเรียสคนจับโยง บอกบางทีคนก็รู้สึกว่ามันประจวบเหมาะเกินไปในหลายๆ เหตุการณ์
"ไม่ซีเรียส ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะโยง บางทีเรายังรู้สึกเลยว่าทำไมจังหวะมันถึงได้ประจวบกันหลายๆ อย่าง แต่แพทจะบอกว่าพี่เบนซ์เขาไม่ทำอะไรอย่างนี้ เมื่อวานก็เพิ่งเจอกัน แต่ก็แยกกันไป อย่างแพทไม่ว่างไปรับแพทก็ให้เขาไปรับ เวลาเขาไปรับเขาก็จะแยกไปเลี้ยงของเขา ซึ่งเราไม่ได้ไปจอยตรงนั้นด้วย แต่เราจะมาเจอกันตอนที่เขามาส่งลูก แล้วก็มีการพูดคุยกัน ซึ่งเหมือนเพื่อนเลย แล้วเราก็คุยกันแต่เรื่องลูก เราจะไม่ก้าวก่ายเรื่องอื่นๆ กัน"
สำหรับตนความรู้สึกกับอดีตสามีได้หมดลงไปแล้ว เหลือแต่ทำหน้าที่พ่อ-แม่ของลูก
"แพทคิดว่านะคะ ถ้าถามแพท ณ ตอนนี้มันถูกเปลี่ยนไปหมดแล้ว ด้วยระยะเวลามันก็เลยคงเหลือไว้เป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกัน ยังเจอหน้ากันได้ แล้วก็ทำหน้าที่ของพ่อและแม่ สุดท้ายแล้วแพทว่ามันดีมาก มันอาจจะเป็นจังหวะชีวิตในช่วงตอนนั้น ถามว่าทำไมเราถึงกลับมาคุยกันเป็นเพื่อนได้ เราแพทกับพี่เบนซ์ไม่เคยทะเลาะกันวันที่เราต้องแยกจากกัน มันมีเหตุไม่ได้คาดฝัน เราไม่ได้มีคนอื่น แต่มันมีเหตุให้เราต้องแยกกัน แล้วมันทำให้เราสองคนกลับมานั่งคิดว่าโอเคอยู่กันแบบนี้ดีกว่า"
บอกที่ผ่านมาลูกชาย "เรซซิ่ง" ไม่เคยถามทำไมพ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ซึ่งตนก็เตรียมคำตอบไว้ให้ลูกแล้วโดยตนเลือกที่จะบอกกับลูกตรงๆ ถึงเรื่องราวทั้งหมด
"ไม่ได้ถามค่ะ เรซซิ่งเป็นเด็กที่อยู่เป็นมากๆ อยู่กับแม่ก็รักแม่ อยู่กับพ่อก็รักพ่อ อยู่กับย่าก็รักย่า อ้อนทุกคน แพทว่าต้องรอโต ตอนนี้แพทคิดว่าเขาเข้าใจว่าเดี๋ยวจะมีวันที่ป๊าไปรับแล้วเขาจะได้อยู่กับป๊ากับคุณย่า แล้วป๊าก็จะพามาส่งแม่ แล้วเขาก็แยกย้าย เขาไม่มีมานั่งถามเลย 3 ขวบรู้เรื่องแล้วนะคะ เขาไม่เคยกลับมานั่งถามแพทว่าทำไมป๊าไม่อยู่ มีแต่บอกว่าป๊ากลับได้แล้ว ถามว่าจะนอนกับใคร จะนอนกับแม่ ส่วนป๊าให้มารับแล้วพาไปเซเว่น พอกลับก็คือกลับ ไม่มีถามเลย เราก็รอดูเขาตลอดว่าเขาจะถามเมื่อไหร่ เพราะเราก็เตรียมคำตอบให้เขาอยู่ทุกวัน เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะถามคำถามนี้กับเราเมื่อไหร่"
"อย่างเวลาไปกิจกรรมที่โรงเรียนเราก็จะไปด้วยกัน เขาก็จะเห็นภาพที่เราไปด้วยกันเพียงแต่เขาไม่ได้เห็นเรานอนด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน ถ้าเขามาถามเราก็จะบอกตรงๆ เลย แพทตั้งใจเลี้ยงเขาเหมือนเพื่อน แพทเป็นคนไม่ได้เลี้ยงลูกแบบสรรหาคำสวยหรู แพทคุยกับลูกตรงมากๆ แพทคิดว่าวันนึงที่เขาถามแล้วเราบอกเขาจะเข้าใจ"