รวมพลังโคราช “ป๋าเต็ด” จับมือ “กอล์ฟ มารุต” ขนกองทัพศิลปินเยียวยาจิตใจชาวโคราชผ่านเสียงเพลง ในงาน Korat Move on เตรียมจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ขอบคุณภาครัฐที่ให้การสนับสนุนทุกภาคส่วน
นับเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญไปทั่วประเทศสำหรับเหตุการณ์กราดยิงที่โคราช แม้จะผ่านเวลามาครบ 1 สัปดาห์แล้ว แต่พี่น้องชาวโคราช ก็ยังคงไม่ลืมความเจ็บปวดจากการสูญเสียในครั้งนี้ ล่าสุด “ป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม” และ “กอล์ฟ มารุต ชุ่มขุนทด” ร่วมมือกันจัดงาน “Korat Move on” รวมพลศิลปินมาให้กำลังใจชาวโคราชผ่านเสียงเพลง อาทิ ตูน บอดี้สแลม, ลุลา, แบงค์ แคลช, วี วิโอเลต, สิงโต นำโชค, โจอี้ บอย, พลพล พลกองเส็ง ฯลฯ ณ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ลานย่าโม)
ป๋าเต็ด : “หลังจากเหตุการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว ก็มีน้องคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนกับผมในเฟซบุ๊ก เขาส่งข้อความมาบอกว่า มันเคยมีเหตุการณ์คล้ายๆ กัน เกิดเหตุรุนแรงที่เมืองแมนเชสเตอร์ในคอนเสิร์ตหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นประมาณอาทิตย์หนึ่งถัดมา เขาก็มารวมตัวกันที่สถานที่เกิดเหตุแล้วก็จัดเป็นงานชื่อว่า วัน เลิฟ แมนเชสเตอร์ มันคล้ายๆ กับเป็นการเยียวยา ปลอบโยนทั้งผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ผู้ที่อยู่รอบๆ เพื่อจะได้รับรู้ร่วมกันว่าเหตุที่เกิดนี้ ถึงแม้ว่าผู้คนที่ไม่ได้อยู่ที่นั่นก็รับรู้ได้ อยากแสดงความห่วงใยแสดงความรัก ก็เลยโทรหากอล์ฟซึ่งก็เป็นคนพื้นที่โคราชว่า ถ้าสมมติว่าเราจะทำอะไรในทำนองนี้ ผมชวนศิลปินมาร่วมกัน มาแสดงความห่วงใยคล้ายๆ กับว่า เหมือนเรารู้ว่าเพื่อนเราแย่ เราก็อยากจะไปเยี่ยมเพื่อนเรา ไปนั่งคุยกัน แล้วบังเอิญพวกเราอยู่ในอาชีพนักร้องนักดนตรี สิ่งที่เราทำได้ก็คงจะใช้เสียงเพลงในการปลอบโยน แล้วก็คุยกันกับผู้คนในโคราช”
“หัวใจสำคัญที่ผมย้ำกับคุณกอล์ฟเลยว่า เรามีปรารถนาดีที่จะทำสิ่งนี้ แต่ผมอยากมั่นใจว่ามันถูกต้องถูกกาลเทศะ ที่สำคัญคือคนโคราชต้องการสิ่งนี้หรือไม่ ณ เวลานี้ เพราะเราจะไปเยี่ยมบ้านใคร เราก็ต้องขออนุญาตมันคือหลักการง่ายๆ ซึ่งพอคุณกอล์ฟสอบถามในหมู่ผู้คนที่นี่ ก็พบว่าคนโคราชต้องการสิ่งนี้เปิดบ้านให้เรามาเยี่ยมได้ ก็เลยกลายเป็นภายในเวลาแค่ไม่ถึงสัปดาห์หนึ่ง งานนี้ก็เกิดเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา”
รูปแบบงานในวันนี้จะเป็นเวทีเล็กๆ ออกแบบมาให้ทุกคนได้นั่งดู เหมือนเป็นการได้นั่งคุยกัน มีเสียงเพลงเป็นสื่อที่จะส่งความรู้สึกให้กันในด้านบวก ในด้านซัพพอร์ต ในเรื่องกำลังใจ
ป๋าเต็ด : “จะมีเวทีเล็กๆ ที่ออกมาแบบมาให้ทุกคนได้นั่งเป็นเพื่อนกัน เราจะออกแบบให้เวทีค่อนข้างเตี้ยคือยืนไม่ได้เลย ยืนปุ๊บก็จะบังทันที เพราะว่าสิ่งที่เราต้องระมัดระวังที่สุดก็คือ นี่ไม่ใช่คอนเสิร์ต นี่ไม่ใช่งานรื่นเริง นี่คือโอกาสที่เราจะได้นั่งอยู่ด้วยกันพูดคุยกันแชร์ความรู้สึกกัน สิ่งที่เราจะมอบให้บรรดาศิลปินก็จะมอบเสียงเพลงพลังบวกพลังใจ ผ่านสิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุดก็คือเสียงเพลง แต่ละคนก็จะเตรียมเพลงที่เหมาะสม ในบรรยากาศที่เหมาะสม แต่ว่าด้วยความที่มันมีเวลาเตรียมตัวน้อย มันจึงเป็นเรื่องเกือบจะเรียกได้ว่า ทุกอย่างทำขึ้นมาแบบออแกนิกมาก นักดนตรีไม่ว่างก็ต้องช่วยหานักดนตรี ยังไม่ได้เรียบเรียงเพลงใหม่ เราก็มาดูกันว่าอะไรจะทำได้ มันค่อนข้างจะออแกนิกมาก แต่โดยรวมมันคือการนั่งพูดคุยกัน แล้วก็มีเสียงเพลงเป็นสื่อที่จะส่งความรู้สึกให้กันในด้านบวก ในด้านซัพพอร์ต ในเรื่องกำลังใจ”
แม้ “ป๋าเต็ด” จะเป็นผู้ริเริ่มงานนี้ แต่กำลังในการการจัดงานครั้งนี้ เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชาวโคราช
“เหตุการณ์แบบนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทย ผมยอมรับเลยว่า คงไม่ใช่แค่พวกเราที่จัดงานนี้ ความจริงทุกคนที่เกี่ยวข้องเรายังรับมือกับเหตุการณ์นี้กันถูกบ้างผิดบ้าง ผมว่าทุกคนปรารถนาดี เพียงแค่ว่าเราไม่เคยเจอสิ่งนี้ ฉะนั้นในความปรารถนาดีนั้น บางทีมันอาจจะมีเรื่องที่ทำไปผิดพลาดกันไป ผมว่าในวันนี้ก็เช่นเดียวกัน ผมคงบอกได้แต่ว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นด้วยปรารถนาดีทั้งหมด ทั้งพวกเราทั้งผู้คนที่โคราช ซึ่งจริงๆ แล้วกำลังหลัก 90 เปอร์เซ็นต์เลยคือคนที่โคราช สิ่งที่ผมและทีมศิลปินทีมงานที่มาจัดงานในวันนี้จริงๆ เป็นแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นเวที เรื่องการขออนุญาตเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทุกอย่าง คือคนโคราชล้วนๆ เลย เราก็เลยได้แต่เชื่อว่า ความปรารถนาดีนี้ มันจะส่งพลังงานดีๆ ไปให้กับทุกคนที่อยู่ในภาวะที่สะเทือนใจมากๆ”
นอกจากจะมีการเยียวยาจิตใจชาวโคราชด้วยเสียงเพลงแล้ว จากนี้ก็จะมีกิจกรรมเยียวยาจิตใจในด้านอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมด้านศิลปะ กิจกรรมด้านกีฬา รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญมาบำบัดจิตใจ
กอล์ฟ : “ในลักษณะของการเยียวยาต่างๆ ก็วางไว้อย่างเป็นระบบ มีการวิเคราะห์ออกมาว่าจริงๆ แล้วในแต่ละกลุ่ม แต่ละวงที่ได้รับผลกระทบ เริ่มต้นตั้งแต่วงแคบที่สุดคือคนที่อยู่ในเหตุการณ์ แล้วก็มีกลุ่มผู้สูญเสียโดยตรง แล้วก็เป็นกลุ่มที่ติดอยู่ในพื้นที่ แล้วก็เป็นกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนรอบข้าง แต่ละวงถูกผลกระทบไม่เหมือนกัน ซึ่งแต่ละกลุ่มก็ต้องได้รับการดูแลอย่างที่เหมาะสม ตรงนี้คือความยากเพราะว่าคำว่าเหมาะสมของแต่ละกลุ่มไม่เหมือนกัน ความเศร้าความทุกข์ใจ ความเจ็บปวด ต้องทำการศึกษาครับ แล้วก็ได้รับความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่ายเยอะมาก”
“ต้องบอกขอบคุณเยอะมากๆ มีคุณหมอ มีกรมสุขภาพจิต มีผู้เชี่ยวชาญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากต่างประเทศ จากอิสราเอล จากหลายๆ ประเทศส่งเข้ามา ก็เป็นองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่เราก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็ต้องยอมรับว่าอันนี้ก็คือสิ่งหนึ่งที่เราต้องติดตามดูว่า มันได้ผลยังไงบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือทำยังไงให้มีพื้นที่ของการรวมตัว รวมพลังกัน แค่เราเห็นพลังบวกอยู่รวมกันเยอะๆ เราก็เริ่มใจชื้นขึ้น จริงๆ เราไม่ได้มองว่าแค่มีนักข่าวมาหรือมีศิลปินมา เรามองว่าทุกคนมีการแสดงความเห็นอกเห็นใจ มีความเข้าใจในการเดินเข้ามาหาคนโคราช แล้วก็ช่วยกันถ่ายทอดเรื่องพวกนี้ออกไปทั้งหมด ส่วนผลลัพธ์จะเป็นยังไงเรายังคาดคะเนไม่ถูก แต่ว่าในขั้นตอนของการทำงาน ก็จะถูกออแกไนซ์ออกมาอย่างเป็นระบบระเบียบครับ”
“ตอนนี้นอกจากจะเยียวยาผ่านเสียงเพลงแล้ว เรายังวางกิจกรรมไว้อีกในหลายรูปแบบด้วยกันนะครับ รูปแบบของศิลปินเป็นรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเราเห็นได้ชัดแล้วก็จับต้องได้ ในสัปดาห์ถัดไปก็จะมีเรื่องของกิจกรรมบำบัดอื่นๆ มีผู้เชี่ยวชาญมานั่งพูดคุย นัดคุยตัวต่อตัว หรือเป็นกลุ่ม หรือมีเป็นงานศิลปะ เอาศิลปะบำบัด ไม่ว่าจะเป็นบทเพลง ดนตรี หรือการวาดภาพ หลายๆ อย่างเข้ามา รวมไปถึงมูลนิธิซิโก้ พี่ซิโก้เองก็มาช่วยจัดกิจกรรมให้น้องๆ มาเตะฟุตบอล ได้รีแลกซ์ ได้ผ่อนคลาย รวมไปถึงอาจจะมีหนังกลางแปลง มีหนังสั้นที่ผู้กำกับช่วยกันทำแล้วก็มาฉายที่โคราช รวมไปถึงมีศิลปินแต่งเพลงเฉพาะ อันนี้น่าสนใจมากๆ แล้วก็ในทุกอย่าง ทุกกระบวนการที่ถูกทำทั้งหมด จะถูกถ่ายทอดออกไปให้เห็นว่าคนทั้งประเทศช่วยกันยังไง”
สำหรับการจัดกิจกรรมเยียวยาผ่านเสียงเพลงครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย มีอาสาสมัครเข้ามาช่วยมากมาย ทั้งภาครัฐทหารตำรวจหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงประชาชน
กอล์ฟ : “ทั้งงานวันนี้ไม่มีตรงไหนที่ไม่ใช่อาสาสมัครเลย เป็นอาสาสมัครหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ ระบบซาวน์ด ระบบเสียง จอ คนทำงาน คนยกของ ดูแลความปลอดภัย น้ำดื่ม 1 ขวด ก็ยกมือขอใครจะอาสา กระดาษ 1 ใบ ถุงขยะทุกคนก็ช่วยกันหมดเลยครับ อันนี้คือภาพความประทับใจมากๆ ครับ”
“เราได้รับการสนับสนุนที่มาจากทุกภาคส่วน มาช่วยดูแลทั้งเรื่องของการเป็นระเบียบเรียบร้อย คาดว่าจะมีคนมากันเยอะวันนี้ เราก็กังวลและมีหลายภาคส่วนที่กังวลเรื่องความปลอดภัยเรื่องอะไรต่างๆ ก็มีเข้ามาทั้งหมดเลยครับ มีทุกหน่วยงานมา ทั้งทหารตำรวจ ก็ออกมาช่วยกัน อันนี้ขอบคุณมากๆ ครับ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการที่เราจะจัดงานอะไรขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว มันข้ามขั้นตอนทั้งหมดเลยนะครับ แล้วก็สร้างผลกระทบในหลายๆ ภาคส่วนเหมือนกัน มันเป็นเรื่องที่บางครั้งเรา กลุ่มที่เกิดขึ้นมาก็เป็นใครไม่รู้ที่อยากจัดเรื่องนี้ขึ้นมา คุยกับภาครัฐบางครั้งก็ต้องนั่งอธิบายกัน ทำความเข้าใจกัน แต่สุดท้ายมันกลับมาที่เจตนารมณ์ที่ดี ก็บอกว่าเรารวมกลุ่มกันมาเพื่อทำเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ถ้าจะช่วยทำอะไรได้”
วอนมองข้ามเรื่องการแบ่งพรรคแบ่งฝ่าย ขอให้มองที่เจตนารมณ์ ที่ทุกคนอยากจะมาร่วมมือร่วมแรงกันอย่างสามัคคี
กอล์ฟ : “ก็ขอความร่วมมือนะครับว่าในโมเมนต์แบบนี้ ก็อยากจะร่วมมือร่วมแรงกัน ไม่อยากให้ใครเห็นว่า คนนี้อยู่ฝ่ายไหน อะไรยังไงบ้าง แต่ว่าใครทำอะไรได้ ออกมาเลย ใครทำอะไรได้ช่วยเลย ก็ได้รับฟีดแบ็กที่ดี แล้วก็ได้เห็นว่าทุกคนมีภาพของความสามัคคีกัน เป็นโมเมนต์แบบนี้แหละครับ ที่เราอยากจะสร้างขึ้นมาใหม่ ต่อไปหลังจากนี้ก็จะได้มีความร่วมมือที่แข็งแกร่งมากขึ้น”
เปิดรับไอเดียเยียวยาชาวโคราช
ป๋าเต็ด : “ผมเชื่อว่าทีมโคราชสตรอง ก็ยังยินดีรับคำแนะนำ ไอเดีย ที่จะทำให้การเยียวยาการปลอบโยนกัน มันสามารถทำได้รอบด้านมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องบอกว่ามันก็ยังมีไอเดียที่เรายังคิดไปไม่ถึง ที่ทีมโคราชยังคิดไปไม่ถึงอีกมากมาย ดังนั้นเนี่ย เปิดรับไอเดียกันครับ แล้วถ้ามีอะไรที่ผิดพลาดไปเราก็น้อมรับความผิดเหล่านั้น อย่างที่ผมบอกว่าเราไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เรายังไม่รู้วิธีการรับมือที่ถูกต้อง และเราก็หวังว่าสิ่งที่เราพยายามช่วยกัน ณ วันนี้ มันก็จะเป็นแบบอย่าง อะไรผิด อันนี้ไม่ควร อันนี้ถูกต้อง ทำต่อไป เพื่อที่เราจะได้พร้อมรับมือทุกสิ่งทุกอย่างที่มันอาจจะเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต”