"ณวัฒน์" พักนางงาม ลุยสร้างหนังน้ำดีรองรับงานให้มิสแกรนด์ ยอมรับลุ้นเรื่องเศรษฐกิจ แต่ควักเงินไปแล้วร่วม 30 ล้าน ขอเดิมพันด้วยความสามารถ บอกเตรียมยันต์หลวงพี่น้ำฝนแปะหลังเก้าอี้ทุกโรง ใครมาดูจะเฮงตลอดปี ฟุ้งพล็อตเรื่องที่สองรอแล้ว จะเสิร์ฟดรามาให้จุกๆ
ฮือฮาไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่ "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" ประธานและผู้ก่อตั้งเวทีการประกวดมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ หันมาลุยธุรกิจภาพยนตร์ นั่งแท่นผู้อำนวยการสร้างครั้งแรก กับภาพยนตร์เรื่อง "รักข้ามคาน" โดยวันนี้ได้จัดงานแถลงอย่างเป็นทางการ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าสาเหตุที่มาลุยงานด้านนี้ เพราะอยากให้น้องๆ มิสแกรนด์มีงานรองรับ แม้จะมีเสียงคัดค้านก็บ่ยั่น
"เนื่องจากเราขึ้นปีที่ 8 แล้ว เรามีศิลปินในสังกัดค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่จะเล่นละคร บางทีศิลปินบางคนอยากจะทำอะไรบางอย่าง อยากจะแสดงความสามารถแล้วยังไม่มีโอกาส จุดเริ่มต้นคือเราต้องการแจกจ่ายกับน้องๆ คิดว่าบางทีเราทำอะไรแล้วเราสามารถกำหนดอะไรต่างๆ เองได้ เรารู้สึกว่าเราได้อิสรภาพมากขึ้น เราเลยคิดว่าภาพยนตร์น่าจะโอเค แต่หลายคนก็ค้านว่ายุคนี้ทำไปก็อาจจะพลาดท่าเสียที เพราะที่ผ่านๆ มาใครทำกันก็ไม่ค่อยจะได้เงินเท่าไหร่ ก็คิดอยู่นะแต่ก็มาคิดอีกว่าถ้าไม่เคยลอง ไม่เคยสู้จะไม่มีคำตอบที่แท้จริงเลยได้เริ่มต้นเป็นภาพยนตร์รักข้ามคาน"
"เราวางแผนกันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เรามีรางวัลพิเศษกับเอ็ม พิคเจอร์ ซึ่งน้องคนที่ได้จะได้เงินรางวัล 1 แสนบาทและได้เซ็นสัญญาเป็นนางเอกทันที เราเอาน้องๆ มารวมตัวทำเวิร์กช็อป 10 วัน เอาอาจารย์ชั้นดีไปทำการสอนการแสดง แล้วห้ามให้เขาออกจากบริเวณ เพื่อให้เขาได้จินตนาการในการเป็นนักแสดง มีการซ้อมถ่ายทำจริงในโลเกชั่นที่ไม่จริงหลังจากนั้นเมื่อเราย้ายไปถ่ายโลเกชั่นจริงมันจะเร็วขึ้น หนังเรื่องนี้จะได้ชมความงามตั้งแต่เชียงคานถึงน่าน เป็นหนังที่ขายวิว ขายเพลงเก่า"
"บางคนมีหนังสองเรื่องในหัวใจคือหนังตลกกับหนังผี ผมว่าเราห่างหายจากหนังรัก ไม่แย่งชิง ไม่แย่งสมบัติ ไม่แย่งสามีภรรยา ไม่ข่มขืนกระทำชำเรามานานแสนนาน อยากสร้างหนังน้ำดีให้คนต้องนั่งดู เลยเป็นแรงบันดาลใจขีดเส้นใต้ไว้เลยว่าเราต้องทำหนังน้ำดี"
รับคิดเรื่องเศรษฐกิจ ควักเงินไป 30 ล้าน เชื่อคนจะต้องยอมเสียเงินเข้าไปพิสูจน์ผลงาน ไม่ได้ทำจะเสียดายกว่า เดิมพันด้วยความสามารถ
"ทุกคนคิดหมดรวมถึงคนรอบตัวเราด้วย เราควักเงินไป 30 ล้านแล้ว เราจะไหวไหม ตอบตรงๆ ว่าเราก็ลุ้นกันพอสมควร แต่มิสแกรนด์ของเราเวลาทำอะไรแล้วเราน่าจะสร้างความน่าเชื่อถือได้ ให้คนยอมเสียเงิน 200 บาท เพื่อเข้าไปพิสูจน์อีกหนึ่งผลงานของเรา มีคนบอกว่าถ้าไม่ได้ทำมันน่าเสียดายยิ่งกว่าทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จหรือประสบความสำเร็จ ก็ขอเดิมพันด้วยความสามารถของเรา"
บอกจะแปะยันต์หลวงพี่น้ำฝนหลังเก้าอี้ทุกโรง ใครดูจะเฮงตลอดปี
"เรื่องต้อนคนเข้าดูหนังก็ตามสไตล์ผมครับ เดี๋ยวก็ต้องหาวิธีโซเชียลไวรัลนิดนึง(หัวเราะ) เรื่องนี้เป็นหนังน้ำดี ส่วนวิธีการต้อนก็จะไปขอยันต์พี่น้ำฝนเอาไปแปะหลังเก้าอี้นั่งทุกโรงใครเข้าไปนั่งแล้วจะเฮงตลอดปี เดี๋ยวก็ดูอีกทีว่าเราจะทำกันยังไงบ้าง จะเข้าฉาย 2 เมษายนทุกโรงภาพยนตร์"
เชื่อดรามาเดี๋ยวก็มา จะจัดให้จุกๆ
"ผมว่าเรื่องของดรามาเดี๋ยวมันก็มา แต่ที่คิดไว้ดรามาจัดๆ จะเป็นเรื่องที่สองครับ เอาให้ถูกใจจุกๆ เรื่องนี้เราอยากจะเถียงว่าคนไทยไม่ดู อยากจะเถียงทำไมคนไทยชอบตลก อยากจะเถียงว่าทำไมคนไทยชอบผี ก็อยากจะเห็นว่าหนังน้ำดีก็สามารถโกยเงินได้"
"เรื่องที่สองก็คงต้องมีสลับเพศกันบ้าง มีคิดไว้แล้ว เป็นเรื่องเบาๆ สนุกๆ เรื่องต่อไปมีพล็อตเรื่องแล้วเหลือแค่ไปขยี้แล้วดูผลประกอบการครั้งนี้ก่อน ถ้าอยากชมเรื่องสองอย่างแซบๆ ก็ต้องติดตามรักข้ามคานให้ข้ามฝั่งไปเรียบร้อยก่อน ค่อยเป็นเรื่องแซบๆ ในวงการ"