"เต๋า สมชาย" เสี่ยงตาย เตรียมวิ่งมาราธอนที่ขั้วโลกเหนือ อากาศติดลบ 40 องศา หนาวที่สุดในโลก เพื่อเงิน 1 ล้านช่วยผู้ป่วยโรคมะเร็ง ลั่นอินเพราะสูญเสียพ่อแม่จากโรคนี้ ชี้จะเป็นมหากุศลอันประเสริฐ บอกท้าทายตัวเอง อะไรไม่เคยก็ทำซะ
ลุกขึ้นมาทำเรื่องราวดีๆ สำหรับอดีตพระเอก "เต๋า สมชาย เข็มกลัด" โดยยอมเสี่ยงชีวิต วิ่งมาราธอนที่ขั้วโลกเหนือ ซึ่งอากาศติดลบถึง 40 องศา หนาวที่สุดในโลก เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็ง งานนี้เต๋าเปิดใจว่าต้องฟิตร่างกายให้ดีที่สุด
"ตอนนี้ผมทำแคมเปญกับ FWD คือวิ่งเพื่อช่วยผู้ป่วยโรคมะเร็ง การแชร์ครั้งนี้เขาจะให้ 6 บาท ถ้าแชร์ครบแสนครั้งก็จะให้ 6 แสนบาทเลย แล้วสิ่งสำคัญคือถ้าผมทำสำเร็จที่ขั้วโลกเหนือมาราธอนกับอากาศ -40 องศา ซึ่งจะไปกับพี่ป๊อก(อิทธิพล สมุทรทอง) ทำสำเร็จเมื่อไหร่เขาก็จะให้อีก 4 แสนบาท ทั้งหมดแคมเปญนี้เขาให้เลยกับสถาบันมะเร็งธัญญารักษ์ 1 ล้านบาท"
ต้องแข็งแรงที่สุด สู้อากาศที่ติดลบถึง 40 องศา
"อย่างแรกคือเราต้องแข็งแรง ระยะ 42 กิโลเมตรผมก็วิ่งมาแล้ว แล้วเราก็พยายามศึกษาวิธีการว่าทำยังไงจะวิ่งให้มันดีขึ้น เร็วขึ้น เหนื่อยน้อยลง สุดท้ายพอมาเจอสภาพอากาศที่มันไม่ใช่แค่ 5 องศา หรือ 0 องศา แต่นี่คือ -40 เลย ฉะนั้นเราต้องแข็งแรง ไม่ใช่พอไปเจออากาศที่เปลี่ยนแล้วไม่สบาย งานมันก็จะหนักขึ้น แทนที่จะเพียวๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วออกไปลุยกับมัน ช่วงนี้ก่อนถึงเดือนเม.ย.ก็คงต้องซ้อมเยอะ แบ่งเวลาเยอะเพราะว่ามีถ่ายละครด้วย"
ความเสี่ยงคือความตื่นเต้น และบันเทิงในชีวิต
"ความเสี่ยงมันก็คือความตื่นเต้นอย่างหนึ่ง แล้วความตื่นเต้นมันก็คือความบันเทิงในชีวิต สิ่งสำคัญผมเชื่อว่าถ้าเราเตรียมพร้อมซ้อมให้ดี มีโปรแกรมที่ดี มีโค้ชที่ดี ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ชาเลนจ์ตัวเองมากๆ แต่ว่าการเสี่ยงทุกอย่างในโลกนี้มันต้องปลอดภัย เหมือนผมเล่นหนังแอ็กชั่นก็เหมือนทำงานที่ต้องเสี่ยงตลอดเวลา อันนี้ก็เหมือนกันผมวิ่งมาแล้ว 6 มาราธอนในหนึ่งปี ครั้งนี้ก็ต้องชาเลนจ์เข้าไปอีกคือเป็นมาราธอนที่หนาวที่สุดในโลก มันต้องลอง"
"สิ่งสำคัญคือผมเชื่อว่าเรามีสุขภาพที่แข็งแรง เราอยู่กับลูกน้อย อยู่กับครอบครัวไปนานๆ มันคือสิ่งที่ดี การทำอะไรให้ตัวเองผมว่ามันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่แล้วนะ แต่การที่เราได้ทำอะไรให้คนอื่นโดยที่คนที่ต้องการความช่วยเหลือให้เขายังมีชีวิตอยู่ ช่วยกันคนละไม้ละมือผมว่ามันเป็นมหากุศลอันประเสริฐ"
รู้สึกอินเพราะสูญเสียพ่อแม่จากโรคมะเร็ง
"จริงๆ ผมวิ่งมาราธอนปกติอยู่ที่ 6 ชั่วโมง ครั้งนี้อะไรก็ได้แต่ต้องจบ(ยิ้ม) สิ่งสำคัญคือพอเขาติดต่อมาในเรื่องของผู้ป่วยโรคมะเร็ง ผมรู้สึกอินเพราะคุณพ่อคุณแม่ผมเพิ่งเสียไป 3 ปีจากโรคมะเร็ง รู้สึกว่าทำไมโรคนี้มันช่างโหดร้าย เวลาตรวจเจอว่าเป็นมะเร็งไม่ว่าจะพ่อหรือแม่ผม คือเขาอยู่ได้แค่ประมาณ 3-4 เดือนเองแล้วเขาก็จากไป วันนี้ถ้าเราทำอะไรได้หลายๆ อย่างก็ควรจะต้องทำอะไรให้คนอื่นๆ ดูอย่าง ตูน บอดี้สแลม (อาทิวราห์ คงมาลัย) เขาไปวิ่งหาเงินช่วยรพ.ต่างๆ ผมก็ไปวิ่งกับเขาทุกครั้ง ล่าสุดเขาวิ่ง 5 ภาคถ้าไม่ติดอะไรผมก็อยากวิ่งให้ครบ วันนี้มาถึงมุมของเราที่สามารถช่วยคนอื่นได้โดยการแชร์ของทุกคน ลองดูครับ อะไรที่ยังไม่เคยทำก็ทำซะสมชาย ฝากเชียร์ด้วยนะครับ"