ยิ่งใกล้แต่ง ยิ่งหวานหยด "จ๊ะจ๋า" เผย "จิ๊บ" ก่อนแต่งก็ให้แหวนเพชรแล้ว 3 วง!

"จ๊ะจ๋า" เผยความโรแมนติกหวานหยดของว่าที่สามี "จิ๊บ วสุ" ยังหวานขึ้นทุกวัน ซื้อแหวนเพชรให้แล้วถึง 3 วง แถมยังดูแลเทคแคร์เสมอต้นเสมอปลาย อาจจะมากกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ บอกแพลนแต่งตอนนี้วางเป็นสเต็ปไว้คร่าวๆ เพราะยังไม่ได้มีการดูฤกษ์แบบจริงจัง แต่เรื่องรายละเอียดปลีกย่อยเตรียมไว้หมดแล้ว ถ้าคิดจะเริ่มเมื่อไหร่งานก็เดินได้ทันที เผยไม่เคยคิดว่างานแต่งจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ยอมรับว่าแอบมีเถียงกันบ้าง แต่สุดท้ายกลับได้คำตอบที่ว้าวตรงกันเสมอ

เป็นคู่ที่หวานหยดน้ำตาลเรียกพี่เสมอมาตลอด สำหรับคู่ว่าที่บ่าวสาวอย่าง "จ๊ะจ๋า พริมรตา เดชอุดม" กับนักร้อง-นักแสดงรุ่นใหญ่ "จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้ว" ที่สาวจ๊ะจ๋าเผยว่า แค่ปีที่ผ่านมาหวานใจก็ซื้อแหวนเพชรแทนใจให้แล้วถึง 3 วงด้วยกัน บอกหนุ่มจิ๊บเป็นคนที่โรแมนติกมาก และเอาใจใส่ในรายละเอียดทุกอย่างมาตลอด แถมดูจะหวานมากขึ้นกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ

"ตอนนี้รวมๆ แล้วแหวนที่พี่จิ๊บซื้อให้ก็มี 3 วงแล้วค่ะ (ยิ้ม) คือเวลาจ๊ะจ๋าจะซื้อ พี่จิ๊บก็บอกว่าเก็บเงินไว้ดูแลครอบครัวดีกว่า เดี๋ยวเรื่องนี้พี่ดูแลเอง (ยิ้ม) วงนึงที่ให้ก็จะเป็นเมื่อวันเกิดจ๊ะจ๋าที่ผ่านมาค่ะ วงนึงก็เป็นตอนที่ขอแต่งงาน ส่วนอีกวงก็มาช่วยอุดหนุนพี่ที่รู้จักเขาเปิดร้านเพชรด้วย ซึ่งจ๊ะจ๋าเองอย่างวันเกิดเราก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ของขวัญที่มันมีมูลค่า 6 หลักขนาดนั้น แค่การ์ดใบนึง หรือแค่ไปกินข้าวด้วยกันจ๊ะจ๋าก็มีความสุขแล้ว ชอบแบบนั้นมากกว่า แต่ว่าพอวันนึงพี่จิ๊บเขาบอกว่าสิ่งที่จ๊ะจ๋าชอบเขาให้อยู่แล้วทุกวัน แต่วันที่พิเศษแบบนี้ก็อยากจะให้จ๊ะจ๋าคิดถึงเขาทุกวัน (ยิ้ม) พี่จิ๊บเขาเป็นคนมีความโรแมนติกสูงมากค่ะ เป็นคนมีดีเทล มีรายละเอียดเยอะ"

"แต่ต้องยอมรับว่าจ๊ะจ๋าเองเป็นคนไม่ค่อยระวังเท่าไหร่ (หัวเราะ) เวลาใส่ก็จะต้องมีสติมากขึ้นเวลาเดิน เวลาจะทำอะไร แต่ถ้าให้ถึงขั้นระมัดระวังเลยก็จะทำให้เราไม่กล้าใส่ แต่เพชรสมัยนี้การดีไซน์หรือเรื่องของความแน่นหนาในการประกอบมันก็แน่นมาก เรียกได้ว่าสามารถใส่แล้วรู้สึกสบายๆ ได้ แต่เราก็ต้องรู้ว่าสิ่งที่เราใส่อยู่มันมีราคานะ และมันก็ช่วยเสริมสง่าราศี เสริมบุคลิกภาพได้ ก็ต้องระวังนิดนึง (ยิ้ม)"

เผยถ้ามีเวลาว่างก็จะนัดกันไปเที่ยว เติมความหวานให้กันตลอด
"คู่เราไปเที่ยวกันบ่อยค่ะ ถ้าเกิดมีจังหวะไปเที่ยวต่างประเทศได้ก็ไป แต่ถ้าไม่ได้ก็เที่ยวในประเทศนี่แหละ ที่ไปบ่อยสุดคือโคราชค่ะ ไปเขาใหญ่กัน แล้วบ้านเราปลายๆ ปีก็อากาศดี ได้สัมผัสอากาศหนาวกันบ้างก็ไปซะหน่อย ส่วนใหญ่จะเป็นการวางแผนเช็คเวลากันล่วงหน้าก่อนค่ะว่าว่างตรงกันหรือเปล่า ส่วนใหญ่จะไปกับคุณแม่ด้วย คือจะพาคุณแม่พี่จิ๊บไปพักผ่อนด้วยค่ะ"

"พี่จิ๊บหวานเสมอต้นเสมอปลายมั้ยเหรอ จ๊ะจ๋าว่าเขาหวานขึ้นนะ (ยิ้ม) เหมือนสิ่งที่เขาทำให้เขาก็ทำให้ทุกวันแหละ แต่เขาก็ต้องหาอะไรที่มันมากขึ้นสำหรับตัวเขาเองอยู่ตลอดเท่าที่จ๊ะจ๋ารู้สึกนะคะ (ยิ้ม) แต่สำหรับจ๊ะจ๋าอาจจะไม่ใช่คนหวานอะไรขนาดนั้น แต่จะเป็นความสนุกสดใสมากกว่า จ๊ะจ๋าจะเป็นคนที่ชอบเติมพลังให้เขาในทุกๆ วัน อย่างวันไหนที่เขาเหนื่อย จ๊ะจ๋าก็จะเล่นตลกให้เขามีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ ซึ่งจ๊ะจ๋าว่าสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่ความมากขึ้นทุกวัน แต่มันคือความสม่ำเสมอว่าเรามีความรู้สึกดีๆ ให้กันสม่ำเสมอหรือเปล่า"

บอกแพลนแต่งตอนแรกยังไม่ได้ดูฤกษ์ เลยยังกำหนดวันไม่ได้สักที แต่คงต้องคุยกันใหม่
"แพลนงานก็คงปีหน้าค่ะ ก็ยังไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่ แต่ก็มีผุู้ใหญ่คอยมาช่วยดูให้ค่ะ เพราะคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมมากๆ แล้วค่ะ เรื่องฤกษ์ก็คงเป็นฤกษ์สะดวก ซึ่งพอรู้สึกว่าตรงไหนที่มันเริ่มไม่สะดวกเราก็เลื่อนไปก่อน คือความมุ่งมั่นอาจจะยังน้อยเกินไป ก็อาจจะต้องคุยกันใหม่ว่าเราอาจจะต้องไปดูฤกษ์ให้เป็นเรื่องเป็นราวดีมั้ย แต่ตอนนี้ในส่วนที่จัดเตรียมไว้แล้วก็มี คือเตรียมไว้บ้างแล้วค่ะ คือจ๊ะจ๋าก็เตรียมขั้น 2 3 4 ไว้หมดแล้ว พอถ้าเริ่มเข้าขั้นแรกเมื่อไหร่มันก็จะรันไปตามสเต็ปได้ทันที"

"ที่เตรียมไว้แล้วก็คือคนที่จะจัดงานให้เรามีแล้วค่ะ การ์ดก็ดูไว้แล้ว คือมันเป็นเรื่องของรายละเอียดปลีกย่อย ซึ่งตรงนี้จ๊ะจ๋าไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ ส่วนเรื่องชุดนี่ยังค่ะ ขออุบไว้ก่อน (ยิ้ม) จะเป็นแบรนด์อะไรก็ได้ค่ะที่เป็นตัวจ๊ะจ๋ากับพี่จิ๊บ ก็มีดูๆ ไว้แล้วค่ะ (ยิ้ม) เราคุยกันตลอดเรื่องแพลนงานค่ะ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราคุยเราจะรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข แต่ช่วงนี้มันยังติดที่เวลา เพราะพี่จิ๊บก็เพิ่งจบละครเวทีไปเมื่อกลางปีและมีละครต่ออีก จ๊ะจ๋าเองก็มีละคร ซึ่งพอมันเป็นงานของคนส่วนรวมด้วย เราก็เลยคิดว่าของเราเองก็ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปก็ได้ ก็ไม่ติดอะไรค่ะ"

ยอมรับมีเริ่มมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่พอสุดท้ายกลับตกลงกันด้วยความว้าวอย่างน่าประหลาดใจทุกครั้ง
"นี่เป็นเรื่องใหญ่มากเลยนะ จ๊ะจ๋าไม่เคยคิดว่าการแต่งงานจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เคยคิดมาเสมอเลยว่ามันเป็นแค่หนึ่งอีเว้นท์ แต่พอวันที่เราจะต้องแต่งงานจริงๆ เลยรู้เลยว่ารายละเอียดต่างๆ ที่จะต้องถ่ายทอดออกไป รวมถึงแขกทุกคนที่เราให้ความสำคัญมันมีความหมายมากค่ะ จริงๆ วาดภาพความฝันงานแต่งไว้หลายอย่างมาก แต่สุดท้ายก็ต้องมาดูว่าความฝันของเราทั้งคู่เป็นแบบไหน ก็ต้องเป็นความฝันของทุกคนร่วมกัน"

"มีเถียงกันตลอดค่ะ แต่เมื่อไหร่ที่เริ่มมีเถียงกันจะหยุดเลย แยกกันไปทำอย่างอื่นก่อน เพราะจ๊ะจ๋าจะบอกเลยตั้งแต่แรกว่าถ้าเราทะเลาะกันเรื่องแต่งงานเมื่อไหร่ จ๊ะจ๋าไม่โอเคนะ เพราะการแต่งงานคือความสุข เพราะฉะนั้นเราคุยกันด้วยเหตุผล เราขัดแย้งกันได้ แต่เราจะไม่ทะเลาะกัน ความเห็นต่างสุดขั้วก็มีนะ เพียงแต่ว่าถ้าเริ่มใช้อารมณ์กันเราจะหยุดคุยก่อน แล้วเราค่อยมาคุยกันด้วยเหตุผล และสุดท้ายเราจะได้ข้อสรุปที่ว้าวเสมอ ซึ่งเรากลับชอบทั้งคู่นะ หลายครั้งที่เป็นแบบนี้ (ยิ้ม)"