เปิดชีวิต "สมรักษ์ คำสิงห์" ไม่ได้โม้ ดันลูกเป็นนางเอก-ยูทูเบอร์ ฟันรายได้ต่อเดือนหลักแสน ไม่อายล้มละลาย ต้องขอเงินลูก
รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.55 - 14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (5 ธ.ค.) พิธีกรสาว "นลิน สิงหพุทธางกูร" ได้เปิดใจสัมภาษณ์คุณพ่อนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก "สมรักษ์ คำสิงห์" เนื่องในวันพ่อ มาพร้อมกับ น้องเบสท์ ลูกคนโต และ น้องโบ๊ท ลูกคนเล็ก พร้อมเผยชีวิตในวันที่ล้มละลาย แต่ไม่ท้อ จับมือกันข้ามผ่านมรสุม
เป็นยูทูเบอร์กันทั้งครอบครัว ใครเป็นคนต้นคิด?
เบสท์ : "พ่อรู้มาจากเพื่อนค่ะ ว่ายูทูเบอร์สามารถทำรายได้ได้นะ พ่อก็ให้เบสท์ทำยูทูป จะได้หารายได้ให้กับตัวเอง พอหนูคิดปุ๊บ ก็ชวนโบ๊ทมาทำด้วยกัน"
โบ๊ท : "ก็ดังด้วยกันครับ"
เบสท์ : "หนูเป็นคนคิด น้องชายอยู่หน้ากล้องตลอด น้องชายจะเรียกแฟนคลับตั้งแต่แรกๆ เลยค่ะ"
ต้นตอไอเดียจริงๆ เพื่อนพ่อคนไหนแนะนำ?
สมรักษ์ : "เริ่มแรก อ.ประจักษ์ชัย ไหทองคำ เขาก็บอกว่าพี่บาสทำสิ มันได้รายได้ เราก็ได้ตรงไหน ไม่รู้เรื่อง พอไปเตะฟุตบอลกับดารา ก้อง ห้วยไร่ บอกว่าพี่บาสทำยูทูปนะ เหตุผลของก้อง ห้วยไร่ประทับใจ มันเหมือนทีวีในมือเรา มันเป็นช่องของเราเอง เก็บไว้ตอนแก่เฒ่า ก็เลยให้ลูกทำ ถ้าไม่มีใครดู พ่อดูเอง"
บังคับลูกให้ทำ?
เบสท์ : "ตอนแรกก็ทำไม่เป็น ตอนแรกเราทำเราก็ไม่คิดอะไร แต่พอมีคนติดตามเยอะๆ เราก็เริ่มจริงจัง พอหลักหมื่นเราก็เริ่มตื่นเต้นว่าคนตามเป็นหมื่น"
ตอนนี้คนติดตามเท่าไหร่?
สมรักษ์ : "2 ล้าน 1 แสน 3 หมื่นกว่าๆ ผมเช็กทุกวัน"
เป็นจุดที่ทำให้สร้างรายได้?
เบสท์ : "ใช่ค่ะ พอเราได้รายได้จากตรงนี้ เราก็มีเงินไปจ่ายค่าเทอมเอง มีเงินไปกินขนมซึ่งเป็นเงินของตัวเอง ได้เงินก้อนแรกดีใจมาก"
สมรักษ์ : "ได้เงินก้อนแรก กรี๊ดบ้านแทบแตก เราก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่าเขาได้ตังค์ๆ ตอนแรกได้หมื่นนึง"
มาเปรี้ยงปร้างเป็นที่พูดถึง คือน้องโบ๊ท ทำอะไรถึงเป็นแม่เหล็กดึงดูดคน?
โบ๊ท : "ไม่รู้ครับ เล่นไม่มีสาระ เขาก็เข้ามาดู"
ปัจจุบันรายได้อยู่ที่เท่าไหร่?
เบสท์ : "6 หลักต่อเดือนค่ะ"
สมรักษ์ : "ทุกวันนี้ไม่กรี๊ด เงินเข้าแล้วเงียบ (หัวเราะ) มันเหมือนตอนผมชกมวยครั้งแรกเลย พ่อบังคับให้ชกมวย ผมก็ไม่ชอบ ผมก็ร้องไห้ แต่พอชกเสร็จจะมีค่าตัว พอแกะซองจดหมายมีตังค์ 30 บาท ก็ให้แม่ ผมหาตังค์ได้แล้ว มันเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ชอบมวยเลย นี่ก็เหมือนกัน พอได้ตังค์ก็เป็นแรงจูงใจ ทำให้มีพลัง"
เอาเงินไปไหน?
เบสท์ : "ให้คุณแม่เก็บทุกเดือนค่ะ หนูเอาเอทีเอ็มให้แม่"
ถอยรถด้วย?
เบสท์ : "ใช่ค่ะ ถอยรถเบนซ์ค่ะ ให้รางวัลตัวเอง เราเรียนไปด้วย ตัดคลิปด้วย ถ่ายคลิปด้วย ก็อยากหาอะไรให้ตัวเองชิ้นใหญ่สักชิ้น ก็ขอแม่ว่าซื้อรถให้หน่อย แต่เป็นเงินที่เราเก็บสักระยะนึงแล้ว"
ตอนนี้เป็นนางเอกด้วย?
เบสท์ : "ใช่ค่ะ มีภาพยนตร์สองเรื่องค่ะ ครั้งแรกในชีวิตเลย เรื่องนึงเพิ่งถ่ายเสร็จ อีกเรื่องกำลังจะถ่าย น่าจะได้ออนปีหน้าค่ะ ชื่อเรื่องเดอะสเน็ก หนึ่งเรื่อง และเรื่องคุณชายใหญ่"
มีวิธีการสอนยังไง ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง?
สมรักษ์ : "เราต้องเป็นคนดีในสังคมอย่างเดียว ห้ามโกหก ห้ามพูดคำหยาบ มีสัมมาคารวะ เราปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก คำหยาบไม่ได้ พูดมาปุ๊บ ผมดีดปากแตกหมด พูดไม่ได้เลย"
ย้อนกลับไปเมื่อก่อน เรียกว่าจุดต่ำในครอบครัวได้มั้ย?
สมรักษ์ : "เรียกว่าจุดต่ำในครอบครัวก็คงไม่ได้"
เบสท์ : "จังหวะนั้นหนูทำยูทูปไปสักพักแล้ว เกือบปีแล้ว ถึงมีเรื่องของพ่อ"
มีเรื่องล้มละลาย?
สมรักษ์ : "8-9 เดือนที่แล้ว จริงๆ เรื่องต่างๆ ที่เกิดไม่เกี่ยวกับลูก เป็นความไม่เข้าใจข้อกฎหมาย เราไม่ได้ไปเป็นหนี้ชาวบ้าน เกิดจากเรื่องบ้าน ผ่อนบ้านกับแบงค์ แล้วอยู่ๆ ทำธุรกิจหมูกระทะปี 53 เกิดเหตุการณ์บ้านเมืองปะทะกันวุ่นวาย ก็เลยต้องปิดร้าน เจ๊งเลย เราเลยขาดการผ่อนแบงค์ เลยโดนยึดบ้านไปหลังนึง"
มีความอายเกิดขึ้นมั้ย?
สมรักษ์ : "ไม่อาย เป็นข่าวดัง แต่ถามว่าเราผิดเรื่องอะไร เรายังไม่รู้เลย ด้วยความที่เราไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมาย คุณยึดบ้านไปแล้ว ผมต้องรับผิดชอบส่วนต่าง 9 ล้านซึ่งแพงกว่าบ้านอีก เป็นความไม่เข้าใจของผม แต่จริงๆ แล้วสุดท้ายสมาคมมวยสากลสมัครเล่น เขาบอกผมทำงานเพื่อประเทศชาติมาเยอะ เขาก็ส่งทีมกฎหมายมาดูแลผม ณ ปัจจุบันนี้เคลียร์หมดทุกอย่าง แต่ยังไม่ได้แถลงข่าวเป็นทางการ แต่ทุกอย่างถอนหมดเรียบร้อย"
คดีความจบแล้ว ตอนลำบากใจ ได้บอกลูกๆ มั้ย?
สมรักษ์ : "ไม่ได้บอก มันเป็นเรื่องเก่า เรื่องบ้าน"
เบสท์ : "หนูรู้ตอนเป็นข่าว ความสัมพันธ์ในบ้านก็ยังปกติ เรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านปกติ มีบ้าน มีรถ มีเสื้อผ้า ปกติมาก เรื่องยูทูปหนูก็ทำมาก่อนเป็นเรื่องอยู่แล้ว และให้เงินที่บ้านอยู่แล้ว ความตั้งใจในการทำยูทูเบอร์ของหนู เพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่ เลี้ยงดูญาติพี่น้องทุกคนอยู่แล้ว"
สมรักษ์ : "พอผมโดนอายัดบัญชี ผมลำบาก ผมต้องมาขอลูกใช้ (หัวเราะ)"
เบสท์ : "พ่อเขาต้องไปถ่ายละคร ก็ขอค่าน้ำมัน อะไรแบบนี้"
สมรักษ์ : "พอเกิดเหตุการณ์นี้ มันก็ทำให้เราใช้ชีวิตรอบคอบขึ้น เบรกความใจใหญ่ เบรกความทะเยอทะยานเรา นิ่งขึ้น ปกติถ้าพูดง่ายๆ ผมก็มีพรรคพวกเยอะ พอเกิดเหตุการณ์ปั๊บเรานิ่งเลย ไม่ไปเที่ยว ไม่อะไร"
เข็ดทำธุรกิจมั้ย?
สมรักษ์ : "ถ้ามีก็ทำไปเถอะ แต่เอาประสบการณ์ที่ล้มเหลวมาเป็นบทเรียน"
ให้กำลังใจกันยังไง?
สมรักษ์ : "ไม่มีอะไร ก็ยิ้มกันอย่างเดียว ที่โรงเรียนเขาจะเก็บเงินช่วย ในวงการสายมวย จะจัดมวยช่วย ผมบอกว่าไม่ต้อง"
วินาทีอธิบายกับลูกเรื่องนี้?
สมรักษ์ : "ปล่อยไป"
เบสท์ : "พ่อไม่ได้อธิบายเลยค่ะ หนูรู้เท่าเนื้อข่าวพิมพ์เลย เหมือนพอเห็นบรรยากาศในครอบครัว รู้สึกเลยว่าในข่าวบางทีก็เกินจริงไป ก็รู้สึกว่าเราเอาชีวิตในครอบครัวเป็นหลัก ถ้าพ่อแม่แฮปปี้ น้องแฮปปี้ ญาติพี่น้องแฮปปี้ แค่นี้ก็จบ"
คุณพ่อเห่อลูกสาวเบอร์ไหน?
โบ๊ท : "เบอร์ห้า"
เบสท์ : "ตั้งแต่หนูจำความได้เลย พ่อพาไปประกวดร้องเพลง ประกวดนางแบบ ประกวดนางงาม ตอนเด็กเราร้องเพลงไม่เป็น เราก็ไปยืนร้องไห้ พ่อเขาอยากฝึกให้จากเด็กขี้อายเป็นคนกล้าแสดงออก ซึ่งก็ดีนะคะ เพราะทำให้เรากล้าพูด กล้าแสดงออกเวลาอยู่ต่อหน้ากล้อง ถ้าเป็นแต่ก่อนก็คงพูดไม่เก่ง"
น้องเบสท์สวยมาก?
สมรักษ์ : "ธรรมชาติล้วนๆ"
เบสท์ : "ชอบโม้ลูกสวยอย่างโน้นอย่างนี้ เก่งอย่างโน้นอย่างนี้ นี่หนูเล่นหนังแล้ว จะโม้หนักเข้าไปอีก หนังยังไม่ลงโรง เขาก็โม้ว่าทุกโรงภาพยนตร์นะครับไปดู (หัวเราะ) จะแนวโม้ลูก เห่อลูก หนูก็มองว่าเป็นเอกลักษณ์ เป็นสไตล์ เพราะอยู่บ้านเขาก็ไม่ได้มานั่งชมหนู ชมเวลาออกงาน คงเป็นเอกลักษณ์"
คนเล็กคุณพ่อสนับสนุนเรื่องกีฬา คุณพ่อให้เราทำอะไร?
โบ๊ท : "คุณพ่อให้ซ้อมบอลครับ เขาก็นั่งดู แล้วก็ยิ้มๆ เราก็แอบมองพ่อ เขาก็บอกว่าเล่นดีมากลูก แต่ถ้าวันไหนเล่นไม่ดี ก็จะบอกว่าอื้อหือ ไม่น่าเล่นบอลเลยลูก กลับไปเป็นนักมวยดีกว่าลูก"
การเป็นลูกคุณสมรักษ์ ลำบากมั้ย?
โบ๊ท : "ไม่"
เบสท์ : "เขาเป็นผู้ชายก็จะไม่อะไร แต่เราเป็นผู้หญิงก็นิดนึง อย่างตอนเด็กเวลาไปโรงเรียน ครูรู้จัก เพื่อนรู้จัก แม่ค้าก็รู้จัก ตอนเด็กจะลำบาก รู้สึกว่าเราอยากเป็นเหมือนเพื่อน ใช้ชีวิตอะไรก็ได้ ไม่ต้องแคร์ว่าใครจะรู้จักมั้ย แต่ตอนนี้เริ่มเข้าใจมากขึ้น"
วลีเด็ดไม่ได้โม้ บางคนมองว่าพ่อขี้โม้?
เบสท์ : "อย่างที่หนูบอกว่ามันเป็นเอกลักษณ์ ถ้าพ่อมารายการแล้วนั่งเงียบ มันไม่ใช่สมรักษ์แล้ว ถ้าสมรักษ์ออกรายการแล้วเล่นใหญ่ โม้ ก็นี่แหละสมรักษ์ คำสิงห์แล้ว"
พ่อแพลนชีวิตให้มั้ย?
เบสท์ : "พ่อกับแม่อยากให้เป็นดาราทั้งคู่เลยค่ะ ทั้งหนูและน้อง"
โบ๊ท : "เขาอยากให้เป็นนักบอลและยูทูเบอร์ ตอนนี้ทำเต็มที่ครับ"
เบสท์ : "พอเราได้รายได้จากการเป็นยูทูเบอร์ พ่อก็เริ่มเห็นว่าเป็นอีกช่องทางที่จะเป็นอาชีพเราได้ เขาก็ไม่ได้ผลักดันเหมือนเมื่อก่อน แต่ก่อนจะผลักดันสุดๆ เลย ตอนนี้ก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ"
พ่อเราเหมือนพ่อคนอื่นมั้ย?
เบสท์ : "ไม่นะคะ คนอื่นหนูเห็นเพื่อนชอบร้องเพลง แต่พ่อแม่อยากให้เรียน ก็จะมีความพ่อแม่ไม่สนับสนุนด้านความสามารถ จะวิชาการอย่างเดียว แต่นี่ลูกชอบทางไหน จะสนับสนุนเต็มที่เลย"
วันพ่อแห่งชาติ บอกความในใจกับคุณพ่อหน่อย?
โบ๊ท : "รู้สึกดี รู้สึกสุดยอด ภูมิใจที่เกิดมาเป็นลูกนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก ก็ดังครับ ตัวเราเองก็ดัง เป็นลูกสมรักษ์ก็ดังครับ หลังจากนี้จะขอตังค์พ่อครับ (หัวเราะ) จะเป็นเด็กดี ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมายครับผม"
เบสท์ : "เบสท์ต้องขอบคุณพ่อ เพราะพ่อปูทางทุกอย่าง ไม่ว่าจะงานในวงการหรือยูทูป หรือด้านกีฬาของน้อง พ่อก็สนับสนุน เรียนก็สนับสนุน กิจกรรมโรงเรียนไปตลอด ด้านงานในยูทูปถ้าพ่อไม่บังคับเราในวันนั้น ชีวิตเราก็คงไม่ได้แฮปปี้แบบในวันนี้ หนูภูมิใจอยู่แล้วที่ได้เกิดเป็นลูกสมรักษ์ เพราะการที่เราไปไหนมาไหนแล้วมีคนจดจำเราได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราเกิดมาปุ๊บ คนจำเราได้เลย มันเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งแล้ว รู้สึกดีใจค่ะ"
พ่อฟังแล้วเป็นยังไง?
สมรักษ์ : "จริงๆ ประทับใจเขามาตั้งแต่เกิด เราปูทางไว้แล้ว เราภูมิใจตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว ชื่อก็ตั้งไม่เหมือนใคร ตั้งเอง คิดเอง ชื่อนี้จำง่ายต้องวางตัวดีๆ เป็นแบบอย่างที่ดีกับเยาวชน ส่วนลูกมันหาซื้อไม่ได้ จะรวยล้นฟ้า มีตังค์ จะหาซื้อลูกคุณภาพแบบนี้ไม่ได้ นี่คือความภูมิใจ ไปไหนมาไหนมีแต่คนชมลูกเรา นี่คือความสุขของคนเป็นพ่อกับแม่"
โบ๊ท : "ปรบมือสิครับ รออะไร (ตบมือ)"