"ชมพู่ อารยา" ไม่ใจหาย "สายฟ้า-พายุ" ห่างอกเข้าโรงเรียน ลั่นมีแบ็กที่ดี เชื่อโรงเรียนปลอดภัย แพลนคิวเตรียมปั๊มลูกสาวต่อ ขำๆ ท่าขี่คอสามี คนแห่แซว "น็อต วิศรุต" ฟิตเวอร์ ยันเป็นไลฟ์สไตล์
เป็นซุป'ตาร์ตัวน้อยๆ ที่ทำอะไรแฟนๆ ก็ต้องติดตาม ล่าสุด "สายฟ้า-พายุ" ก็ทำพี่ป้าน้าอาเอ็นดูสุดๆ หลังร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ในวันลอยกระทง งานนี้ "ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต" ที่มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ "ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค" ณ Quartier Gallery ชั้น M ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ ก็เผยว่าจริงๆ ฝึกให้ร้องเพลงลอยกระทงแล้ว แต่ทั้งสองหนุ่มไม่ยอมร้อง พร้อมเผยเรื่องความพร้อมเข้าโรงเรียนของลูก
"ไม่ เขาคิดว่าเหมือนเค้ก แต่ปกติถ้าเอาจานหรือถาดอะไรให้ถือ เขาจะร้องแฮปปี้เบิร์ธเดย์หมด เป็นเค้กในจินตนาการของนาง ลอยกระทงน่ะร้องได้ เหมือนอย่างเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ก็ร้องด้วยกัน ช่วงวันเกิดเขาร้องเยอะ ไปโรงเรียนก็มีวันเกิดเพื่อนตลอด เขาก็ร้องได้ เพลงลอยกระทงฝึกแล้วแต่เขาไม่ร้องค่ะ"
ไม่ห่วง สองหนุ่มเข้าโรงเรียน
"น้องๆ ไปโรงเรียนก็ดีนะคะ รู้สึกว่าเขาก็โตขึ้น มันได้ฝึกทักษะหลายอย่าง เป็นวิถีอีกแบบนึง แต่เราก็ชอบชีวิตแบบนี้นะ ถามว่ามีแอบย่องไปดูเขามั้ย ไม่ย่องค่ะ เพราะที่นี่เขาไม่ให้เข้าไปเลย เกาะรั้วไม่ได้ (หัวเราะ) ไม่ค่อยห่วงนะ เพราะเรารู้ว่าตรงนั้นคือยังไงเขาเต็มที่แล้ว"
ไม่ใจหายลูกห่างอก เพราะรู้ว่าอยู่ในที่ที่ปลอดภัย
"ของชมไม่ได้ว่าใจหายว่าห่างอกเรา เพราะเรารู้ว่าเขาอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ก็เลยไม่ได้พิรี้พิไรมาก ยิ่งตัดให้ง่ายๆ ก็จะยิ่งง่ายทั้งกับเขาและเรา ถ้าเราไปป้วนเปี้ยนก็กลายเป็นว่าเด็กก็ตัดไม่ได้สักที ของชมก็ไม่มีอะไร แค่ 2-3 วัน เขาก็ปรับตัวได้"
"เขาก็มีงอแง ร้องนิดหน่อย เพราะอย่างวันแรกที่ไปเรียน เขาก็อนุญาตให้คุณพ่อคุณแม่เข้าไปส่งได้ถึงในห้อง เขาก็จะเพลิดเพลินตื่นตาตื่นใจมากกับของเล่น แต่พอเราบอกว่าจะไปแล้วนะ พอเขาเห็นเราจะไปจริงๆ เขาก็มีร้องนิดนึง หลังจากนั้นพอเขาเล่นโน่นนี่นั่น เขาก็เหมือนเดิม มีบ่นๆ อยู่ 2-3 วันแรก หลังจากนั้นเขาก็เข้าใจว่าเขาต้องมาโรงเรียน แล้วโรงเรียนไม่ได้น่ากลัว"
"คือไม่ได้มีปัญหากับการไปโรงเรียนนะ แต่ถ้าช่วงไหนที่หยุด อย่างตอนช่วงไปอเมริกา หยุดเกือบเดือนนึง กลับมาจะมีบ่นนิดนึงว่าไม่อยากไป เพราะเหมือนกับว่าเขาไปสัมผัสมาแล้วว่าได้เที่ยว ได้เล่น ไม่ต้องไปโรงเรียนเป็นยังไง แต่พอเขากลับไป โรงเรียนมันก็สนุกน่ะ เขายังไม่ได้เน้นเรื่องวิชาการอะไรแบบนี้"
ไม่ห่วงเรื่องซน เพราะมีแบ็กที่ดี เผยโรงเรียนมีอีเมลรายงานหากไม่ได้ไปรับลูกเอง
"คือชมมีแบ็กออฟฟิศที่ดีเนอะ มันต้องไม่มีช่วงที่ละสายตาเราเลย คือถ้าไม่ใช่คนที่ชมไว้ใจ ชมก็ไม่ฝากกับใครเลยทั้งสิ้น (ที่โรงเรียนมีส่งรายงาน?) ก็คือทุกวันที่ไปรับ เขาจะบอกอยู่แล้วว่าวันนี้ลูกเราเป็นยังไง หรือในกรณีเราไม่ได้ไปรับ เขาก็มีอีเมลมาบอกนะว่าวันนี้น้องเป็นยังไง ทานข้าวดีมั้ย"
"เรื่องที่โรงเรียนลูกเขายังเล่าไม่ได้ค่ะ ยังไม่ได้พูดได้ขนาดนั้น แต่เขาก็จะจำชื่อเพื่อนเขาได้ เวลาบางทีไปเดินห้างแล้วเจอเพื่อน เขาก็จำเพื่อนเขาได้ เขาเล่นกับเพื่อนก็ยังไม่ได้ห่วงขนาดนั้นค่ะ คือเด็กกระทบกระทั่งกันมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แป๊บนึงเขาก็ลืม เขาก็มาเล่นด้วยกัน เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม"
รับโตขึ้นต้องจับแยกห้องกัน จะได้มีความเป็นตัวของตัวเอง
"ต้องแยกแหละ อันนี้มีคุยกับคุณครูที่โรงเรียนเหมือนกัน ตอนนี้ที่แคมปัสมันมีแค่คลาสเดียว ผู้ปกครองบางคนก็ยังไม่ได้ส่งลูกมาในอายุเท่านี้ แต่ปีต่อไปพอขึ้นเตรียมอนุบาลปี 2 มันก็จะมี 2 ห้องแล้ว ทีนี้ก็ต้องจับแยก ปีนี้จับแยกไม่ได้เพราะมีห้องเดียว จริงๆ ชมก็รู้แหละว่าระยะยาวยังไงเขาก็ต้องให้แยกอยู่แล้ว เด็กจะได้มีความเป็นตัวของตัวเองด้วย เพราะไม่ยังงั้นเขาก็จะอิงกันพิงกันไปตลอด เขาก็ต้องหาตัวเขาเองด้วย เรื่องเข้าสังคมจริงๆ คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรนะ ตั้งแต่ก่อนเข้าโรงเรียนก็พาเขาไปทั่ว ก็คือสอนให้รักกันเหมือนเป็นพี่น้องปกติแหละค่ะ แต่มันเฮลท์ตี้กว่าสำหรับเขาที่ถ้าต่อไปต้องจับเขาแยกบ้าง"
ลูกคนที่ 3 มาแน่ สามีไม่เร่ง สบายใจ
"เดี๋ยวต้องดูว่าหลังจากหนังและคิวปีหน้าผังรายการเป็นยังไง (หัวเราะ) ต้องลองวางผังของตัวเองดูค่ะ ก็คงจะมีอีกคนแหละค่ะ แต่ว่าช่วงไหนเนี่ย คือชมก็อยากจะวางระยะเวลาที่เราท้องแล้วไม่กระทบงาน ไม่กระทบการเดินทางของเรา สามียังไม่ได้เร่งนะ ได้ลูกชายไปสองคนแล้ว แล้วเขาค่อนข้างจะสบายใจแล้วว่าชมน่าจะเอาอีกแน่ๆ"
"เรื่องสุขภาพก็คิดว่าดูแลตัวเองดีพอสมควรนะ จริงๆ งานไม่ได้ถือว่าหนักมากๆ เพียงแต่พอเราเป็นแม่ด้วย เราทำงานด้วย เรียกว่ามันก็โดนทอนกำลังเราเยอะพอสมควร แต่ก็พยายามดูแลทั้งเรื่องการออกกำลังกายและอาหาร การพักผ่อน"
อยากได้ลูกสาวอีกคน ไม่หวั่นหุ่นเผละ
"ก็อยากได้ แต่เดี๋ยวดูกันอีกทีนึง สุดท้ายได้อะไรก็ต้องตามนั้นค่ะ ก็มีปรึกษาคุณหมอบ้างค่ะ เราอายุเท่านี้แล้ว เรื่องวางแผนครอบครัวเราก็ต้องปรึกษาคุณหมอค่ะ เรื่องหุ่นก็ไม่กังวลนะคะ คือไม่ได้มั่นหน้าขนาดนั้นนะคะ แต่ว่ามันก็ได้แค่ไหนแค่นั้น เราก็ทำดีที่สุดในส่วนของเราค่ะ"
ขำๆ ภาพขี่คอ "น็อต วิศรุต" คนแซวสามีฟิต
"ฟิตๆ นางฟิต วันนั้นออกกำลังกายค่ะ สามีเปิดฟิตเนสค่ะ (เลยโชว์หน่อย?) ก็นิดนึง ถามว่ากล้ามปูมั้ย อย่าให้โตไปกว่านี้เลยค่ะ ประมาณนี้ๆ (หัวเราะ) ถามว่ากลัวเหรอ ไม่หรอกค่ะ ถามว่าไปออกกำลังกายกันสองคนมั้ย คือเวลาอาจไม่ได้ตรงกัน เพราะถ้ามัวแต่รอกันก็อาจจะไม่ได้ออกค่ะ แต่เนื่องจากเป็นสถานที่ของเขา บางทีก็สวนกันไปมาในยิมบ้าง"
"ก็เล่นประจำที่ยิมสามี ก็พยายาม มันก็เล่นที่อื่นไม่ได้แล้วเปล่า มันก็ต้องเล่นที่นี่แหละ (หัวเราะ) ถามว่าไปดูกิจการด้วยรึเปล่า ชมไม่ได้อะไรมากหรอกค่ะ แค่ไปเล่นแล้วเทรนเนอร์ที่เคยเทรนก็มาอยู่ที่นี่หมด อุปกรณ์มันก็ครบดีด้วย สถานที่ก็ไม่ได้ไกลบ้าน ก็สะดวก"
ไม่ได้ประกาศว่าฟิตพร้อมปั๊มลูก แค่ไลฟ์สไตล์
"(หัวเราะ) ก็ไม่ได้ประกาศอะไร เรามีไลฟ์สไตล์แบบนี้อยู่แล้ว พยายามดูแลตัวเองอย่างนี้ตลอดอยู่แล้ว จะมีน้องหรือไม่มีน้อง เรื่องการดูแลตัวเองมันควรเป็นไลฟ์สไตล์ ไม่ใช่ว่าเรามีเป้าหมายแล้วเราก็ทำให้ไปถึงเสร็จแล้วปิดโปรเจกต์ค่ะ"