"มิน พีชญา" ไม่ได้รับสิทธิพิเศษ โผล่ช่อง GMM ยันเคยคุยกันนานแล้ว มีลิมิตบนความเหมาะสม ควง "โอ๊ต พิทักษ์" สวีตเกาหลี ชดเชยที่ตัวเองทำงานหนัก เขินบอกรักมากขึ้นทุกวัน เก็บเกี่ยวทุกความสุข เรื่องวิวาห์ให้รอลุ้น คนนี้เจ้าบ่าวหรือไม่
ทำเอาแฟนๆ แปลกใจอยู่ไม่น้อย ที่เห็นภาพนางเอกช่อง 7 สีอย่าง "มิน พีชญา วัฒนามนตรี" โผล่รายการช่องคู่แข่งอย่างช่อง GMM25 งานนี้เจ้าตัวเผยว่าการไปออกรายการช่องอื่น มีลิมิตและอยู่บนความเหมาะสม ซึ่งผู้ใหญ่ไม่ได้ว่าอะไรตน
"จริงๆ ก็ออกได้นะ เพราะว่าเคยออกมาเมื่อหลายปีที่แล้ว มินว่าแล้วแต่สัญญาของแต่ละคนมากกว่า ก็เป็นสัญญาเดิมค่ะ ยังไม่หมดค่ะ จริงๆ เรามีการคุยกับผู้ใหญ่ตั้งแต่เทปแรก ซึ่งนานมากแล้ว แล้วตอนนั้นก็ออกได้ ครั้งนี้เราก็คุยกันพี่ลูกกอล์ฟ (คณาธิป สุนทรรักษ์) ว่าเป็นรายการที่ส่งเสริมทักษะภาษาอังกฤษให้กับเด็กๆ ซึ่งไม่ได้มีอะไรเสียหาย"
"ทุกครั้งที่ไปก็จะมีการบอกกัน แต่ก็จะมีทีมงานรับผิดชอบ เพราะว่ามินมีงานทุกวัน ลิมิตอยู่ที่ความเหมาะสม เช่นถ้าสนับสนุนและส่งเสริมเกี่ยวกับสังคม ก็จะช่วยกัน เหมือนเวลาเราไปร่วมงานกับมูลนิธิต่างๆ เรียกว่ามีลิมิตบนความเหมาะสม"
ไม่ได้รับสิทธิพิเศษเหนือใคร
"ส่วนที่มองว่านักแสดงคนอื่นที่ออกจากช่อง 7 ไปให้เหตุผลว่าอยากไปโปรโมตสินค้าที่ช่องอื่น แต่ช่องไม่อนุญาต เราได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่นหรือเปล่า ก็ไม่หรอกค่ะ ถ้าพูดถึงการโปรโมตสินค้าแน่นอนว่าเราต้องให้เกียรติช่องที่เราอยู่ ถ้าพูดถึงอะไรที่มีผลประโยชน์ร่วม ได้เงินมันก็ต้องเป็นอะไรที่ยึดตามสัญญา ซึ่งแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ข้อตกลง คู่สัญญาก็คือคนสองคนตกลงกัน ซึ่งสำหรับมินต้องมีการแจ้งบอกผู้ใหญ่ ซึ่งจริงๆ เราก็คุยกับผู้ใหญ่อย่างใกล้ชิดตลอด ทั้งตัวมินเองและทีมงานของมิน และมินก็เห็นว่ามันไม่ได้เป็นอะไรที่เสียหาย"
"ไม่ได้กลัวคนเข้าใจผิดเรื่องสัญญาค่ะ เพราะอย่างที่ไปออกของพี่ลูกกอล์ฟ มันชัดเจนว่ามันเป็นการส่งเสริมภาษาอังกฤษ ซึ่งมันก็เป็นประโยชน์อยู่แล้ว ส่วนที่บอกว่าช่อง7 มีการปรับเปลี่ยนนโยบายให้นักแสดงไปทำงานที่อื่นได้ มินไม่ทราบเลยค่ะ มินเป็นแค่นักแสดงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ไม่ได้ยิ่งใหญ่ ถึงกับรู้สัญญาของทุกคน"
"มินก็ไม่เคยเห็นกฎที่ช่องเขียนแปะไว้นะคะ หรืออะไรที่มันเป็นชาร์ตเหมือนโรงเรียน มินเชื่อว่าเราโตแล้ว และอยู่บนเหตุผลของความเหมาะสมทางจริยธรรม คุณธรรม และตัวอย่างที่ดีของสังคม สัญญามินก็ยังมีอยู่และมีอยู่อีกสักพักเลยค่ะ"
ไม่หวั่นนักแสดงคนอื่นมองว่าได้รับสิทธิพิเศษ
"มินว่ามันแล้วแต่ ข้อตกลงที่คุยกันตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา ก็จะอยู่ในระยะเวลาที่ระบุไว้ และสัญญาข้อกำหนดที่ระบุไว้ แล้วความเหมาะสมไม่ได้มาขีดเส้นเป๊ะๆ เหมือนไม้บรรทัด แต่เราอยู่กันอย่างครอบครัว และความสบายใจ"
"เขาก็ไม่ได้ส่งกฎข้อห้ามมาให้เป็นข้อๆ เหมือนเด็กเนอะ เราอยู่กันแบบครอบครัว ถ้าเราทำอะไรที่ไม่เหมาะสม ช่องก็จะมีการตักเตือนแบบลูกๆ พูดจากันแบบน่ารัก ไม่ได้กะเกณฑ์อะไรที่ไม่ดี หรือถ้าเราอยู่ในช่วงที่ต้องการความช่วยเหลือก็จะมีการสนับสนุนจากช่องค่ะ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่มา ช่องก็สนับสนุนเรามาตลอด ไม่ว่าจะอยากทำอะไรก็ให้ทำ"
ทริปสวีต "โอ๊ต พิทักษ์" ที่เกาหลี ไม่ใช่ทริปกระชับรัก แต่เป็นทริปชดเชยให้ตัวเอง ทำงานหนัก
"ธรรมดาค่ะ ช่วงนี้มินทำงานเยอะ ช่วงนี้มินออกงานทุกวัน อย่างสัปดาห์นี้ก็มีงาน 4 วัน แล้วก็มีงานละครด้วย ไม่มีเวลาส่วนตัวมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว ก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นธรรมดาที่เราจะหาความสมดุล ถามว่าเป็นทริปชดเชยให้เขาไหม จริงๆ หลักๆ ก็คือให้เรานี่แหละ ทกุกครั้งที่เราทำงานหนักเกินไป ตัวเราก็มีความกังวลมีความล้า ภาวะร่างกายเอย จิตใจเอย ซึ่งมันสำคัญที่เราจะต้องมีความสุข เพราะเวลาเราไม่มีความสุข มันก็จะส่งผลถึงคนอื่น พอเรามีเวลาแค่ 2 วันก็เลยไป มีคิวแค่ไหนก็ไปแค่นั้น"
"ถามว่าเขาเข้าใจไหม ต่างคนต่างทำงานหนัก มันเป็นความท้าทาย และเป็นความสนุกของชีวิตแต่ละคน เขาก็มีความท้าทายของเขา ถามว่าเขาไม่เรียกร้องเวลาเหรอ อันนี้ก็เป็นจุดที่น่าเคารพนะคะ ถ้าเป็นคนอื่นก็อาจจะเรียกร้อง ทำให้เราไม่สบายใจ หรือทำให้เรารู้สึกว่าต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ของพี่โอ๊ตมีแต่ให้กำลังใจ สนับสนุนให้ความสบายใจ"
เขินหนัก รักมากขึ้นทุกวัน
"เขาก็มีพลังบวกเยอะ ข้างนอกมันจะต้องเหนื่อยอยู่แล้ว แล้วเรายิ่งเป็นคนเพอร์เฟกต์ชั่นนิสต์ คือทำให้ดีที่สุดในแบบของเรา แต่พอกลับมาบ้าน มันก็มีป็อกบ้าง ถ้าเกิดกลับเข้าบ้านแล้วมาเจออะไรที่ไม่สบายใจ มันก็อยู่ยาก ถามว่ายิ่งทำให้รักเขามากขึ้นทุกวันไหม ก็ตามนั้นแหละค่ะ (หัวเราะเขิน)"
โพสต์ภาพคู่กันไม่มีโมเมนต์พิเศษ แค่เก็บเกี่ยวความสุข ขอบคุณทุกเวลาที่เรามี
"พอดีรูปมันสวยค่ะ ก็เลยรู้สึกว่าอยากเก็บไว้ เขาไม่ได้ขอให้ลง เราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปคู่ที่ดูแลทั้งสองคน บางทีมินดูดีแต่เขาไม่ ซึ่งเราก็ไม่ใช่สายถ่ายรูปคู่ขนาดนั้น รูปนั้นคนก็แซวเยอะ ก็เขินนิดหนึ่ง คงไม่มีเซ็ตถ่าย มินว่าเราขอบคุณทุกเวลาที่เรามีดีกว่า ทุกความสุขที่เรามี เราไม่ค่อยมีเวลา พอมีเวลานิดหนึ่งก็อยากที่จะให้คุ้มค่า ให้มีความสุขที่สุด"
เรื่องวิวาห์ ลุ้นต่อไปนะคะ ตัวเองก็ลุ้นเหมือนกัน
"อันนั้นต้องรอลุ้นกันต่อไปค่ะ ถามว่าอีกนานไหม ต้องใช้คำว่ารอลุ้น เพราะมินก็ลุ้นเหมือนกัน (หัวเราะ) ถามว่าเรารอเขามาขอไหม ก็ไม่เชิงนะ เรารอความพร้อมหลายๆ อย่าง ถ้าเขามาขอก็ไม่รู้เหมือนกัน (ยิ้มเขิน) หน้าแดงเปล่า"
ตอบยากหากถูกขอแต่งงาน ให้รอลุ้นคนนี้ใช่หรือยัง
"ก็ตอบยากเหมือนกันนะ ถ้ามีเซ้นส์มันก็ดี วันนั้นก็จะทาปากสีสวยๆ แต่งตัวเป๊ะๆ แต่ถ้าไม่ใช่ก็แต่งฟรีไป (หัวเราะ) ถามว่าตอนนี้พร้อมหรือยัง ตัวมินก็เรื่อยๆ ค่ะ มินไม่ได้รู้สึกว่าพร้อมหรือไม่พร้อม ก็ยังเด็กๆ อยู่ ยังถามพ่อแม่อยู่เลยว่าแต่งงานคืออะไร มันก็มีเวลาของมัน ซึ่งเรื่องวางแผนครอบครัว เขาไม่ค่อยพูด ถามว่าคนนี้ใช่หรือยัง ก็คงต้องลุ้นกันต่อไป"
