โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
13 ตุลา เวียนมาคราใด ความเศร้าใจพลันบังเกิดขึ้น (ในใจผู้เขียน) อีกครั้ง ด้วยคิดถึง “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” จับใจ
นี่นับเป็นเวลา 3 ปีแล้วที่ “พ่อของแผ่นดิน” เสด็จสู่สวรรคาลัย และเนื่องในโอกาส วันคล้ายวันสวรรคตของ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก เพื่อลูก ๆ พสกนิกรชาวไทย
เราขอนำ 9 บทเพลงคัดสรรจากผลงานของ “ยืนยง โอภากุล” หรือ “แอ๊ด คาราบาว” ศิลปินแห่งชาติ (สาขาศิลปะการแสดง : นักร้อง-นักประพันธ์เพลงไทยสากล ประจำปี พ.ศ. 2556) มาร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้
สำหรับน้าแอ๊ดเป็นหนึ่งในศิลปินที่แต่งเพลงเทิดพระเกียรติ สดุดี และถวายอาลัย แด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ไว้หลายเพลงด้วยกัน (เกินกว่า 10 เพลง) และนี่ก็คือ 9 บทเพลงคัดสรรที่น้าแอ๊ดบรรจงรังสรรค์ขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติแด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙
1.ทรงพระเจริญ
“ทรงพระเจริญ” : เป็นบทเพลงในอัลบั้ม “เพลงพิเศษเฉลิมพระชนมพรรษา” เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระเกียรติ มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในหลวงรัชกาลที่ ๙ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2550
เป็นการร่วมมือกันระหว่างน้าแอ๊ด กับ “น้าป้อม-อัสนี โชติกุล” เพื่อนรัก โดยน้าแอ๊ดเขียนเนื้อ น้าป้อมเขียนทำนอง แล้วร่วมกันร้อง เนื้อเพลงนี้กล่าวสดุดีเทิดไท้แด่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่ทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรชาวไทย ได้อย่างเห็นภาพและซาบซึ้งใจ ชวนให้ประชาชนคนไทยเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องตามชื่อของเพลงนี้
2.พระมหาชนก
“พระมหาชนก” บทเพลงที่แต่งขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อใช้ประกอบการแสดง “พระมหาชนก เดอะฟีโนมีนอน ไลฟ์ โชว์” ที่เป็นละครเพลงบนเวทีกลางน้ำอันสุดอลังการ ที่ (เคย) จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ และเปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรี ในช่วงต้นเดือน ธ.ค. 57
เพลงพระมหาชนกน้าแอ๊ดเป็นเขียนทำนอง-คำร้องภาษาไทย ส่วนคำร้องภาษาอังกฤษเขียนโดย “ทอดด์ ลาเวลล์”(Todd Lavelle) หรือ “น้าทอดด์ ทองดี” ขับร้องโดย น้าแอ๊ด น้าป้อม อัสนี และ “กิตตินันท์ ชินสำราญ” ชายผู้มีเสียงเทเนอร์อันน่าทึ่งจากเดอะ วอยซ์
เพลงนี้น้าแอ๊ดคัดสรรบางช่วงบางตอนจากบทพระราชนิพนธ์พระมหาชนกของในหลวง รัชกาลที่ ๙ มาร้อยเรียงเป็นบทเพลง โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับต้นมะม่วงที่ให้ผลรสหวานอร่อยจึงมีคนมาแก่งแย่งกันเก็บผล
สำหรับภาคดนตรีเพลงนี้เจือไปด้วยท่วงทำนองแบบภารตะ ทั้งนี้ก็เพื่อให้สอดรับกับการแสดงทีทางผู้จัดสันนิษฐานว่าเมืองมิถิลาอันเป็นเมืองของพระมหาชนกนั้น น่าจะเป็นเมืองโบราณที่อยู่ในเนปาลหรือไม่ก็ทางอินเดียตอนเหนือ
ขณะที่ในส่วนของเนื้อร้อง น้าแอ๊ด สลับกับน้าป้อมร้องในภาคภาษาไทย ส่วนที่ผมชอบมากก็คือส่วนของเนื้อร้องภาคภาษาอังกฤษที่คุณกิตตินันท์ โชว์พลังเสียงเทเนอร์อันสุดยอดให้เราได้ฟังกันอีกครั้งในเพลงนี้
3.วิหคพลัดถิ่น
“วิหคพลัดถิ่น”(อัลบั้ม สามัคคีประเทศไทย : 2548) เพลงนี้เป็นเพลงประกอบละครเรื่อง “อยู่กับก๋ง” ที่ออกอากาศทางช่อง 5 เมื่อหลายปีมาแล้ว โดยนำมาจากบทประพันธ์อันสุดคลาสสิกของ “หยก บูรพา” (เฉลิม รงคผลิน)
เพลงวิหคพลัดถิ่นบอกเล่าเรื่องราวของก๋ง ชาวจีนจากโพ้นทะเลที่อพยพจากเมืองจีนมาพึ่งพระบรมโพธิ์สมภารของพระมหากษัตริย์ไทย น้าแอ๊ด เขียนแต่งเพลงนี้ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้เยี่ยมมาก เนื้อเพลงเล่าเรื่องได้อย่างเห็นภาพ ดนตรีมีซาวนด์อลังการมีการนำนองกลิ่นอายแบบจีนมาผสมผสานได้อย่างน่าฟัง
แม้เพลงวิหคพลัดถิ่นไม่ได้มีเนื้อหากล่าวถึงในหลวงโดยตรง แต่มุ่งเน้นไปที่การสำนึกในบุญคุณแผ่นดิน โดยเฉพาะในท่อนจบที่พูดถึงการสำนึกในบุญคุณใต้แผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวนั้นกินใจมาก“...อยากฝากกายวิหคพลัดถิ่น ใต้แผ่นดินพระเจ้าอยู่หัว ...จดจำสำนึกคุณ”
อย่างไรก็ดีวันนี้นอกจากจะมีไอ้ตี๋ซินโดรม ลูกจีนขายชาติ ที่ไม่จดจำสำนึกคุณในแผ่นดินเกิดแล้ว ยังเนรคุณแผ่นดิน ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานผลกรรมจากการทำเลวจะสนองมันแน่นอน
4.ผู้ปิดทองหลังพระ
“ผู้ปิดทองหลังพระ” (อัลบั้ม กำลังใจคาราบาว 30 ปี : 2554) เพลงนี้น้าแอ๊ดแต่งขึ้นเป็นเพลงพิเศษ เนื่องในวโรกาสปีมหามงคล ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา
เนื้อเพลงนี้กล่าวถึงการทรงประกอบพระราชกรณีกิจ การทรงงานอย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อยของในหลวง กับการที่พระองค์ท่านเป็นดังผู้ปิดทองหลังพระที่ทรงเสียสละอย่างยิ่งใหญ่เพื่อทวยราษฎร์
นอกจากเนื้อหากินใจแล้ว ความพิเศษอย่างหนึ่งของเพลงนี้ก็คือ น้าแอ๊ด ต้องการให้คนไทยจดจำพระนามเต็มของในหลวงรัชกาลที่ ๙ จึงได้นำพระนามเต็ม (พระนามเดิม) ของในหลวง รัชกาล ๙ มาร้อยเรียงเป็นบทเพลงได้อย่างไพเราะน่าฟัง
และหลังจากน้าแอ๊ดแต่งเพลงนี้ออกมา คุณใหม่-ดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการสำนักพระราชวัง ได้ออกมาพูดถึงเพลงนี้ว่า ในหลวงได้ออกมาตรัสชมน้าแอ๊ดว่า "แอ๊ด คาราบาว เก่งมากที่นำชื่อเรามาใส่ในเนื้อเพลงได้" ยังความปลาบปลื้มปีติให้กับน้าแอ๊ดเป็นอย่างมาก
5.ตามรอยพ่อ
“ตามรอยพ่อ” (อัลบั้ม ลูกลุงขี้เมา : 2550) เพลงนี้เป็นเพลงประกอบละครเรื่อง “ตามรอยพ่อ” ที่เป็นภาคต่อของละครเรื่องอยู่กับก๋ง
เพลงนี้น้าแอ๊ดนำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ ๙ มาร้อยเรียงแต่งเป็นบทเพลงได้อย่างยอดเยี่ยม ดนตรีอลังการ ยิ่งใหญ่ เนื้อหาชวนซาบซึ้งกินใจ และเตือนสติให้เรารู้จักพอเพียง ตามรอยพ่อ แล้วเราจะพบความสุข
“...รอยทางที่พ่อสร้างไว้ ดั่งคำสอนให้เราได้รู้
ถ้าทุกคนรวมใจไว้ แล้วพลังจะยิ่งใหญ่ ใครก็ตามจะมาแยกเราไม่มี
รอยทางที่พ่อสร้างสรรค์ มุ่งสู่ฝันคืนวันสดใส
บ้านของเราจะร่มเย็น และมั่นคงเสมอไป
ต่างคนจงรู้พอเพียง ต่างคนเพียงเข้าใจ จะสุขกายและใจจนเพียงพอ
...ถ้าทุกคนรวมไว้ แล้วพลังจะยิ่งใหญ่ ก้าวตามรอยพ่อไป คือความสุข”
6.ดินอุดม น้ำสมบูรณ์ ด้วยพระบารมี
“ดินอุดม น้ำสมบูรณ์ ด้วยพระบารมี” : บทเพลงที่ว่าด้วยเรื่องพระราชกรณียกิจในการบริหารจัดการทรัพยากรโดยเฉพาะในส่วนของดินและน้ำของในหลวงรัชกาลที่ ๙
ที่ทำให้ประเทศไทยของเรามีความอุดมสมบูรณ์
เพลงนี้เป็นอีกหนึ่งบทเพลงแด่พ่อของแผ่นดินที่น้าแอ๊ดแต่งได้อย่างไพเราะซาบซึ้ง และฉายภาพพระราชกรณียกิจจากพระอัจฉริยภาพได้อย่างเด่นชัด
7.80 ปี พ่ออยู่หัว
“80 ปี พ่ออยู่หัว” (อัลบั้ม ลูกลุงขี้เมา : 2550) เพลงนี้น้าแอ๊ดนำเรื่องราวพระราชกรณียกิจ การทรงงานอย่างหนักของพระเจ้าอยู่หัวมาร้อยเรียงเป็นเพลง สื่อออกมาแบบเข้าใจง่าย แต่ฟังแล้วกินใจนัก ขณะที่ภาคดนตรีก็ฟังอลังการ มีการนำท่วงทำนองของเพลง“แสงเทียน” เข้ามาผสมในท่อนโซโลดนตรีได้อย่างกลมกลืน
“หกสิบปีที่พ่อสร้าง แผ้วถางทางสู่วันคืนใหม่
เหน็ดเหนื่อยล้าเจียนแทบขาดใจ ไกลแสนไกลพ่อไปทั่วถึง
แปดสิบปีที่พ่อผ่าน จิตวิญญาณมั่นคงลึกชึ้ง
บ้านของเราพ่อคือที่พึ่ง ตามไปให้ถึงเจตนารมณ์...”(ท่อนแรกของเพลง 80 ปี พ่ออยู่หัว)
สำหรับ “ตามรอยพ่อ” กับ “80 ปี พ่ออยู่หัว” นั้น ถือเป็นบทเพลงแด่พ่อหลวงที่น้าแอ๊ดแต่งได้อย่างสุดยอด ไพเราะ กินใจ แถมฟังติดหูง่าย เข้าใจง่าย
8.พ่อภูมิพล
“พ่อภูมิพล” หนึ่งในบทเพลงแห่งความเศร้า ที่แต่งขึ้นหลังในหลวง รัชกาลที่ ๙ เสด็จสวรรคต โดยน้าแอ๊ดใช้เวลาในการแต่งประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะทุกอย่างนั้นออกมาจากใจ
เพลงนี้น้าแอ๊ดเล่าถึง พระราชกรณียกิจต่าง ๆ ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผ่านโครงการพระราชดำริต่าง ๆ ที่พระองค์ท่านไปวางรากฐานให้กับพสกนิกรชาวไทย
9.วันสุดท้ายของพ่อ
“วันสุดท้ายของพ่อ” : เป็นบทเพลงที่ “พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี” หรือ “ท่าน ว. วชิรเมธี” ประพันธ์ขึ้น เพื่อร่วมแสดงความอาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ และให้น้าแอ๊ดเป็นเป็นผู้ทำดนตรี และขับร้องถ่ายทอดอารมณ์ ซึ่งในยูทูบได้มีการโพสต์ข้อความประกอบบทเพลงนี้ เอาไว้ว่า
...แม้ในวันสุดท้ายพระองค์ก็ทรงสอนธรรมให้กับพวกเราชาวไทยทุกคน ทั้งยังเป็นที่มาของบทกวีนิพนธ์จากปลายปากกาของพระอาจารย์ ว. วชิรเมธี หรือพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ที่ชื่อว่า “วันสุดท้ายของพ่อ” ที่ได้มอบหมายให้ ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว) ศิลปินแห่งชาติ นำไปแต่งทำนองและขับร้องเป็น บทเพลงลำดับที่ ๓ จากบทกวีนิพนธ์ของพระอาจารย์ ว. วชิระเมธี อันเนื่องมาจากพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐
“วันสุดท้ายของพ่อ” เป็นธรรมคีตาชิ้นสุดท้ายถัดจาก “คืนสู่สวรรค์” และ “พ่อผู้เป็นนิรันดร์” ที่ ว. วชิรเมธี และ แอ๊ด คาราบาว ได้บรรจงทำขึ้นถวายแด่พระราชาผู้ทรงธรรมของแผ่นดิน เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกจากหัวใจพสกนิกรชาวไทยที่น้ำตาหลั่งพร้อมกันทั่วประเทศ ในขณะเดียวกันก็ชี้ให้เห็นธรรมที่แฝงอยู่ในความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของคนไทยดังความตอนหนี่งที่ว่า
“...เวลาของปวงเราไม่ยาวนัก วันหนึ่งจัก ลับไปไม่อาจหนี
ชีวิตพ่อ พ่อเดินตามคำพระชี้ จึงเป็นที่ “อมตะ” ณ นิรันดร์”
ผลงานชิ้นนี้จึงนับได้ว่าสามารถถ่ายทอดความคิดและอารมณ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดเพื่อส่งเสด็จในหลวงรัชกาลที่ ๙ สู่สรวงสวรรค์
ขณะเดียวกันก็ชวนให้พสกนิกรได้ตระหนักถึงคุณความดี และปฏิบัติตามแนวทางที่พระองค์สอนไว้ เพื่อเป็นการระลึกถึงพระองค์ท่านได้เสมอ
และนี่ก็คือ 9 บทเพลงคัดสรรที่น้าแอ๊ดบรรจงรังสรรค์ขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติแด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย และอยู่ในดวงใจของคนไทยผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ไปตลอดกาล
13 ตุลา เวียนมาคราใด ความเศร้าใจพลันบังเกิดขึ้น (ในใจผู้เขียน) อีกครั้ง ด้วยคิดถึง “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” จับใจ
นี่นับเป็นเวลา 3 ปีแล้วที่ “พ่อของแผ่นดิน” เสด็จสู่สวรรคาลัย และเนื่องในโอกาส วันคล้ายวันสวรรคตของ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก เพื่อลูก ๆ พสกนิกรชาวไทย
เราขอนำ 9 บทเพลงคัดสรรจากผลงานของ “ยืนยง โอภากุล” หรือ “แอ๊ด คาราบาว” ศิลปินแห่งชาติ (สาขาศิลปะการแสดง : นักร้อง-นักประพันธ์เพลงไทยสากล ประจำปี พ.ศ. 2556) มาร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้
สำหรับน้าแอ๊ดเป็นหนึ่งในศิลปินที่แต่งเพลงเทิดพระเกียรติ สดุดี และถวายอาลัย แด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ไว้หลายเพลงด้วยกัน (เกินกว่า 10 เพลง) และนี่ก็คือ 9 บทเพลงคัดสรรที่น้าแอ๊ดบรรจงรังสรรค์ขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติแด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙
1.ทรงพระเจริญ
“ทรงพระเจริญ” : เป็นบทเพลงในอัลบั้ม “เพลงพิเศษเฉลิมพระชนมพรรษา” เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระเกียรติ มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในหลวงรัชกาลที่ ๙ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2550
เป็นการร่วมมือกันระหว่างน้าแอ๊ด กับ “น้าป้อม-อัสนี โชติกุล” เพื่อนรัก โดยน้าแอ๊ดเขียนเนื้อ น้าป้อมเขียนทำนอง แล้วร่วมกันร้อง เนื้อเพลงนี้กล่าวสดุดีเทิดไท้แด่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่ทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรชาวไทย ได้อย่างเห็นภาพและซาบซึ้งใจ ชวนให้ประชาชนคนไทยเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องตามชื่อของเพลงนี้
2.พระมหาชนก
“พระมหาชนก” บทเพลงที่แต่งขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อใช้ประกอบการแสดง “พระมหาชนก เดอะฟีโนมีนอน ไลฟ์ โชว์” ที่เป็นละครเพลงบนเวทีกลางน้ำอันสุดอลังการ ที่ (เคย) จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ และเปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรี ในช่วงต้นเดือน ธ.ค. 57
เพลงพระมหาชนกน้าแอ๊ดเป็นเขียนทำนอง-คำร้องภาษาไทย ส่วนคำร้องภาษาอังกฤษเขียนโดย “ทอดด์ ลาเวลล์”(Todd Lavelle) หรือ “น้าทอดด์ ทองดี” ขับร้องโดย น้าแอ๊ด น้าป้อม อัสนี และ “กิตตินันท์ ชินสำราญ” ชายผู้มีเสียงเทเนอร์อันน่าทึ่งจากเดอะ วอยซ์
เพลงนี้น้าแอ๊ดคัดสรรบางช่วงบางตอนจากบทพระราชนิพนธ์พระมหาชนกของในหลวง รัชกาลที่ ๙ มาร้อยเรียงเป็นบทเพลง โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับต้นมะม่วงที่ให้ผลรสหวานอร่อยจึงมีคนมาแก่งแย่งกันเก็บผล
สำหรับภาคดนตรีเพลงนี้เจือไปด้วยท่วงทำนองแบบภารตะ ทั้งนี้ก็เพื่อให้สอดรับกับการแสดงทีทางผู้จัดสันนิษฐานว่าเมืองมิถิลาอันเป็นเมืองของพระมหาชนกนั้น น่าจะเป็นเมืองโบราณที่อยู่ในเนปาลหรือไม่ก็ทางอินเดียตอนเหนือ
ขณะที่ในส่วนของเนื้อร้อง น้าแอ๊ด สลับกับน้าป้อมร้องในภาคภาษาไทย ส่วนที่ผมชอบมากก็คือส่วนของเนื้อร้องภาคภาษาอังกฤษที่คุณกิตตินันท์ โชว์พลังเสียงเทเนอร์อันสุดยอดให้เราได้ฟังกันอีกครั้งในเพลงนี้
3.วิหคพลัดถิ่น
“วิหคพลัดถิ่น”(อัลบั้ม สามัคคีประเทศไทย : 2548) เพลงนี้เป็นเพลงประกอบละครเรื่อง “อยู่กับก๋ง” ที่ออกอากาศทางช่อง 5 เมื่อหลายปีมาแล้ว โดยนำมาจากบทประพันธ์อันสุดคลาสสิกของ “หยก บูรพา” (เฉลิม รงคผลิน)
เพลงวิหคพลัดถิ่นบอกเล่าเรื่องราวของก๋ง ชาวจีนจากโพ้นทะเลที่อพยพจากเมืองจีนมาพึ่งพระบรมโพธิ์สมภารของพระมหากษัตริย์ไทย น้าแอ๊ด เขียนแต่งเพลงนี้ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้เยี่ยมมาก เนื้อเพลงเล่าเรื่องได้อย่างเห็นภาพ ดนตรีมีซาวนด์อลังการมีการนำนองกลิ่นอายแบบจีนมาผสมผสานได้อย่างน่าฟัง
แม้เพลงวิหคพลัดถิ่นไม่ได้มีเนื้อหากล่าวถึงในหลวงโดยตรง แต่มุ่งเน้นไปที่การสำนึกในบุญคุณแผ่นดิน โดยเฉพาะในท่อนจบที่พูดถึงการสำนึกในบุญคุณใต้แผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวนั้นกินใจมาก“...อยากฝากกายวิหคพลัดถิ่น ใต้แผ่นดินพระเจ้าอยู่หัว ...จดจำสำนึกคุณ”
อย่างไรก็ดีวันนี้นอกจากจะมีไอ้ตี๋ซินโดรม ลูกจีนขายชาติ ที่ไม่จดจำสำนึกคุณในแผ่นดินเกิดแล้ว ยังเนรคุณแผ่นดิน ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานผลกรรมจากการทำเลวจะสนองมันแน่นอน
4.ผู้ปิดทองหลังพระ
“ผู้ปิดทองหลังพระ” (อัลบั้ม กำลังใจคาราบาว 30 ปี : 2554) เพลงนี้น้าแอ๊ดแต่งขึ้นเป็นเพลงพิเศษ เนื่องในวโรกาสปีมหามงคล ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา
เนื้อเพลงนี้กล่าวถึงการทรงประกอบพระราชกรณีกิจ การทรงงานอย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อยของในหลวง กับการที่พระองค์ท่านเป็นดังผู้ปิดทองหลังพระที่ทรงเสียสละอย่างยิ่งใหญ่เพื่อทวยราษฎร์
นอกจากเนื้อหากินใจแล้ว ความพิเศษอย่างหนึ่งของเพลงนี้ก็คือ น้าแอ๊ด ต้องการให้คนไทยจดจำพระนามเต็มของในหลวงรัชกาลที่ ๙ จึงได้นำพระนามเต็ม (พระนามเดิม) ของในหลวง รัชกาล ๙ มาร้อยเรียงเป็นบทเพลงได้อย่างไพเราะน่าฟัง
และหลังจากน้าแอ๊ดแต่งเพลงนี้ออกมา คุณใหม่-ดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการสำนักพระราชวัง ได้ออกมาพูดถึงเพลงนี้ว่า ในหลวงได้ออกมาตรัสชมน้าแอ๊ดว่า "แอ๊ด คาราบาว เก่งมากที่นำชื่อเรามาใส่ในเนื้อเพลงได้" ยังความปลาบปลื้มปีติให้กับน้าแอ๊ดเป็นอย่างมาก
5.ตามรอยพ่อ
“ตามรอยพ่อ” (อัลบั้ม ลูกลุงขี้เมา : 2550) เพลงนี้เป็นเพลงประกอบละครเรื่อง “ตามรอยพ่อ” ที่เป็นภาคต่อของละครเรื่องอยู่กับก๋ง
เพลงนี้น้าแอ๊ดนำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ ๙ มาร้อยเรียงแต่งเป็นบทเพลงได้อย่างยอดเยี่ยม ดนตรีอลังการ ยิ่งใหญ่ เนื้อหาชวนซาบซึ้งกินใจ และเตือนสติให้เรารู้จักพอเพียง ตามรอยพ่อ แล้วเราจะพบความสุข
“...รอยทางที่พ่อสร้างไว้ ดั่งคำสอนให้เราได้รู้
ถ้าทุกคนรวมใจไว้ แล้วพลังจะยิ่งใหญ่ ใครก็ตามจะมาแยกเราไม่มี
รอยทางที่พ่อสร้างสรรค์ มุ่งสู่ฝันคืนวันสดใส
บ้านของเราจะร่มเย็น และมั่นคงเสมอไป
ต่างคนจงรู้พอเพียง ต่างคนเพียงเข้าใจ จะสุขกายและใจจนเพียงพอ
...ถ้าทุกคนรวมไว้ แล้วพลังจะยิ่งใหญ่ ก้าวตามรอยพ่อไป คือความสุข”
6.ดินอุดม น้ำสมบูรณ์ ด้วยพระบารมี
“ดินอุดม น้ำสมบูรณ์ ด้วยพระบารมี” : บทเพลงที่ว่าด้วยเรื่องพระราชกรณียกิจในการบริหารจัดการทรัพยากรโดยเฉพาะในส่วนของดินและน้ำของในหลวงรัชกาลที่ ๙
ที่ทำให้ประเทศไทยของเรามีความอุดมสมบูรณ์
เพลงนี้เป็นอีกหนึ่งบทเพลงแด่พ่อของแผ่นดินที่น้าแอ๊ดแต่งได้อย่างไพเราะซาบซึ้ง และฉายภาพพระราชกรณียกิจจากพระอัจฉริยภาพได้อย่างเด่นชัด
7.80 ปี พ่ออยู่หัว
“80 ปี พ่ออยู่หัว” (อัลบั้ม ลูกลุงขี้เมา : 2550) เพลงนี้น้าแอ๊ดนำเรื่องราวพระราชกรณียกิจ การทรงงานอย่างหนักของพระเจ้าอยู่หัวมาร้อยเรียงเป็นเพลง สื่อออกมาแบบเข้าใจง่าย แต่ฟังแล้วกินใจนัก ขณะที่ภาคดนตรีก็ฟังอลังการ มีการนำท่วงทำนองของเพลง“แสงเทียน” เข้ามาผสมในท่อนโซโลดนตรีได้อย่างกลมกลืน
“หกสิบปีที่พ่อสร้าง แผ้วถางทางสู่วันคืนใหม่
เหน็ดเหนื่อยล้าเจียนแทบขาดใจ ไกลแสนไกลพ่อไปทั่วถึง
แปดสิบปีที่พ่อผ่าน จิตวิญญาณมั่นคงลึกชึ้ง
บ้านของเราพ่อคือที่พึ่ง ตามไปให้ถึงเจตนารมณ์...”(ท่อนแรกของเพลง 80 ปี พ่ออยู่หัว)
สำหรับ “ตามรอยพ่อ” กับ “80 ปี พ่ออยู่หัว” นั้น ถือเป็นบทเพลงแด่พ่อหลวงที่น้าแอ๊ดแต่งได้อย่างสุดยอด ไพเราะ กินใจ แถมฟังติดหูง่าย เข้าใจง่าย
8.พ่อภูมิพล
“พ่อภูมิพล” หนึ่งในบทเพลงแห่งความเศร้า ที่แต่งขึ้นหลังในหลวง รัชกาลที่ ๙ เสด็จสวรรคต โดยน้าแอ๊ดใช้เวลาในการแต่งประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะทุกอย่างนั้นออกมาจากใจ
เพลงนี้น้าแอ๊ดเล่าถึง พระราชกรณียกิจต่าง ๆ ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผ่านโครงการพระราชดำริต่าง ๆ ที่พระองค์ท่านไปวางรากฐานให้กับพสกนิกรชาวไทย
9.วันสุดท้ายของพ่อ
“วันสุดท้ายของพ่อ” : เป็นบทเพลงที่ “พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี” หรือ “ท่าน ว. วชิรเมธี” ประพันธ์ขึ้น เพื่อร่วมแสดงความอาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ และให้น้าแอ๊ดเป็นเป็นผู้ทำดนตรี และขับร้องถ่ายทอดอารมณ์ ซึ่งในยูทูบได้มีการโพสต์ข้อความประกอบบทเพลงนี้ เอาไว้ว่า
...แม้ในวันสุดท้ายพระองค์ก็ทรงสอนธรรมให้กับพวกเราชาวไทยทุกคน ทั้งยังเป็นที่มาของบทกวีนิพนธ์จากปลายปากกาของพระอาจารย์ ว. วชิรเมธี หรือพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ที่ชื่อว่า “วันสุดท้ายของพ่อ” ที่ได้มอบหมายให้ ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว) ศิลปินแห่งชาติ นำไปแต่งทำนองและขับร้องเป็น บทเพลงลำดับที่ ๓ จากบทกวีนิพนธ์ของพระอาจารย์ ว. วชิระเมธี อันเนื่องมาจากพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐
“วันสุดท้ายของพ่อ” เป็นธรรมคีตาชิ้นสุดท้ายถัดจาก “คืนสู่สวรรค์” และ “พ่อผู้เป็นนิรันดร์” ที่ ว. วชิรเมธี และ แอ๊ด คาราบาว ได้บรรจงทำขึ้นถวายแด่พระราชาผู้ทรงธรรมของแผ่นดิน เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกจากหัวใจพสกนิกรชาวไทยที่น้ำตาหลั่งพร้อมกันทั่วประเทศ ในขณะเดียวกันก็ชี้ให้เห็นธรรมที่แฝงอยู่ในความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของคนไทยดังความตอนหนี่งที่ว่า
“...เวลาของปวงเราไม่ยาวนัก วันหนึ่งจัก ลับไปไม่อาจหนี
ชีวิตพ่อ พ่อเดินตามคำพระชี้ จึงเป็นที่ “อมตะ” ณ นิรันดร์”
ผลงานชิ้นนี้จึงนับได้ว่าสามารถถ่ายทอดความคิดและอารมณ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดเพื่อส่งเสด็จในหลวงรัชกาลที่ ๙ สู่สรวงสวรรค์
ขณะเดียวกันก็ชวนให้พสกนิกรได้ตระหนักถึงคุณความดี และปฏิบัติตามแนวทางที่พระองค์สอนไว้ เพื่อเป็นการระลึกถึงพระองค์ท่านได้เสมอ
และนี่ก็คือ 9 บทเพลงคัดสรรที่น้าแอ๊ดบรรจงรังสรรค์ขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติแด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย และอยู่ในดวงใจของคนไทยผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ไปตลอดกาล