"โตโน่ ภาคิน" ล่องเจ้าพระยาเก็บขยะ อยากให้คนไทยหันมาใส่ใจแม่น้ำคู่บ้านเมือง รวมน้ำใจพี่น้องร่วมวงการ ลงพื้นที่อุบลฯ เก็บขยะหลังน้ำลด พร้อมจัดคอนเสิร์ตการกุศล 7 พ.ย. ที่ศาลหลักเมือง เร่งถ่ายละครร่วม "ณิชา" เตรียมปิดกล้อง ม.ค.นี้ รับรองความฟินชวนจิ้นจิกหมอน เขินหนักไม่เชื่อหู หลังฝ่ายหญิงบอกไม่ติดถ้าจะเรียกแฟน ไม่โกรธโดนแฟนเพลงลูบเป้ากลางผับที่เกาหลี บอกเห็นแก่ความสุขส่วนรวมไม่อยากมีดรามา ต่อไปจะระวังตัวมากขึ้น
เรียกว่าเป็นหนุ่มนักอนุรักษ์เต็มตัวเลยก็ว่าได้ สำหรับ "โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์" ที่มีเวลาว่างจากงานเมื่อไหร่ ก็จะต้องจัดทริปชวนเพื่อนๆ ออกไปเก็บขยะตามที่ต่างๆ อย่างล่าสุดเจ้าตัวก็เพิ่งจะไปลงพื้นที่เก็บขยะตามแม่น้ำเจ้าพระยามา วันนี้มีโอกาสดีเจอหนุ่มโตโน่ ที่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ในงาน น้ำมันมวย...ไม่ใช่นักมวยก็ใช้ได้ เลยขออัปเดตสักหน่อย ว่าโปรเจกต์ต่อไป จะไปลงพื้นที่เก็บขยะกันที่ไหน
"ไปพายเรือก็บขยะมา ก็สนุกครับ เป็นครั้งแรกด้วยที่เรามีโอกาสพายเรือแบบนั้น และระยะทางก็ 20 กว่ากิโล ผมรู้สึกมีความสุขและดีใจที่ได้เจอกับคนดีๆ หลายๆ คน ที่มาช่วยกันในวันนั้น คิดว่าถ้าทุกคนช่วยกันมันก็น่าจะดีขึ้น วันนั้นนอกจากจะเก็บขยะแล้ว ซึ่งเราเก็บได้ 2 ตันกว่า แต่ก็ยังมีการวัดค่าคุณภาพของน้ำ เพราะหลายๆ คนอาจจะทราบแล้ว หรืออาจจะยังไม่ทราบ ว่าแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นแม่น้ำที่เราเอามาทำน้ำประปา ให้เรา ได้ดื่ม ได้ใช้ ได้กิน ซึ่งค่าออกซิเจนในน้ำก็ออกมาแล้วว่าเสื่อมโทรมมาก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีค่าออกซิเจนไม่ถึง 2"
เลือกไปเก็บขยะที่แม่น้ำเจ้าพระยาเพราะเป็นแม่น้ำสายหลัก ที่กำลังแย่ เลยอยากให้คนหันมาใส่ใจดูแล
"เพราะว่า 2 เดือนนี้ กันยายนและตุลาคม ผมเห็นว่าเราน่าจะเน้นที่แม่น้ำ โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะเป็นแม่น้ำสายหลัก และคำว่าเจ้าพระยา ไม่มีคนไทยไม่รู้จัก อยู่คู่กับบ้านเรามานานมาก แต่กำลังแย่ ก็อยากให้ทุกคนมาช่วยกัน หันมาใส่ใจ ถ้าใครเคยทิ้งอะไรลงไปก็ขอให้หยุดให้เลิกเถอะ แล้วก็กลับมาดูแลก่อนที่เราจะไม่เหลืออะไรเลย"
ตลอดระยะทางที่พายไป เจอขยะตลอดทาง ที่มองเห็นได้เป็นแค่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ยังมีอีก 80 เปอร์เซ็นต์ที่จมอยู่ในน้ำ
"ก็เจอตลอดทาง แต่ถ้าเทียบกับบนบก มันอาจจะดูเหมือนไม่เยอะ แต่จริงๆ แล้ว มันคือ 20 เปอร์เซ็นต์ของขยะทั้งหมด เพราะว่าอีก 80 เปอร์เซ็นต์มันจมน้ำ นั่นหมายถึงว่าที่เราเก็บขึ้นมามันแค่ 20 เปอร์เซ็นต์"
"ก็ดีใจที่มีพ่อแม่พี่น้องหลายๆ คน ที่รู้ข่าวแล้วไปรอให้กำลังใจตามริมแม่น้ำ เราก็พยายามตะโกนบอก พยายามบอกเขาว่าให้ช่วยกัน ซึ่งหลายๆ คนพอเห็นทีมพายเรือมา เขาก็จะช่วยกันเก็บตามทาง นั่นก็เป็นสิ่งที่ผมดีใจ แต่ความสำคัญมันไม่ได้อยู่วันนั้นแค่วันเดียว การที่ผมไปเก็บวันนั้นวันเดียว มันไม่สามารถทำให้เจ้าพระยาสะอาดขึ้นได้ทั้งหมดหรอก มันอาจจะสะอาดขึ้นแค่เปอร์เซ็นต์เดียวก็ยังดี แต่ความสำคัญคือเราจะช่วยกันดูแลต่อไปกันยังไง จะช่วยกันลดไหมขยะพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง จะช่วยปลูกจิตสำนึกขึ้นมาได้ไหม ก็ต้องขอพี่ๆ สื่อมวลชนทุกคนให้ช่วยกันลงข่าว"
โปรเจกต์ต่อไปคือเก็บขยะหลังน้ำลด และจัดคอนเสิร์ตการกุศล ที่จ.อุบลราชธานี มีพี่น้องร่วมวงการอาสาเข้าร่วมด้วย
"ต่อไปถ้าเป็นหลักๆ เลย คือวันที่ 7 เดือนหน้าผมจะไปเก็บขยะที่อุบลราชธานี ช่วงนั้นน้ำจะเริ่มลดแล้ว และขยะก็จะเยอะ รวมถึงจะจัดคอนเสิร์ต เป็นคอนเสิร์ตการกุศล คือฟรีทุกอย่างให้กับคนอุบลฯ ก็ดีใจที่มีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ศิลปิน หลายๆ คน ที่พอทราบข่าวก็จะไปกับเราด้วย ตอนนี้อาสาสมัครไม่ได้เยอะอะไร ก็คงเป็นทีมของพวกผมนี่แหละ แต่ว่าเราก็ชวนพวกเพื่อนๆ ในวง ให้ไปเล่นคอนเสิร์ต ไปให้ความสุขกับพวกเขา รวมถึงส่วนรายได้ทุกบาท ที่เขาอาจจะตั้งกล่องบริจาค เงินทั้งหมดผมจะช่วย 10 โรงเรียนที่โดนน้ำท่วมที่จังหวัดนี้"
"คือตอนที่เราไปช่วยน้ำท่วม เราได้เจอกับคนอุบลฯ แล้วเขาบอกว่าโตโน่มาจัดคอนเสิร์ตไหม หลังน้ำลด และมาช่วยกันเก็บขยะด้วยในตัวเมือง ซึ่งผมก็คิดว่าดีนะ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้คิดถึงเงินที่เราหามาได้ คือเราไม่ได้รับบริจาคนะครับ อาศัยว่าผมทำงานได้เงินมาก็เอาเงินตัวเองมาช่วยเอา ก็เอาเงินที่เรามีเก็บไว้ มาจัดคอนเสิร์ต มาเป็นค่ากินข้าว ค่าเดินทางของเพื่อนๆ ดีกว่าครับ"
สำหรับคนที่สนใจอยากช่วยบริจาค ไปบริจาคได้ที่งานวันที่ 7 พ.ย. นี้ ณ ศาลหลักเมืองจ.อุบลราชธานี
"ผมว่าไปร่วมกันบริจาคที่งานดีกว่าครับ ในวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ศาลหลักเมืองของอุบลราชธานี เราจะไปชวนน้องๆตามโรงเรียนต่างๆ แล้วเดินเก็บขยะจาก โรงเรียนของน้องๆ มาที่เวทีคอนเสิร์ต แล้วเพื่อนๆ พี่ๆ ศิลปินที่มาช่วยเราวันนั้น ก็จะมาร่วมเล่นคอนเสิร์ตให้กับน้องๆ ที่มาช่วยเรา รวมถึงชาวอุบลฯ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย"
ละครกับ "ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์" ตอนนี้ถ่ายไปได้ 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทีมงานเร่งถ่ายเพราะต้องออนแอร์ให้ทันปีหน้า คาดปิดกล้องเดือนม.ค ต้องจัดคิวให้ไม่ชนกับคอนเสิร์ต
"ตอนนี้ 50 เปอร์เซ็นต์แล้วครับ ก็คิดว่าน่าจะปิดกล้องประมาณเดือนมกราคมครับ ก็ต้องจัดคิวดีๆ เลยตอนนี้ คือเราต้องเร่งถ่ายด้วย เพราะได้ยินมาว่าเขาอยากจะออนแอร์ให้ได้ประมาณต้นปีหน้า ตอนนี้ทีมงานทุกคนพยายามทำให้ดีที่สุด ละครเรื่องนี้เราถ่าย 3 วันต่อ อาทิตย์ ส่วนอีก 4 วันก็จะเป็นงานคอนเสิร์ต แล้วก็เก็บรักษ์ที่เราต้องทำเป็นประจำ"
คลิปมุงมิ้งกับณิชา ที่ออกมาให้แฟนคลับได้จิ้น เป็นการเล่นกันแก้เบื่อในกองถ่าย
"ก็เล่นกันในกอง ถ้าอยู่เฉยๆ มันก็คงจะน่าเบื่อ ถ้าแกล้งกันก็น่าจะสนุกดีครับ เรื่องนี้ค่อนข้างจะดรามาพอสมควร โรแมนติกดรามา แล้วก็ค่อนข้างมีแฟนตาซีด้วย คือเราเป็นคนที่ไม่มีวันตาย โดนควักหัวใจและสาปไม่ให้ตาย มันค่อนข้างจะยาก เราไม่เคยอายุ 2 พันปี เราก็ต้องทำการบ้านว่าจะเป็นยังไง รวมถึงตัวของณิชาเอง มันเป็นเรื่องของอดีตกับปัจจุบัน"
แม้จะสนิทกันมากขึ้น แต่พอต้องเข้าฉากด้วยกัน ก็ยังมีเขินบ้างบางซีน เชื่อจะเป็นผลงานที่แฟนๆ ดูแล้วมีความสุข
"ก็เป็นบางซีนครับ แต่ส่วนใหญ่จะไปด้วยกันด้วยดี เพราะว่าณิชาทำการบ้านเยอะ ทำการบ้านมาดีครับ ก็น่าจะเป็นผลงานที่แฟนๆ มีความสุขครับ ถามว่าผมรู้ทางไหม คือเราไม่นัดกัน มันไปเจอกันในซีนเลย เลยทำให้เราได้เจออะไรใหม่ๆ ตรงนั้น"
ไม่เชื่อณิชาให้สัมภาษณ์ ถ้าคนมองว่าเป็นแฟนกันก็ไม่ติด บอกเรื่องให้แหวน แม่เป็นคนให้ และให้เพราะเป็นของขวัญที่สวยดี ไม่ได้ตีตราจอง
"น้องเขาตอบแบบนั้นจริงๆ เหรอ มั่วแล้วไม่จริงแล้ว เรื่องแหวนก็นานแล้ว คือคุณแม่เขาให้ เดี๋ยวคนจะเข้าใจผิด จองเจิงอะไร เป็นของฝากของขวัญ (ตกลงจองจริงไหม?) หึ ไม่ได้จองหรอกครับ ผมว่าของแบบนี้จะไปจองได้ยังไง (แล้วทำไมถึงต้องให้เป็นแหวน?) เราว่ามันสวยดี (หัวเราะเขิน) ถามว่าโตโน่กับณิชาเป็นแฟนกัน เราติดอะไรไหม ใจเย็นๆ (หัวเราะ)"
"ผมไม่เชื่อว่าน้องพูดแบบนี้ (หัวเราะ) คือเรื่องคนอื่นจะคิด เราก็ไม่ติด แต่ถ้าถามว่าเราเป็นแฟนกันหรือยังเรายังไม่ได้เป็นแฟนกัน เราเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกัน(หัวเราะเขิน)"
หลุดดีใจ คนมองเป็นคู่รักนักอนุรักษ์ บอกถ้าเป็นแล้วก็ดี แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน
"ก็ดีใจครับ เฮ้ย ไม่ใช่ หมายถึงว่าถ้าเขาเอ็นดูเรา หรือเมตตาเรา เราก็ดีใจ แต่ถามว่าเราเป็นแฟนกันหรือยัง เรายังไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่ณิชาก็จะไปช่วยด้วยวันที่ 7 นี้ที่อุบลราชธานี เขาก็อยากไป จะคู่รักนักอนุรักษ์อะไร มันยังไม่ได้เป็นแฟนกัน ถ้าเป็นแล้วก็ดี แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้เป็น"
เขินหนักโดนถามจะเป็นแฟนกันเมื่อไหร่ดี บอกปล่อยไปตามธรรมชาติ เป็นห่วงไม่อยากให้น้องมีผลกระทบ ให้เกียรติทั้งน้องและแม่
"ก็...ผมไม่รู้ว่าน้องเขาคิดไหม แต่ตัวเราเอง เราโฟกัสกับการเก็บขยะ (ยิ้มเขิน) เอาอย่างนี้ดีกว่าครับ เอาเป็นว่าตัวของผมเอง ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาตินะครับ แต่ว่าอะไรก็ตามเราก็ไม่อยากให้เรื่องของเราหรือเรื่องของเขา คือถ้ามันไปกระทบเขา เราก็เป็นห่วง ผมค่อนข้างให้เกียรติเขาและคุณแม่เขาด้วย น้องเขาเป็นเด็ก เพราะงั้นปล่อยให้เวลาเป็นตัวบอกดีกว่า แต่ว่าตอนนี้เรายังไม่ได้เป็นแฟนกัน ใจเย็นๆ ครับ ผมว่าณิชาก็มีงานเยอะ ตัวเราเองก็มัวแต่เก็บขยะ"
ปัดณิชารอให้ตนเป็นพูดฝ่ายก่อน บอกเข้าใจกันอยู่แล้วทั้งเรื่องการใช้ชีวิตและเรื่องงาน
"ไม่หรอกครับ เราค่อนข้างจะเข้าใจกัน ทั้งการใช้ชีวิตและการทำงาน แต่เรื่องที่ต้องมาเป็นแฟนกันแล้ว มันยังไม่ใช่ครับ”
รับคุยกันบ้าง แต่ไม่ได้หวาน วอนใจเย็นๆ น้องยังเด็ก บอกถ้ามันใช่เดี๋ยวมันก็ใช่
"ก็คุยนะ (หวานไหมตอนคุยกัน?) ปกติครับ วันนี้พวกพี่เล่นผมหนักนะ(หัวเราะ) เอาเป็นว่าเดี๋ยวถ้ามันถึงเวลา ถ้ามันใช่เดี๋ยวมันก็ใช่ครับ ตอนนี้ใจเย็นๆ น้องยังเด็กครับ"
ไปทำกิจกรรมอะไรไม่ต้องรายงาน แต่เจอกันในกองก็เล่าให้ฟัง วันที่ 7 นี้เลยชวนน้องไปด้วย
"ไม่ได้บอกครับ ถ้าเวลาเจอกันที่กองก็เล่าให้ฟัง เขาก็ถาม ตั้งแต่ไปอุบลราชธานีครั้งที่แล้วเขาก็อยากไปด้วยนะครับ ครั้งนี้เลยบอกเขาว่าเราจะจัดคอนเสิร์ตไปด้วยกันไหม แล้วไปช่วยกันเก็บขยะด้วย ตัวน้องเขาก็ยินดีที่จะไป แต่ขอไม่ขึ้นร้องเพลง ส่วนพลาสเตอร์ของน้องก็ยังอยู่ที่รถ มันยังไม่ได้หลุดไปไหน ผมก็เลยไม่จำเป็นต้องไปแกะ"
เล่าโมเมนต์โดนแฟนเพลงลูบเป้า บนเวทีคอนเสิร์ตที่ผับประเทศเกาหลี รับตกใจแต่ไม่อยากชักสีหน้าใส่เพราะไม่อยากให้คนส่วนรวมที่ตั้งใจมาดูต้องหมดสนุก อะไรปล่อยผ่านได้ก็ปล่อย ทำได้แค่ถอยออกมา
"นั่นคือไปเล่นที่เกาหลีใต้ แต่สำหรับตัวผมเอง เราไปเล่นให้คนหลายร้อยคนเขามีความสุข ดังนั้น ถ้าเราจะเอาความรู้สึกไม่ดีตรงนั้น เวลาที่เขาทำแบบนั้นมาเก็บไว้ มันจะทำให้คนอีกหลายร้อยคนที่มารอดูเรามันส่งผลกระทบต่อเขา ผมว่ามันไม่คุ้ม ตอนแรกเรายังไม่รู้หรอก แต่ประมาณ 2-3 วินาที เราก็รู้สึกได้ เราเลยถอยออกมา แต่ถามว่าจะไปไม่พอใจใส่เขา ไปชักสีหน้า คนที่อยู่ที่นั่นทุกคนเราอยากให้เขามีความสุข ดังนั้นอะไรที่เราปล่อยผ่านได้และเราเข้าใจ มันไม่เป็นไรครับ"
"แต่ถามว่าตอนนั้นตกใจไหม ผมเป็นผู้ชายครับ แต่ถามว่ามันควรทำแบบนั้นไหม มันคงไม่ดีหรอก แต่คนอย่างผมจะไปเล่นด้วยไหม มันคงไม่ใช่ผม ดังนั้นอะไรที่เราเข้าใจได้ ปล่อยผ่านได้ก็ปล่อย ถ้าเราต้องมาหยุดคอนเสิร์ตเพราะคนคนเดียว มันไม่คุ้ม คนดูเสียค่าตั๋วมาและผมกว่าจะได้บินมาที่เกาหลี ปีละหนึ่งครั้ง ผมก็อยากให้ทุกคนในนั้นมีความสุข ไม่อยากให้มีความรู้สึกแย่ๆกลับไป แล้วถามว่าเขาตั้งใจจับไหม ถ้าพูดกันตรงๆ ผับเราเล่นกลางคืนอย่างนั้น เขาก็ต้องมีเมาบ้าง ดังนั้นเราก็เข้าใจได้ครับ แต่เราเห็นว่ามันไม่ดีเราก็ถอยออกมา แค่นั้นเอง"
"เหตุการณ์แบบนี้เกิดไม่ค่อยบ่อยหรอกครับ เพราะว่าเวทีวันนั้นมันติดกันด้วยและเป็นช่วงท้ายๆ เราก็อยากอัดกับคนดูทุกคนก่อนจะเสร็จคอนเสิร์ต ต่อไปนี้ผมต้องระวังมากขึ้น ผมก็ไม่อยากให้มีใครโดนว่า ไม่อยากให้ใครต้องมาดรามากัน แต่เรื่องอย่างนั้นเราไม่ได้ต้องการไปมอบความสุขด้วยวิธีนั้น อยากให้เขาสนุกในเพลง เราเป็นวงร็อกครับ มันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตสำหรับผม แต่ว่าถ้ามันเกิดขึ้นอีกก็ต้องระวัง แต่วันนั้นคนมันแน่นมาก การ์ดของงานยังเข้าไม่ถึงเลย เราพยายามเข้าใจทุกคนดีกว่า เราเข้าใจว่าคนดูเมา ตัวเราเองก็ต้องระวังแค่นั้นเอง เราเป็นผู้ชาย แล้วผมก็ไม่ได้กลัวอะไร อะไรที่ไม่ดีเลี่ยงได้เราก็เลี่ยง เราไม่ได้ไปโกรธ หรือมองเป็นเรื่องใหญ่ เป็นห่วงพวกเขามากกว่าอยู่ไกลบ้าน ไปทำงานเกาหลีก็อยากให้เขามีความสุข ไม่อยากให้มีดรามา"