"แทค ภรัณยู" ตีมึนจำเหตุการณ์โพสต์เลิกเมียไม่ได้แล้ว ตอบอยู่คำเดียวทุกอย่างปกติ เลิกไม่เลิกแล้วแต่จะตีความ แต่ยอมรับแยกกันอยู่กับเมียไม่เคยใช้ชีวิตสามีภรรยามาตั้งนานแล้ว ชินอยู่คนเดียว ยินดีออกงานทั้งครอบครัวถ้าเงินถึง!
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ "แทค ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม" โพสต์ผ่านอินสตาแกรมประกาศเลิกเมีย "ไฮโซเบลล์ อดิราภ์ เองตระกูล" ลูกพี่ลูกน้อง "เป็ก สัณณ์ชัย เองตระกูล" สายฟ้าฟาด ด้านเมียก็โพสต์สวนทันควันว่าได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ต่อมาทั้งสองคนจะลบทุกสิ่งที่โพสต์ และมีข่าวว่ากลับมาคืนดีกัน เรื่องจบภายในวันเดียว จนงงไปทั้งบาง ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอตัวหนุ่มแทคในงานแถลงข่าวความสำเร็จการจดการแข่งขัน Advice E-Sports 2019 Episode 2 ที่ห้องประชุมสนมฯ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ งานนี้เจ้าตัวตอบอยู่คำเดียวว่าทุกอย่างปกติ มึนตึ๊บ
"ปกติครับ ไม่มีอะไรครับ วันนั้นที่โพสต์ก็จำไม่ได้แล้วครับ ถามว่าเกิดอะไรขึ้นตอนโพสต์ ตอนนั้นผมจำไม่ได้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะว่ามันผ่านเวลามานานแล้ว แต่ว่าตอนนี้ปกติ ไม่มีอะไรครับ (เคลียร์กันแล้ว?) ผมบอกพี่ๆ ว่าตอนนี้ก็ปกติ มันก็ไม่มีอะไรครับ"
"ถามว่าแค่งอนหรือทะเลาะกัน ผมตอบไม่ได้ว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าระยะเวลามันนานมาก แล้วเราก็ไม่รู้ว่าอารมณ์นั้นคืออะไรครับ ส่วนใช้คำว่าสามีภรรยาได้อยู่ไหม ก็ปกติดีกว่าครับ (อยู่บ้านเดียวกัน ช่วยเลี้ยงลูก?) คู่ผมไม่ได้อยู่ด้วยกัน ผมแยกกันอยู่ตั้งนานแล้วครับ แยกกันอยู่ตั้งแต่แรกแล้วครับ ลูกอยู่กับแม่ครับ ผมก็มีหน้าที่หาเงินครับ แล้วก็คอยดูลูก คอยดูเรื่องค่าใช้จ่าย ถามว่าเป็นครอบครัวไหม ก็คือปกติครับ"
เผยแยกกันอยู่ตั้งแต่มีลูก ชินใช้ชีวิตคนเดียว เลิกหรือไม่เลิก ไม่ตอบ บอกอยู่คำเดียว ทุกอย่างปกติ
"คือเราแยกกันอยู่นานแล้วครับ ตั้งแต่มีไอ้ตัวเล็กแล้ว เพราะแน่นอนว่าเราใช้ชีวิตคนเดียวมา คือเราชินกับการใช้ชีวิตคนเดียวมากกว่าครับ (ไม่เคยใช้ชีวิตคู่แบบสามีภรรยากันเลยเหรอ?) บอกแล้วว่าผมมีหน้าที่ทำงานครับ ผมทำงานหาเงินครับ ก็ปกติครับ เลิกหรือไม่เลิกก็ปกติครับ เป็นพ่อเป็นแม่ หรือเป็นสามีภรรยา ก็ปกติครับ ถ้าวันไหนบ้างเราก็แวะไปหา ไปดูแลเขา แล้วก็มีไปนอนบ้าง ไม่ได้ฟิกซ์ตายตัวว่าวันไหนครับ"
ปัดตอบโสด ใช้ชีวิตปกติ ตีความกันเอาเอง
"ปกติครับ ผมใช้คำว่าปกติครับ ถ้าถามคำจำกัดความคำว่าปกติ ก็ให้พี่ไปตีความกันเอง เอาเป็นว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือครอบครัวผมเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ก็ปกติครับ เรียกว่าครอบครัวได้ไหม ก็ปกติครับ ส่วนที่มองว่าไม่อยู่กันเป็นครอบครัวก็ไม่ปกปติ เอาเป็นว่าอาจจะไม่ใช่แค่ครอบครัวผมนะ การแยกกันอยู่มันไม่ใช่ว่าจะไม่เป็นครอบครัวหรือเป็นครอบครัว บางครั้งเราสบายใจกับการที่เราจะอยู่แบบนี้มากกว่า เพราะผมอยากจะบอกว่าสังคมสมัยนี้อยู่อะไรที่มันสบายใจก็อยู่เถอะครับ อย่าไปเน้นว่าต้องอยู่ด้วยกัน ต้องอะไรด้วยกัน ปกติดีกว่า ผมก็ทำงาน ใช้ชีวิตปกติ ก็ไม่มีอะไรครับ"
ตกลงกันทั้งสองฝ่าย คุยกับใครก็ได้
"ถามว่าตกลงกันไหม เราก็คุยกันแล้วนะว่าเป็นอะไรยังไงครับ เรียกว่าโสดได้ไหม ผมก็ปกติ ผมก็คุยได้กับคนอื่นได้ปกติ ผมคุยกับใครก็ได้"
ปัดตอบพ่อโพสต์ห่วง บอกทุกอย่างปกติ อนาคตไม่แน่นอน
“ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรครับ ตอนนี้ก็ปกติ ถามว่าอยากใช้ชีวิตครอบครัวไหม คือตอนนี้ผมขอทำงานเก็บเงินให้ภารันดีกว่า เรื่องครอบครัวมันเป็นเรื่องของอนาคตครับ อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน บางคนแต่งงานรักกัน สักพักนึงก็หย่ากัน มันก็ปกติ แต่สิ่งสุดท้ายก็คือลูกเท่านั้นเอง ทำยังไงให้ลูกได้รับความอบอุ่น ทำยังไงให้ลูกเป็นคนดี ทำยังไงให้ลูกอยู่ในสังคมแบบนี้ได้"
ไม่ค่อยได้คุยกับเมีย แล้วแต่จะตีความ ลูกสำคัญที่สุด
"ไม่ค่อยได้คุย ผมจะคุยกับลูกมากกว่า เพราะช่วงนี้เขากำลังเรียนรู้ กำลังจำครับ ภารันก็อยู่บ้านแม่เขา ผมก็มีหน้าที่หาเงินครับ หน้าที่พ่อแม่ยังเหมือนเดิมไหม เรื่องนี้ผมขอไม่คอนเฟิร์มแล้วกัน เพราะอย่าลืมนะครับอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ก็ดูหลายๆ คู่รักกัน แต่สุดท้ายเป็นยังไงครับ แต่สุดท้ายยังไงลูกก็ต้องสำคัญที่สุดเท่านั้นเอง ถามว่าใช้คำว่าสามีภรรยาได้ไหม แล้วแต่คนจะตีความเลยแล้วกันครับ มันไม่ชุลมุนหรอก ก็เป็นครอบครัวนึงที่เลี้ยงตัวเล็กเท่านั้นเอง ไม่เห็นมีอะไร"
ผู้ใหญ่สองฝ่ายรับรู้
"เขารู้อยู่แล้วครับ เพราะเราเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมาแยกครับ ตอนนี้ก็แฮปปี้ครับ ได้ทำงานผมก็แฮปปี้แล้ว"
เงินถึงพร้อมออกงานทั้งครอบครัว แบดบอยเหมือนเดิม ลูกไม่ได้เปลี่ยนอะไร
"รอให้โตก่อนดีกว่า ให้มันเดินได้ เล่นได้ เดี๋ยวค่อยว่ากันครับ ซึ่งคนก็เห็นใจภรรยา แน่นอนคนไทยอยู่แล้ว ก็เห็นใจคนที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ ก็เห็นใจ ไม่ผิดอยู่แล้ว เรื่องออกงานด้วยกันก็ต้องดูด้วยว่าคนจ้างให้เงินถึงหรือเปล่า ถ้าเงินมาก็ไปเลยครับ ตอนนี้ให้เวลาลูกเป็นหลักครับ ลูกคือที่สุดแล้ว ไม่ต้องมีอะไรแล้ว ถามว่าแบดบอยไหม แบดบอยอยู่แล้วครับ แค่มีลูกก็ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนอะไร ก็ปกติครับ"
ก่อนหนุ่มแทคจะตัดบทไม่ตอบแล้ว ไล่ให้นักข่าวไปใช้ชิมช็อปใช้