ช่อง 3 เขย่ารายการข่าวเพื่อความเข้มข้น ชูจุดยืน ข่าวจริง ทันเหตุการณ์ พึ่งพาได้ หวังดูดเม็ดเงินโฆษณา ประเดิมเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ,เรื่องเด่นเย็นนี้ และข่าว 3 มิติ อุบตัวเลขรายได้ไตรมาส 3 ขอเวลาประกาศอีก 1 เดือน ละคร-วาไรตี้ ปรับยกแผงต้นปีหน้า ยันรายได้ลดลง ผลพวงพิษเศรษฐกิจ ครึ่งปีหลังยังเหนื่อย ย้ำเรตติ้งละครดีขึ้น ไม่เกี่ยวพฤติกรรมนางเอก แต่ต้องปล้ำกับ "ลิขิตรักข้ามดวงดาว"
หลังจากทิ้งเก้าอี้ LINE ก้าวสู่การเป็นบิ๊กช่อง 3 กู้วิกฤตทีวียุคดีจิทัล ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 ก.ย. "นายอริยะ พนมยงค์" กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว "ข่าว 3 โฉมใหม่ ข่าวจริง ทันเหตุการณ์ พึ่งพาได้" จัดการเขย่ารายการข่าวใหม่ทั้งหมดโดยเริ่มที่รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์, เรื่องเด่นเย็นนี้ และข่าว 3 มิติ พร้อมจับรวบตึงโต๊ะข่าว จากเดิมมี 9 โต๊ะ ให้เหลือแค่โต๊ะเดียวเพื่อให้ร่วมมือกันผนึกกำลังและความแข็งแกร่ง เพิ่มความเข้มข้น โดยนายอริยะ เผยว่าการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ คาดหวังเรื่องเม็ดเงินโฆษณาที่จะเข้ามา พร้อมเปิดใจปีหน้าพร้อมเขย่ารายการวาไรตี้และละคร
"เรื่องการปรับเปลี่ยนสตูดิโอเราใช้ทีมงานเก่าของเราหมดเลย สิ่งที่เราเสียดายคือเราอยากให้เห็นภาพบีฟอร์ อาฟเตอร์ เราปรับทั้งหมดตรงนี้ ข้างหลังเราจะเน้นตัว Green Screen มากขึ้น จะเห็นว่าภาพที่เป็นวีอาร์มามีบทบาทมากขึ้น สิ่งที่จะเห็นมากขึ้น คือกราฟฟิกที่อธิบายที่มาของข่าว ให้มันเข้าใจง่าย และจับต้องได้ง่ายขึ้น วันที่ 1 ต.ค. เราจะได้เห็นลูกเล่นของการปรับเปลี่ยนสตูดิโอมากขึ้น"
"การปรับเปลี่ยนตรงนี้ เราก็คาดหวังเรื่่องเม็ดเงินของโฆษณาเข้ามาเพิ่มขึ้น แต่เบื้องต้นอยากจะทำให้รายการข่าวของเรามีความชัดเจน มีความโดดเด่น เป็นการปรับโฉมใหม่ ตอนที่ผมเข้ามารายการข่าวของช่อง 3 เป็นอันดับหนึ่งเป็นส่วนใหญ่ พื้นฐานมีดีอยู่แล้ว แต่ที่ต้องปรับคือเพิ่มความเข้มข้น และความชัดเจน นี้คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องการให้ข่าวของช่อง 3 เป็นข่าวจริง ทันเหตุการณ์ พึ่งพาได้"
"ถ้าย้อนกลับไปดู เม็ดเงินโฆษณาของข่าว เคยขึ้นไปถึง 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ของรายได้ ในระยะสั้นสิ่งที่ผมขอเน้นก่อน เอาเรื่องของเรตติ้งให้ดีกว่า โดยธรรมชาติ เม็ดเงินจะตามมาอยู่แล้ว ซึ่งถามว่าเม็ดเงินรายการลดลงไหม ลดลงมา ไม่ได้เยอะมาก ถ้าเปรียบเทียบกับตอนที่เราทำได้ดี คาดหวังว่าอนาคตจะกลับไปเท่าเดิม"
ฟุ้งออนไลน์มีหลายช่องทาง จุดแข็งคือผู้ประกาศข่าว 50 ชีวิต
"มีเฟซบุ๊ก ยูทิวบ์ และเว็บไซต์ของช่อง 3 และทวิตเตอร์ด้วย สิ่งที่เป็นจุดแข็งของช่องคือผู้ประกาศข่าว เรามีผู้ประกาศข่าว 50 ชีวิต ที่อยู่ด้วยกันมายาวนาน เป็นจุดขาย เป็นสิ่งหนึ่งที่เรามี และคนอื่นไม่มี"
"ทีมข่าวของเรามี 200 กว่าชีวิต ผมคิดว่าไม่ต้องเพิ่มทีมข่าวเข้ามา เพราะผมคิดว่าเท่าที่มีก็เยอะอยู่แล้ว มันคือกระบวนการทำงาน จะเห็นว่าช่วง 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมาข่าวของเราเร็วขึ้น ลงท้องถิ่นเร็วมากขึ้น ผมเชื่อว่านี่คือข่าวจริง ทันเหตุการณ์ พึ่งพาได้ เป็นสิ่งที่ผู้ชมของช่อง 3 อยากจะเห็น"
รับไตรมาส 4 จะปรับทุกรายการที่เป็นรายการข่าว ตอนนี้ประเดิม 3 รายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์,เรื่องเด่นเย็นนี้ และข่าว 3 มิติ เพราะเป็นช่วงที่เรตติ้งดีที่สุด
"ใช่ครับ ตอนนี้เราปรับไป 3 รายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ เรื่องเด่นเย็นนี้ และข่าว 3 มิติ เหตุผลที่เราเริ่มจาก 3 รายการนี้ เพราะว่าเป็นข่าวที่เรตติ้งดี กระแสทำได้ดีอยู่แล้ว ประเด็นที่สอง สตูดิโอนี้ที่เราปรับก่อน เพราะเป็นสตูดิโอที่ 3 รายการนี้ใช้ด้วย เลยทำได้เร็วขึ้น ในไตรมาส 4 เราไปปรับสตูดิโออื่น และรายการข่าวอื่นที่เหลือด้วย เรตติ้งสูงสุดตอนนี้เป็นรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ และเรื่องเด่นเย็นนี้ เท่าไหร่จำไม่ได้ ก็ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ถามว่าต้องเพิ่มไหม ผมว่าไม่ต้องเพิ่ม เพราะว่ารายการข่าวของเรามีทุกช่วงเวลา เกมของเราพึ่งรายการข่าวที่เรามีอยู่แล้ว เพิ่มความเข้มข้นและจุดเด่นของแต่ล่ะรายการ ให้มีความชัดเจน ไม่ว่าจะในแง่ของผู้ประกาศ สิ่งหนึ่งที่เราเน้น คือผู้ประกาศ"
แต่ละรายการซอยเวลาให้สั้นลงด้วย ยกสองรายการ โหนกระแสและข่าวนอกลู่มาจากช่อง 28 sd
"ที่ซอยให้สั้นลง ในเฟดแรกที่เราปรับผังรายการ เรายกรายการที่มาจากช่อง 13 และช่อง 28 ด้วย สำหรับช่อง 28 รายการที่เรายกมาคือ รายการโหนกระแส และข่าวนอกลู่ เราเลือกรายการที่ผู้ชมทางช่อง 28 ชมอยู่แล้ว มาชมต่อได้ที่ช่อง 33"
ปรับองค์กร รวมโต๊ะข่าว 9 โต๊ะ ให้เหลือแค่โต๊ะเดียว
"เมื่อ 2 เดือนกว่า เรามีการปรับขนาดขององค์กร และโครงสร้างขององค์กรใหม่ ให้ทันเหตุการณ์มากขึ้น ทุกวันนี้เราทะลุทะล่วง ตอนนี้จากโต๊ะข่าวที่เคยมี 9 โต๊ะ เรารวมมาเหลือโต๊ะเดียวครับ"
ขึ้นค่าโฆษณารายการโหนกระแส - ข่าวนอกลู่ หวังเรตติ้งรายการข่าว 1.52 ขึ้นไปในไตรมาส 2
"ปรับขึ้นแน่นอน เพราะว่ามาขึ้นอยู่ช่อง 33 แต่ไม่แน่ใจว่าปรับเป็นเท่าไหร่ ส่วนรายการข่าวอื่นๆ ก็ยังไม่ถึงเวลาปรับ ต้องให้เห็นภาพที่ชัดเจน และเรตติ้ง เมื่อเรตติ้งมา เม็ดเงินก็ตามมา ถามว่าจากการปรับครั้งนี้เรตติ้งจะขึ้นเท่าไหร่ ผมมีเป้าหมายอยู่ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับรายการ และช่วงเวลา อย่างรายการที่สำคัญ ก็อยากเห็น 1.52 ขึ้นไป ผมว่าน่าจะ 2 ไตรมาส เพราะเราเริ่มปรับตั้งแต่เดือนที่แล้ว เริ่มเห็นผลที่ดี ได้รับเสียงชมจากผู้ชมค่อนข้างเยอะ ตอนนี้ผมเข้ามาดูเรื่องข่าวตั้งแต่เช้า ดูสิ่งที่เราจะปรับ สิ่งที่เราจะเพิ่มความเข้มข้น และตัวรายการ และรูปแบบออนไลน์เราจะทำอะไรบ้าง ขบวนการทำงานจะมีความคล่องตัวมากขึ้นด้วย"
ไม่มีผอ. ฝ่ายข่าว
"ยังไม่มีครับ ผมรักษาการอยู่ จริงๆ แล้วต้องมี ผมเข้ามารักษาก่อนในช่วงนี้ อีกอย่างช่วงนี้เป็นช่วงการปรับผังของเรา ผมว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ ผมกับทีมงานเราทำงานกันอย่างใกล้ชิดครับ”
"ถามว่าคาดหวังเรตติ้งในไตรมาส 4 ไหม จริงๆ แล้วมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับรายการข่าวผมไม่กดดันทีมข่าวขนาดนั้น แต่ก็ยังเป็นเป้าหมายเราอยู่แต่เราจะพยายามกลับมาให้เห็นภาพมากที่สุด ภาพรวมถือว่าไม่ง่าย เพราะในครึ่งปีหลังตลาดค่อนข้างโหดอยู่ทั้งภาคเศรษฐกิจน้ำท่วมเศรษฐกิจโลกอีกครึ่งปีหลังเหนื่อยกันอยู่"
ช่องดิจิทัลลดลงแต่เม็ดเงินก็ยังกระจุกอยู่ที่ 10 ช่องหลักเหมือนเดิม
"จริงๆ แล้วลดช่องดิจิตอล ต้องบอกว่าช่องที่สำคัญก็ยังอยู่หมด แล้วเม็ดเงินก็ไม่ได้กระจุกอยู่ที่ 15 ช่องนะอยู่ที่ 10 ช่องเป็นหลัก การคืนช่องมาไม่ได้เปลี่ยนสภาวะการแข่งขัน จริงๆ แล้วแอบเพิ่มการแข่งขันซะด้วยซ้ำ วันนี้การตัดสินที่จะอยู่กันต่ออีก 10 ปีเลยนะ ทุกคนก็ต้องแข่งขันกันเต็มที่อยู่แล้ว ถามว่าลดไป 2 ช่อง ความเข้มข้นจะลดไปเยอะไหม อย่างที่ผมเคยเรียน การที่เราเลือกและทุ่มกับช่อง 33 เพราะแน่นอนเป็นช่องหลักของเราอยู่แล้ว"
"ถามว่าเงินที่ได้จาก กสทช. จะเป็นอย่างไร อันนี้คอยพรุ่งนี้นะ พรุ่งนี้ไปเอง ประมาณบ่ายโมง หลังเขย่ารายการข่าวจากช่อง 13 และ 28 มารวมเป็นช่อง 33 ถามว่าจะทำอะไรต่อไป ก็จะเป็นรายการที่เหลือ ทั้งวาไรตี้และละครด้วย คงปรับช่วงต้นปีหน้าเพราะตรงนี้มันเป็นรายการที่ที่ใช้เวลา"
หวังกระจายรายได้ ไม่ไปกระจุกอยู่ที่ละคร อ้างเรตติ้งละครลดลง เป็นพิษเศรษฐกิจ แต่ดีขึ้นแล้ว ปล้ำกับลิขิตรักข้ามดวงดาว
"ณ วันนี้ ต้องบอกว่ารายได้ของเราไปกระจุกอยู่ที่ละครซะส่วนใหญ่ วันนี้สิ่งที่เราพยายามทำก็คือกระจายแหล่งรายได้ของเรา บนทุกๆ รายการ ทุกพื้นที่ที่เรามีทั้งหมด และไม่ใช่แค่ช่องทางบนทีวี แต่บนช่องทางอื่นด้วย จริงๆ ถ้าเอาให้สวยต้องมองธุรกิจใหม่ทั้งออนไลน์ สิ่งที่เราพยายามทำเรื่องไอทีกับศิลปิน คือธุรกิจใหม่จะเห็นภาพอย่างน้อยๆ อย่างที่ผมคุยว่าตั้งไว้ว่าเห็นสัก 10 เปอร์เซ็นต์ ถึงจะมีภาพกับธุรกิจของเรา ในภาพรวมปีนี้ยังไม่เห็นหรอกครับเพราะมันยังอยู่ในจุดเริ่มต้น สำหรับสัดส่วนละคร ผมว่าในแง่ของรายได้อยู่ที่เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่มองว่าเรตติ้งน้อยกว่าช่องอื่น จริงๆ ผมว่าช่วงนี้เม็ดเงินทั้งตลาดก็ลดลงจริงๆ ผลมันไม่ได้มาจากเรตติ้ง แต่เป็นเพราะเศรษฐกิจมากกว่า เรื่องเรตติ้งก็จะเห็นภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ละครเพลิงรักเพลิงแค้นก็เริ่มมาดี หลังจากนี้ก็จะไปปล้ำกับลิขิตรักข้ามดวงดาวให้เรตติ้งขึ้น"
ไม่มีปัญหาพนักงานที่ออกไปมีการประท้วง บอกคนที่อยู่ต่อทุ่มเทมาก
"จริงๆ แล้วต้องเรียนถ้าคุยกับพนักงานทีมข่าวทั้งหมดผมว่าคนที่อยู่ต่อก็อยู่และทุ่มเท ส่วนที่มีกระแส ต้องเรียนว่าจำนวนคนไม่ได้เยอะ แต่แค่อาจจะดูเหมือนมีกระแส คนที่นิ่งก็คือคนที่อยู่กับเราต่อ จริงๆ แล้วในจังหวะนี้ผมอยากจะขอขอบคุณทีมข่าวว่าการปรับปรุงทั้งหมด มันไม่ใช่แค่ตัวฉาก แต่ไส้ในด้วย การที่เราคุยเรื่องกลยุทธ์ระยะเวลา 1 เดือนครึ่ง ทั้งหมดที่เราปรับมาเวลาไม่ได้เยอะ เลยเร่งกันเต็มที่ แล้วผมว่าถ้าไม่มีสปิริตของทีมข่าววันนี้เราคงแถลงข่าวไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมคิดว่าอันนี้มันคือผลงานของทีมข่าว ที่จะทำให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจากทีมที่เรามีอยู่ปัจจุบัน"
"ถามว่าการรวมโต๊ะข่าวแบ่งการทำงานกันอย่างไร ในแง่ของเรื่องข่าว จริงๆ แล้วบางคนเขารับหลายหมวดหมู่ก็จะมีความเชี่ยวชาญ ก็คือไอเดียจะมาจากทุกๆ คน เพราะฉะนั้นเราไม่ได้บอกว่าพึ่งความเชี่ยวชาญของโปรดิวเซอร์อย่างเดียว เป็นการคุยกันมากกว่า ว่าทำยังไงจะให้รายการออกมาโดดเด่นมากขึ้น การคุยกัน การปรับปรุงเกิดขึ้นจากทีมงานทั้งหมด ผมมองว่ามันเป็นการทำงานที่คล่องตัวมากขึ้น"
"จริงๆ แล้วที่สำคัญมันอยู่ที่ความต้องการของผู้บริโภค เหตุผลที่เราเน้นข่าวสังคม อาชญากรรมหรือบันเทิง เป็นเพราะด้วยฐานลูกค้าของผู้ชมช่อง 3 มันเป็น 3 ข่าว ที่เข้าถึงผ่านผู้ชมของเรา แล้วต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่มันอยู่ในกระแสของชีวิตประจำวัน นั่นคือสิ่งที่คนจะได้จากเรา"
"วันนี้บทบาทของทีวียังมีอยู่ ตรงที่เราต้องเป็นกระบอกเสียง เป็นข่าวที่เชื่อถือได้ เราจะไม่เอาข่าวที่ไม่ได้ตรวจเช็กมาก่อนเอามาพูดในรายการ อย่างเช้าตรู่จะมีรายการของทนายสงกรานต์ ที่จะเข้ามาช่วยประชาชน วันนี้ผมเชื่อว่ามีผู้ชมอีกเยอะที่บางครั้งไม่รู้ แต่ไม่รู้จะไปหาใคร ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง วิ่งมาหาเราได้เลย ถึงจุดหนึ่งที่เราคุยกันว่านอกเหนือจากรายการแล้ว ตอนนี้คุยกันอยู่ว่ารายสัปดาห์เราจะเปิดออฟฟิศไว้เลยให้มาที่ช่อง 3 ได้เลย มาคุยกับทีมงานของทนายสงกรานต์ ที่จะเป็นการปรึกษาเรื่องของคดี"
มั่นใจรายการข่าวจะทำได้ดีกว่านี้
"เหตุผลที่เราเน้นรายการข่าว เป็นรายการที่เราทำได้ดี อย่างที่ผมเรียนถ้าเราดูเรตติ้งปัจจุบัน เราทำได้ดี มันมีโอกาสที่เราจะทำได้ดีกว่านี้ ทั้งบนทีวีและช่องทางออนไลน์ ผมว่าข่าวเป็นหมวดหมู่ที่สำคัญของเรา เรามีไอเดียอีกเยอะ อันนี้เป็นจุดเริ่มต้นคอยติดตามดูว่าเราจะปรับอะไรอีก"
อยากให้ผู้บริโภคจดจำ ทั้งทีวีและโลกออนไลน์
"ตอนนี้เรตติ้งมันยังเน้นไปที่ทีวี แต่ว่าในโลกออนไลน์ ผมอยากให้เราเป็นที่จดจำของผู้ชม ผู้บริโภค ช่องทางออนไลน์ สิ่งที่เราจะเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายอีกกลุ่มหนึ่ง ที่อายุเด็กกว่าผู้ชมทีวี เพราะฉะนั้นรูปแบบการนำเสนอการทำข่าว เป็นการตัดต่อใหม่ด้วยซ้ำ ต้องตอบโจทย์ของคนที่อยู่ในโลกออนไลน์ เรื่องของการโฆษณาคงไม่ได้เข้ามาพร้อมกัน แต่เอารายการก่อน ส่วนเรื่องเรตติ้งอนาตตทีวีจะต้องวัดไปพร้อมกับออนไลน์"
ปรับโครงสร้างช่อง 13 กับ 28 มารวมกัน ไม่กระทบละคร แต่ต้นปีหน้าพร้อมปรับวาไรตี้และละคร
"จริงๆ แล้วการที่เราปรับผังรายการของเรา ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับละครของเราเลยนะครับ คือสิ่งที่เราปรับ รายการที่เราโยกขึ้นมา ไปอยู่ในช่วงเวลา ที่ไม่ได้แตะเวลาของละคร ละครก็ยังเหมือนเดิม แต่วันนี้สิ่งที่เราเน้น ก็คือที่เราแถลงข่าว คือรายการข่าว เรามองว่ารายการข่าว เป็นเฟดแรกของการปรับผังของเรา แล้วเฟดที่สอง ก็น่าจะเป็นต้นปีหน้า ก็จะเป็นรายการที่เป็นวาไรตี้ แล้วก็ละคร เพราะ 2 รายการนี้มันต้องใช้เวลา ทั้งในการแคนดิด ทั้งในการคุยอะไรต่ออะไร ส่วนรายการข่าว มันเป็นเรื่องของภายในมากกว่า ก็เลยเริ่มที่ข่าวก่อน"
"เพราะฉะนั้นการปรับโฉมของรายการข่าวของเรา มันประกอบด้วย 2 เรื่องหลักๆ เรื่องที่หนึ่งคือเราคิดว่าจุดยืนของเรา เราต้องการให้ข่าวช่อง 3 เป็นข่าวที่จริง ทันเหตุการณ์ และพึ่งพาได้ เหตุผลที่เราเน้น 3 ข้อนี้ เพราะว่าเรามองว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ยุคนี้สมัยนี้ จะตอบโจทย์ของผู้ชมของเราได้ ข่าวจริงเพราะอะไร เราจะเห็นได้จากกระแสที่เกิดขึ้น แต่ละข่าว เมื่อไหร่ที่เป็นประเด็นที่ใหญ่ เราจะเห็นว่าในโลกโซเชียล คนก็จะวิพากษ์วิจารณ์ แล้วมีทั้งเรื่องจริงเรื่องไม่จริง เรามองว่าเรา มีหน้าที่ที่จะเป็นกระบอกเสียงของข่าวจริง ที่ถูกเช็กเรียบร้อย เพราะฉะนั้นคุณมาฟังข่าวช่อง 3 คุณไว้วางใจเราได้เลย ว่าอันนี้เรากรองมาเรียบร้อยแล้ว"
ปัดต้องการขึ้นเม็ดขึ้นจากข่าวก่อนละคร ทุกอย่างสำคัญ แต่ขอปรับปรุงข่าวก่อน
"ไม่มีรายได้อะไรที่เป็นรองนะครับ ทุกอย่างสำคัญ แต่ว่าช่วงนี้ สิ่งที่เราปรับปรุงก่อนก็คือข่าว (เรตติ้งละครที่ลดลง มีผลกระทบต่อรายได้ของไหม?) จริงๆ แล้วต้องบอกว่าในช่วงนี้ สิ่งที่มีผลกระทบมากที่สุดกับทั้งอุตสาหกรรมก็คือพิษเศรษฐกิจครับ เศรษฐกิจช่วงนี้ สิ่งที่เราเจอคือภาวะน้ำท่วม แล้วก็เศรษฐกิจโดยภาพรวมด้วย อันนี้เป็นสิ่งที่มีผลกระทบมากที่สุดกับเม็ดเงินในวงการโฆษณา"
เผยกรณีเรตติ้งที่ลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากนักแสดงที่มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
"จริงๆ แล้วถ้าเราไปดูกระแส กระแสเข้ามาในเชิงบวกนะครับ ไม่ได้มีใครที่วิพากษ์วิจารณ์ในเชิงที่รุนแรง ผมว่ากระแสในจุดนั้น ลดลงไปเยอะนะ ถามว่าจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนักแสดงไหม เพราะสมัยก่อน นักแสดงของช่อง 3 ที่เป็นระดับนางเอก จะถูกวางตัวไว้อย่างดี จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องที่เราคุยกันอย่างต่อเนื่องอยู่แล้วกับนักแสดง จริงๆ แล้ววันนี้อยากจะเน้นเรื่องข่าวมากกว่านะ เรื่องละครเดี๋ยวเรามาคุยกันอีกทีก็ได้"
"แต่วันนี้สิ่งที่เราปรับ ซึ่งมันเป็นเรื่องสำคัญ ก็คือเรื่องของข่าวช่อง 3 แล้ววันนี้ถ้าเราดู แรงสำคัญและแรงขับเคลื่อนที่สำคัญก็คือผู้ประกาศข่าวและทีมงานข่าว ก็ต้องชื่นชมเขาว่าในระยะเวลาที่เราคุยมา เรามีเวลาแค่ 1 เดือนครึ่ง ที่เราจะปรับตัว แล้วเขาก็ทำได้ แต่นี่ขอถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นนะครับ ก็อย่างที่ผมเรียนไปเมื่อกี้ เราเน้นที่ 3 รายการก่อน เที่ยงวันทันเหตุการณ์ , เรื่องเด่นเย็นนี้ แล้วก็ ข่าว 3 มิติ แล้วรายการที่เหลือก็จะปรับภายในไตรมาสที่ 4 ครับ"
อีกหนึ่งเดือนพร้อมประกาศผลรายได้ไตรมาส 3
"ไตรมาสที่ 3 ก็เดี๋ยวจริงๆ แล้วประมาณอีกสักเดือนหนึ่ง เดี๋ยวเราจะประกาศผลอยู่แล้ว แนวโน้มเป็นอย่างไร ขออนุญาตยังไม่พูดนะครับ เพราะมันมีผล"